เมื่อวันที่
24 กรกฎาคม 2567 นายพิชัย ชุณหวชิร
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงถึงความคืบหน้าสำคัญของโครงการเติมเงิน
10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญ
ในเรื่องกำหนดการ ดังนี้
รัฐบาลจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 2567 และมีกำหนดการที่จะให้เริ่มใช้จ่ายในโครงการ ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567
คุณสมบัติประชาชน
1.เป็นประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน มีสัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (15 กันยายน 2567)
2.ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2565-66
3.ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
4.ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการโครงการอื่น ๆ ของรัฐ
5.ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
6.ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท
****โดยตรวจสอบข้อมูลเงินฝาก
6 ประเภท ได้แก่ (1) เงินฝากกระแสรายวัน (2) เงินฝากออมทรัพย์ (3) เงินฝากประจำ
(4) บัตรเงินฝาก (5) ใบรับเงินฝาก และ (6)
ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อ (1) - (5) ทั้งนี้เงินฝากดังกล่าวให้หมายความถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น
และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม และเป็นเงินฝาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
กำหนดการเข้าร่วมโครงการ
1.การลงทะเบียนประชาชนทั่วไป
ระหว่างวันที่
1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 จะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"
บนสมาร์ตโฟน โดยไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่าร่วมใช้สิทธิ์ในโครงการ ดังนั้น
ประชาชนทุกคนที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและมีคุณสมบัติครบถ้วน
ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการไว้จำนวน
45 - 50 ล้านคน
2.การลงทะเบียนประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน
ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการ
ได้ในระยะต่อไป โดยจะให้มีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด
(ระหว่างวันที่ 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567) ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ
สถานะบุคคล และที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้มีสมาร์ตโฟน
สำหรับส่วนของการใช้จ่ายนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชน
แต่การใช้สิทธิซื้อสินค้าจากร้านค้าจะทำได้ในวงแคบกว่าการใช้สิทธิของประชาชนกลุ่มที่มี
สมาร์ตโฟน
ดังนั้น
การลงทะเบียนผ่านสมาร์ตโฟนจะสามารถใช้งานได้สะดวกกว่า จึงแนะนำให้พยายามลงทะเบียนผ่านทางสมาร์ตโฟนก่อนเป็นอันดับแรก
3.การลงทะเบียนร้านค้า
การลงทะเบียนร้านค้า
ในเบื้องต้นกำหนดไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งจะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมเพื่อแจ้งเกี่ยวกับคุณสมบัติของร้านค้า
ช่องทางและวิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการ และเงื่อนไขอื่น ๆ ให้ทราบต่อไป
การใช้จ่ายในโครงการ
จะเริ่มใช้จ่ายได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2567 โดยมีเงื่อนไข คือ
1) การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า : ประชาชนจะสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น และในการซื้อสินค้า หากประชาชนมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในอำเภอใด ก็ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าในอำเภอเตียวกันเท่านั้น และต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) ซึ่งคำว่าซื้อขายแบบพบหน้านี้ จะมีการตรวจสอบ (1) ที่อยู่ของร้านค้าตามที่ลงทะเบียนโครงการ (2) ที่อยู่ของประชาชนตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการ และ (3) พิกัดที่อยู่ของประชาชนในขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้าต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกันการชำระเงินจึงจะสมบูรณ์
2)
การใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า : ร้านค้าทุกประเภทสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้
และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face
to Face) จึงซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้
3) ประเภทสินค้า: สินค้าทุกประเภทสามารถเข้าร่วมโครงการได้ ยกเว้น สินค้า Negative Listได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์อาจพิจารณาแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้าNegative List เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ การใช้จ่ายภายใต้โครงการ จะไม่รวมถึงบริการต่าง ๆ
ขั้นตอนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน
"ทางรัฐ" แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
1. รูปแบบที่ 1 การยืนยันตัวตนและลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ผ่านแอปพลิเคชัน
"ทางรัฐ"ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567
2. รูปแบบที่ 2 การยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" มาก่อนวันที่ 1
สิงหาคม 2567 แล้วจึงค่อยมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ผ่านแอปพลิเดชัน
"ทางรัฐ" ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567
ซึ่งจะทำให้คงเหลือขั้นตอนลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไป
ที่ง่ายและรวดเร็วกว่า
ดังนั้น
จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนเตรียมการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
"ทางรัฐ" และทำการยืนยันตัวตนล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น