ตุลาคมเดือนที่ปวงชนชาวไทยสูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเทิดทูนยิ่งถึง 2 พระองค์
คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคตในวันที่ 23
ตุลาคม พ.ศ.2453
และ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตในวันที่ 13
ตุลาคม พ.ศ.2559 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
บริษัท บ้านสวนธนบุรี จำกัด และกลุ่มศิลปาศรี
จัดนิทรรศการศิลปกรรม “เทิดพระเกียรติ 2 กษัตริย์ขัตติยมหาราช” แสดงผลงานศิลปะจาก
25 ศิลปินชั้นนำของประเทศไทย
น้อมถวายราชสดุดีแด่พระมหากษัตริย์ทั้ง 2 พระองค์
ทรงครองราชย์ ทรงมีคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่แผ่นดิน
ชาวไทยใต้ร่มพระบารมีต่างมีความผาสุกร่มเย็น
พระเกียรติคุณเป็นที่แซ่ซ้องประจักษ์ทั้งชาวไทยและนานาอารยประเทศ
เหล่าศิลปินถ่ายทอดแรงบันดาลใจแตกต่างกันผ่านศิลปะหลากหลายรูปแบบ
ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพยนตร์สั้น ที่จะทำให้ทุกคนประทับใจ
สร้างแรงบันดาลใจในการทำความดีให้กับแผ่นดิน
ภายในนิทรรศการครั้งสำคัญองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(องค์การมหาชน) หรือ อพท. ร่วมจัดนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า
ซึ่งพัฒนาพื้นที่บนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โอกาสนี้ ศ.พิเศษ ดร.จิรนิติ
หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานเปิดงาน ณ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่
เมื่อวันก่อน
ศ.พิเศษ
ดร.จิรนิติ หะวานนท์ กล่าวว่า
นิทรรศการศิลปกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อให้พสกนิกรไทยได้หวนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ 2
กษัตริย์ที่ทรงมีต่อประชาชน
และจารึกความทรงจำอันล้ำค่าผ่านงานศิลป์ที่งดงาม
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้ปฏิรูปประเทศในด้านการเมือง
การปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม
ทรงยกเลิกระบบทาสและริเริ่มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ประเทศไทยก้าวทันโลกสมัยใหม่
และทรงสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับประเทศ
ทำให้ไทยคงความเป็นเอกราชท่ามกลางการล่าอาณานิคมของมหาอำนาจในยุคนั้น
ขณะที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนา
ทรงริเริ่มโครงการในพระราชดำริยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกชนชั้น
โดยเฉพาะด้านการเกษตร การจัดการทรัพยากรน้ำ และการพัฒนาชนบท ทั้ง2พระองค์ทรงเป็นเสาหลักสำคัญสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ให้แก่ชาติบ้านเมือง
ทรงอุทิศพระวรกายและพระปัญญาเพื่อความสุขและความมั่นคงของประเทศ
ด้าน นายนิวัต
มหาบุณย์ ประธานกลุ่มศิลปาศรี กล่าวว่า
ผลงานของศิลปินที่รวบรวมมาแสดงในนิทรรศการเป็นเครื่องมือช่วยให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ
2 พระมหากษัตริย์
ผู้ทรงสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับชาติบ้านเมืองสะท้อนถึงการเป็นศูนย์กลางของความรักและความเมตตาที่พระมหากษัตริย์ทรงมีต่อประชาชน
เสมือนอ้อมกอดที่อบอุ่น คุ้มครองประชาชนตลอดมา
โดยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลงานศิลปะสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดลเพื่อยกระดับคุณภาพประชากรด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
หัวใจสำคัญนำพาประเทศสู่ความเจริญก้าวหน้า
น.ส.วาทินี
ห้วยแสน บรรณาธิการข่าวท่องเที่ยว นสพ.สยามรัฐ กล่าวว่า นิทรรศการศิลปกรรมเทิดทูน 2 กษัตริย์
จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ภูมิใจที่เป็นหนึ่งร่วมแสดงผลงาน
ซึ่งผลงานภาพถ่ายของตนได้บันทึกวินาทีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในเดือนตุลาคม
เดือนแห่งความโศกเศร้าของชาวไทยที่ต้องสูญเสียในหลวง ร.9 ที่ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2559
ตลอด 70 ปี
ครองราชย์ทรงเหน็ดเหนื่อยตรากตรำประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกร
อยากส่งต่อความรู้สึกรวมพลังทำประโยชน์เพื่อสังคม ชวนคนไทยร่วมน้อมถวายราชสดุดี 2 กษัตริย์ผ่านผลงานที่ศิลปินแห่งชาติ
ศิลปินร่วมสมัยรังสรรค์ มาชมแล้วเชื่อว่าจะพบกับความอบอุ่นในหัวใจ
ทรงสถิตย์ในหัวใจของพวกเราไม่เสื่อมคลาย ก่อนหน้านี้
ร่วมแสดงนิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ “บวร 10” เทิดพระเกียรติ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
น้องนิวเยียร์
– อัญมณี กระจ่างช่วย ประติมากรรุ่นเยาว์วัย 16 ปี ลูกสาว เอก
กระจ่างช่วย จิตรกรและประติมากรชื่อดัง ปั้นพระบรมรูปในหลวง รัชกาลที่ 9
ร่วมแสดงครั้งนี้ กล่าวว่า
ซึมซับจากการทำงานศิลปะของคุณพ่อทั้งงานปั้นและภาพเขียน เมื่อพ่อชวนปั้นพระบรมรูปในหลวงก็ไม่ลังเล ใช้เวลากว่า 2 ปี เพราะมีขั้นตอนตั้งแต่ปั้น แกะลวดลาย หล่อพิมพ์ ระหว่างทำงานปรับแก้ เพื่อให้ผลงาน 3 มิติ
ออกมาสมบูรณ์ที่สุด จนสำเร็จเป็นประติมากรรมชิ้นแรกในชีวิต
ภูมิใจได้ร่วมแสดงผลงานเพื่อน้อมรำลึกถึงร.9 พระมหากษัตริย์นักพัฒนา
ขณะนี้กำลังสร้างประติมากรรรมพระบรมรูปกรมสมเด็จพระเทพฯ ด้วย
นิทรรศการศิลปกรรม
“เทิดพระเกียรติ 2
กษัตริย์ขัตติยมหาราช” โดยกลุ่มศิลปาศรี
ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เชฟรอนประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด อพท.
และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB
กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น