วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

5 เหตุผลที่ไม่ควรพลาด “โอเปร่าวาไรตี้โชว์ : ตามรอยเสด็จประพาสยุโรป ร.5"

 


โอเปร่า (opera) หรืออุปรากร ศิลปะการแสดงบนเวทีชนิดหนึ่ง ที่รวมศิลปะหลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ ดนตรีซึ่งประกอบด้วยการขับร้องและการบรรเลงโดยวงดุริยางค์ วรรณกรรมที่ใช้เป็นเค้าโครงเรื่องของการแสดงรวมทั้งบทเนื้อร้องการแสดงและการเต้น การออกแบบเครื่องแต่งกายตลอดจนการแต่งหน้าให้เข้ากับท้องเรื่อง การออกแบบฉาก แสง เสียง เพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมาะสมตามท้องเรื่อง


ในวาระฉลองครบรอบ 120 ปี แห่งการก่อตั้งสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่ปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ได้จัดกิจกรรมการแสดงดนตรีพิเศษในชื่อชุด 1907: Rama V European Operatic Journey” ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 1 ธันวาคม 2567 ณ หอประชุมสยามสมาคมฯ ถนนอโศกมนตรี (สุขุมวิท 21)

คณะทำงานได้ศึกษาความสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับโอเปร่าของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้ค้นพบเรื่องราวการทอดพระเนตรโอเปร่า 7 เรื่องขณะเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2450 ยิ่งอ่านยิ่งพบ ยิ่งเจอยิ่งน่าค้นหา จนเกิดเป็นโชว์สุดพิเศษ 1907: Rama V European Operatic Journey” เพื่อเปิดประสบการณ์มนต์เสน่ห์ของศิลปะการแสดงและดนตรีสำหรับผู้ชมทุกผู้ทุกวัย โดยคณะศิลปินและนักดนตรีมากความสามารถ 50 กว่าชีวิต


สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เปิด 5 เหตุผล ที่ควรค่าแก่การมาชมการแสดงดนตรีชุดพิเศษ 1907: Rama V European Operatic Journey” ครั้งนี้

ประการแรก การแสดงดนตรีชุดพิเศษ 1907: Rama V European Operatic Journey” ได้แรงบันดาลใจมาจากเนื้อหาในหนังสือที่ชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีอย่าง พระราชนิพนธ์ไกลบ้านหนังสือรวมพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงส่งมาพระราชทานแก่พระราชธิดา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี ขณะเสด็จเยือนประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปเมื่อปีพ.ศ. 2450 หรือค.ศ. 1907

นอกจากเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เผยให้เห็นวัฒนธรรมยุโรปในเวลานั้นแล้ว เนื้อหาในพระราชนิพนธ์ไกลบ้านยังปรากฏรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเสด็จเยือนโรงละครหลายแห่งเพื่อทอดพระเนตรโอเปร่าถึง 7 เรื่อง อันเป็นที่มาของการแสดงชุดพิเศษครั้งนี้


ประการที่สอง การแสดงครั้งนี้จะพาผู้ชมตามรอยเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กลับสู่โลกแห่งมหรสพยุโรปสมัยต้นคริสศตวรรษที่ 20 ผ่านฉากที่น่าสนใจจากโอเปร่าทั้ง 7 เรื่อง ซึ่งท้าทายทักษะของศิลปินและนักดนตรี ทั้งในด้านการขับร้อง การแสดง บัลเล่ต์ และการบรรเลงดนตรี นำมาร้อยเรียงต่อกันเป็นการแสดง 2 องก์ ความยาว 2 ชั่วโมงเศษ พร้อมการตีความในทุกมิติเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน

ประการที่สาม ผู้ชมจะรู้สึกเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของโชว์ (immersive) จากการออกแบบฉากการแสดงซึ่งผู้ออกแบบได้เพิ่มพื้นที่การแสดงบนรันเวย์ที่สร้างขึ้นใหม่กลางหอประชุม เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกใกล้ชิดกับศิลปิน เพิ่มอรรถรสในการดื่มด่ำความสละสลวยของดนตรีและบทร้อง และความซาบซึ้งกินใจของท้องเรื่อง ผู้ที่คุ้นเคยกับโอเปร่าจะได้พบกับความแปลกใหม่ในการนำเสนอโอเปร่าทั้ง 7 เรื่อง และผู้ชมโอเปร่าครั้งแรกจะได้เปิดประสบการณ์การชมศิลปะการแสดงในแบบที่หาไม่ได้ในโรงละครทั่วไป

ประการที่สี่ ในครั้งนี้มีการวบรวมศิลปินมากความสามารถจากหลากหลายแขนงทั้งชาวไทยและต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น คุณ Martin Ng นักร้องเสียงบาริโทนชาวสิงคโปร์ ผู้โด่งดังในวงการดนตรีคลาสสิกทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณ มู่ หยู นักร้องเสียงโซปราโนชาวจีน ผู้กำลังศึกษาปริญญาเอกด้าน voice performance ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คุณวรปรัชญ์ วงศ์สถาพรพัฒน์ วาทยากรชาวไทยดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งสาขาดนตรี มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และเจ้าของรางวัล Grand Prize จากรายการประกวด SCG Young Thai Artist Award in Composition 2020 คุณธาริน ปริญญาคณิต ผู้กำกับโอเปร่าชาวไทยจากรั้วสถาบัน Verona Accademia per l’Opera Italiana ประเทศอิตาลี และคุณแดเรน รอยส์ตัน นักออกแบบท่าเต้นชาวอังกฤษ


ประการสุดท้าย การแสดงครั้งนี้ชุบชีวิตฉากของโอเปร่าบางเรื่องที่รัชกาลที่ 5 ทอดพระเนตร แต่ได้หายไปจากความนิยมในปัจจุบันแล้วให้กลับมาใหม่ ผ่านกระบวนการสืบค้นและระบุชื่อเรื่องด้วยการเปรียบเทียบเนื้อหาของพระราชนิพนธ์ไกลบ้าน กับข้อเท็จจริงในหนังสือพิมพ์และนิตยสารบันเทิงภาษาฝรั่งเศส อิตาเลียนและอังกฤษสมัยปี ค.ศ. 1907 โดย ดร.พีรพัฒน์ อ่วยสุข ผู้เก็บข้อมูล อาศัยฐานข้อมูลห้องสมุดและจดหมายเหตุในยุโรป จนพบหลักฐานกำหนดการแสดงมหรสพในวันและสถานที่ซึ่งตรงกับข้อมูลในพระราชหัตถเลขา นอกจากจะช่วยระบุชื่อเรื่องได้แล้ว ยังเผยให้เห็นข้อเท็จจริงอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นรายนามนักแสดง คำวิจารณ์การแสดงของสื่อมวลชน บันทึกเสียงของนักแสดง ตลอดจนภาพร่างฉากการแสดงและเสื้อผ้า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์การแสดงชุดนี้ทั้งสิ้น

ดร.พีรพัฒน์ อ่วยสุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้าง เปิดเผยว่า สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งเสริมการศึกษา แบ่งปัน และแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ศิลปะ รวมถึงการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมและธรรมชาติ โดยในวาระ 120 ปี สยามสมาคมฯ ได้เปิดโอกาสให้ศิลปินนักแสดงหน้าใหม่มากความสามารถ ที่ถือว่าเป็นดาวรุ่งของวงการมากมาย ให้มีพื้นที่แสดงทักษะเพื่อนำเสนออรรถรส ที่มีทั้ง ดราม่า ความสนุกสนานและสีสันมากมาย ในโอเปร่าวาไรตี้โชว์ครั้งนี้ให้ผู้ชมได้รู้สึกอิ่มเอม  

คุณธาริน ปริญญาคณิต ผู้กำกับโอเปร่า กล่าวว่า เรื่องราวของในปี ค.ศ.1907 ได้ถูกนำมาร้อยเรียงแล้วนำมาตีความใหม่ เพื่อนำผู้ชมไปหาประสบการณ์ในห้วงเวลานั้นๆ ไปพร้อมๆ กันกับนักแสดง โดยได้ขมวดซีนต่างๆ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมหลากหลาย ที่เชื่อว่าการแสดงกว่า 2 ชั่วโมงนี้จะพาไปสู่ความแปลกใหม่ ที่ให้คนดูได้ใกล้ชิดกับนักแสดงเหมือนการดูละคร เสมือนเราเป็นหนึ่งในเรื่องราวนั้นๆ ไปพร้อมๆ กัน  

คุณแดเรน รอยส์ตัน ผู้ออกแบบท่าเต้นและผู้เล่าเรื่องในการแสดง เปิดเผยว่า ความท้าทายในโชว์ครั้งนี้ที่เกี่ยวข้องกับตนเองมี 2 ส่วน ได้แก่ การเล่าเรื่องด้วยภาษา และการเรื่องด้วยท่าเต้น โดยทั้งหมดถูกหลอมรวมเป็นเรื่องเดียวกัน บวกกับคัดสรรเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากพระราชนิพนธ์มาเล่าให้เกิดความสนุก กลายมาเป็นโอเปร่าทั้ง 7 เรื่อง ให้ผู้ชมได้รู้สึกเชื่อมโยงไปพร้อมๆ กัน  

ด้าน คุณมู่ หยู นักร้องเสียงโซปราโนชาวจีน เล่าว่า รู้สึกโชคดีมากๆ ที่เวทีแห่งนี้ได้เปิดโอกาสได้ตนมาสวมบทบาทเป็น โจโจ้ซังเกอิชาสาวงามชาวญี่ปุ่น เด็กสาวแสนซื่อ ผู้ได้รับสมญาว่ามาดามบัตเตอร์ฟลาย ยึดมั่นในการสมรสเป็นข้อผูกพันชั่วชีวิต เป็นตัวละครที่เชื่อในความรัก และตัวเองก็เป็นคนที่ศรัทธาในเรื่องความรักเช่นกัน สำหรับโชว์ครั้งพิเศษนี้ ตนจะต้องแสดงอารมณ์ของตัวละครที่ปรับเปลี่ยนขึ้นลงในฉากดราม่าหลายฉาก นับว่าเป็นความท้าทายมากๆ และรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสที่ได้มาแสดงในสถานที่ที่มีเรื่องราวมาอย่างยาวนานถึง 120 ปี  

การแสดงดนตรีพิเศษชุด 1907: Rama V European Operatic Journey” จะจัดขึ้น ณ หอประชุมสยามสมาคมฯ ถนนอโศกมนตรี (สุขุมวิท 21) รอบแรก ในวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น.รอบที่ 2 วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น.รอบที่ 3 วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น.รอบสุดท้ายวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2557 เวลา 16.00 น. ราคาบัตร 2,000 บาท (ทุกที่นั่ง ไม่ระบุที่นั่ง) และรอบพิเศษเฉพาะนักเรียน นักศึกษา วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.00 น. ราคาบัตร 600 บาท (ทุกที่นั่ง ไม่ระบุที่นั่ง)

เริ่มจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่อีเมล : [email protected] โทรศัพท์. 02-661-6470 (เฉพาะเวลาทำการ อังคาร-เสาร์ 9.00 17.00 น.) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thesiamsociety.org/ หรือเฟสบุ๊ก : TheSiamSocietyUnderRoyalPatronage

รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนเพื่อพัฒนากิจกรรมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

++++++++

กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง

 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์