นายทุนเหิมว่าจ้างรถแทรกเตอร์ดันดินตีนตะขาบเข้าไปแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติฯ จุดที่มีการดำเนินคดีไปแล้ว ยังกล้าเข้าไปแผ้วถางจนโล่งเตียน คนขับไหวตัวทิ้งรถหลบหนี แต่พบพยานหลักฐานสำคัญสัญญาเช่าที่ดินและว่าจ้างรถแทรกเตอร์มาปรับพื้นที่แห่งนี้เร่งสืบหาตัวการ
นายเจนายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.13(แม่เมาะ) ภายใต้การอำนวยการของนายจีระ ทรงพุฒิ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) นายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ร.ต.ท.วสุอนันต์ สารีพันธ์ รอง สว.(ป) กก.4 บก.ปทส. ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส.ฯ ตำรวจ สภ.แม่เมาะ จ.ลำปาง นำโดย พ.ต.อ.ฤกษ์ชัย แสงสว่าง ผกก.สภ.แม่เมาะ สนธิกำลัง ฝ่ายปกครองอำเภอแม่เมาะ เข้าตรวจสอบ
หลังได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่า มีนายทุนนำรถแทรกเตอร์ดันดินตีนตะขาบ เข้าไปในพื้นที่บุกรุกแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติฯ ที่อยู่ติดถนนหมายเลข 1348 ท้องที่บ้านปงชัย หมู่ 5 ต.แม่เมา อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยจุดนี้เมื่อปี 2558 ได้มีการตรวจยึดจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังมีการเข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่าซ้ำอีกครั้ง โดยใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่ามีการล้อมรั้วมิดชิดมีประตูทางเข้าออกด้านเดียว เจ้าหน้าที่จึงเดินเท้าเข้าตรวจสอบ
ระหว่างนั้น คนขับรถแรกเตอร์ฯเห็นเจ้าหน้าที่ ได้จอดรถแทรกเตอร์แล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามตัวไม่ทัน แต่พบพยานหลักฐานสำคัญ คือหนังสือสัญญาเช่าพื้นที่แห่งนี้ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คือมีการะบุเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว เป็นหญิงรายหนึ่ง และระบุชื่อเจ้าของรถแทรกเตอร์ฯที่มารับจ้างปรับพื้นที่ เป็นชาย 1 ราย และคนขับรถแทรกเตอร์ฯเป็นชายที่หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการตรวจยึดรถแทรกเตอร์ฯไปกับรักษาพร้อมดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายทันที
โดยได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษตามบุคคลที่มีรายชื่อดังกล่าวที่ สภ.แม่เมาะ จ.ลำปาง กระทำผิด
พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ,มาตรา 72 ฐาน"ร่วมกัน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครอง เพื่อตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต"
พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน"ร่วมกัน ก่อสร้าง เผาป่า ยึดถือครอบครองป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต"
ประมวลกฏหมายที่ดิน มาตรา 9 ประกอบ มาตรา 108 ทวิ ฐาน“ร่วมกัน เข้าไปยึดถือครอบครอง รวมตลอดถึงก่นสร้าง หรือเผ่าป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมเสียสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด ที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่ง สิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น