วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เมื่อไรจะมีใครสนใจพิพิธภัณฑ์



บริเวณห้าแยกหอนาฬิกา ซึ่งเปรียบดังแลนด์มาร์กของเมืองลำปางเรา คึกคักไปด้วยรถม้าวิ่งไปวิ่งตลอดทั้งวัน เสียงกุบกับ ๆ ฟังแล้วเพลิน เมื่อก่อนเรายังเคยเห็นรถม้าจอดให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพคู่กับหอนาฬิกา การถ่ายภาพให้ทั้งตัวเอง ทั้งรถม้า ทั้งหอนาฬิกา อยู่ในเฟรมเดียวกันคงต้องใช้เวลาเล็งแล้วเล็งอีก จึงอาจทำให้การจราจรบริเวณนั้นปั่นป่วนได้ เดี๋ยวนี้รถม้าส่วนใหญ่จึงไม่จอดให้นักท่องเที่ยวลงมาถ่ายภาพกันอีก

เส้นทางรถม้าเปิดมุมมองให้นักท่องเที่ยวรู้จักเมืองลำปางกว้าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและได้บรรยากาศ อย่างน้อยก็มีคนรู้จักแม่น้ำวัง บ้านเสานัก จวนผู้ว่าฯ กาดกองต้า สวนเขลางค์ ฯลฯ เพิ่มขึ้น เสียดายอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เราไม่มีโอกาสแนะนำตัวเองให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักอย่าง เข้าใจทั้งที่บริเวณห้าแยกหอนาฬิกานั้น มีจุดเล็ก ๆ จุดหนึ่งน่าสนใจ และน่าจะเป็นตัวแทนบอกเล่าถึงเมืองลำปางได้

ภายในอาคารสำนักงานเทศบาลหลังเก่าเป็นที่ตั้งของ ปูมละกอน ซึ่งให้คำนิยามตัวเองว่า พิพิธภัณฑ์เมืองของชาวลำปาง เปิดให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 โดยที่ชาวลำปางหลายคนไม่รู้ ?!?!

เทศบาลนครลำปางสร้างพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ แห่งนี้ขึ้น เนื่องจากยังไม่เคยมีการเผยแพร่และจัดแสดงเรื่องราวของเมืองลำปางในลักษณะพิพิธภัณฑ์เมืองมาก่อน มีเนื้อหาแสดงเหตุ ปัจจัย เงื่อนไข และบทบาทของสิ่งที่กำหนดจิตวิญญาณในแต่ละยุคสมัย เพื่อให้ผู้ชมเห็นตัวอย่างจากอดีต และเกิดแรงบันดาลใจในการกำหนดทิศทางนครลำปางทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยกลุ่มผู้ชมหลักคือชาวลำปางทุกเพศทุกวัย แต่เน้นไปที่เยาวชน

ก่อนการเดินชมพิพิธภัณฑ์ เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับเมืองลำปาง ถ่ายทำโดยรายการท่องเที่ยวรายการหนึ่งที่มีพิธีกรคือ แคท รัตติกาล นักร้องคนดังคนลำปาง ผู้ชมจะได้รู้จักเมืองลำปางคร่าว ๆ ผ่านแหล่งท่องเที่ยวเด่น ๆ อย่างวัดพระธาตุลำปางหลวง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน บ้านป่าเหมี้ยง และดอยขุนตาน จากนั้นจึงค่อยเดินขึ้นไปบนชั้นสอง ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการถาวร

ส่วนแรก โถงจิตวิญญาณ พื้นที่ส่วนแรกและส่วนสุดท้ายของการจัดแสดง ทำหน้าที่แสดงแนวคิดหลักของพิพิธภัณฑ์ กล่าวถึงผู้กำหนดบทบาทและทิศทางของเมืองลำปางในแต่ละยุคสมัย ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เกิดคำถามและค้นหาคำตอบในเวลาเดียวกัน เมืองพันปีที่มีเจ้าชีวิต ส่วนนี้บอกเล่าบทบาทของเจ้าเมืองทางเหนือในอดีต โดยนำเสนอผ่านตำนานนางสุชาดาและข้อมูลเมืองลำปางโบราณ ๓ ยุคสมัย สังคมอินเตอร์ แสดงเรื่องราวเมืองลำปางในสมัยรัชกาลที่ 5-6 ว่ามีการหลั่งไหลเข้ามาของคนหลากหลายชาติพันธุ์ การทำป่าไม้ และการค้าขายในย่านตลาด สีสันจากบางกอก การมาถึงของรถไฟที่ไม่เพียงนำสินค้าจากกรุงเทพฯ มายังเมืองลำปางเท่านั้น แต่หมายรวมวัฒนธรรมที่ทันสมัยต่าง ๆ จากเมืองหลวงด้วย การกลับมาของคำสาป จุดเปลี่ยนทำให้เมืองลำปางที่เคยคึกคักกลับชะงักงันในหลาย ๆ ด้าน พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า หรือนี่จะเป็นไปตามคำสาปของเจ้าแม่สุชาดา และสุดท้ายส่วนของ ฮอมแฮงแป๋งเวียง แสดงเรื่องราวในยุคปัจจุบันที่มีคนรุ่นใหม่เสนอความคิดเห็นต่าง ๆ อันมีประโยชน์ต่อเมืองลำปาง ด้วยตระหนักว่า เมืองของเราก็คืออนาคตของเรา

ปูมละกอน เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์-วันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ นาฬิกา แต่โดยทั่วไปแล้วบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ส่วนจัดแสดงหลายส่วนก็ยังรอการปรับปรุง

ดูเหมือนนักท่องเที่ยวไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องราวในอดีต แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม โบราณคดี ถ้าไม่ได้มีชื่อเสียงจริง ๆ ก็ไม่ได้รับการเหลียวแล นักท่องเที่ยวไทยเวลาไปเที่ยวต่างประเทศชอบดูอะไรที่ทันสมัย (ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะบ้านเราไม่มี) อย่างไปญี่ปุ่นก็อยากนั่งรถไฟชินคันเซ็นที่มันปรู๊ดปร๊าดมากกว่าจะเลือกเนิบนาบอยู่แถววัดเก่าในเกียวโต จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นวัดวาอารามพากันแปลงโฉมโบสถ์ วิหาร ภาพจิตรกรรมฝาผนัง หรือแม้แต่ลายคำ จนใหม่เอี่ยมเพื่อเอาใจคณะศรัทธา ไม่เหลือความเก่า ความขลังที่มีคุณค่าไว้บ้างเลย

พิพิธภัณฑ์ในเมืองไทยบก็พอมีอยู่ โดยเฉพาะในเขตภาคเหนือนั้น มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโดยกรมศิลปากรขึ้นที่เชียงใหม่ น่าน และเชียงแสน โดยมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย จังหวัดลำพูน เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกสุดของภาคเหนือ ขณะที่พะเยา แพร่ และลำปางยังเงียบอยู่ โบราณวัตถุของจังหวัดที่ยังไม่มีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเหล่านี้ จึงยังคงตกค้างอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย หลายชิ้น สำหรับโบราณวัตถุของบ้านเราก็คือ ช่อฟ้าวัดพระธาตุเสด็จนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม จังหวัดไหนที่มีพิพิธภัณฑ์เป็นของตนเองแล้ว ก็ต้องทำให้ร่วมสมัยด้วย จะได้ไม่ต้องเกิดคำถามว่า อะไรที่ทำให้คนไทยไม่เที่ยวพิพิธภัณฑ์ สาเหตุอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เองที่ทำตัวทึนทึก หรืออยู่ที่ตัวนักท่องเที่ยวที่ไม่สนใจประวัติศาสตร์รากเหง้า...คำตอบอยู่ที่ไหน คงล่องลอยอยู่ในสายลมกระมัง


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 976 ประจำวันที่  2 - 8 พฤษภาคม 2557) 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์