วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557

10 เรื่องเมืองลำปางที่คุณไม่เคยรู้



กุลธิดา สืบหล้า...เรียบเรียงจาก NaiRobRoo.com
 
นับว่าท้าทายยิ่งนักสำหรับคนลำปางหากได้เห็นเว็บไซต์NaiRobRoo.com หรือ นายรอบรู้ นักเดินทาง ซึ่งเป็นคู่มือเดินทางท่องเที่ยวของสำนักพิมพ์สารคดีที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองลำปาง 10 เรื่องไว้อย่างน่าสนใจ แถมยังเคลมว่าเป็นเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเสียด้วย

คนลำปางลองดูว่าในจำนวนทั้ง 10 เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อนจริงหรือ ถ้าจริงจะได้รีบเก็บข้อมูลไว้ในฐานะเจ้าของบ้าน

1. ทำไมลำปางต้องมีไก่เป็นสัญลักษณ์
เครื่องหมายดวงตราประจำจังหวัดลำปาง คือ ไก่ขาว มีความเกี่ยวข้องกับตำนานกุกกุฏนครที่เล่าขานถึงการกำเนิดเมืองลำปาง เมื่อครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดสัตว์ ณ ชุมชนที่ตั้งเมืองลำปางในปัจจุบัน เรื่องนี้รู้ถึงพระอินทร์ ทรงเกรงว่าชาวบ้านจะตื่นไม่ทันใส่บาตรพระพุทธองค์ จึงได้เนรมิตไก่ขาวให้ขันปลุกชาวบ้านตื่นขึ้นมาใส่บาตรได้ทัน ด้วยเหตุนี้ ลำปางจึงมีรูปไก่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง

2. ซื้อเซรามิกริมข้างทางถูกกว่าในร้านช็อป
ใครต้องการซื้อเซรามิกแบบเน้นปริมาณ แนะนำร้านตามรายทาง เพราะมีเซรามิกจำนวนมากที่วางเรียงกันตั้งแต่ราคาหลักสิบถึงหลักพัน แต่ถ้าใครเน้นในเรื่องคุณภาพ หรือการออกแบบ มุ่งหน้าไปตามร้านเซรามิกชื่อดังของเมืองลำปางได้เลย เช่น ร้านอินทราเอาท์เลต กะลาเอาท์เลต หรือธนบดี เป็นต้น

3. จุดชมทิวทัศน์แบบ 360 องศา
วัดพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (เฉลิมพระเกียรติครบ 200 ปี) อำเภอแจ้ห่ม ถือเป็นจุดชมทิวทัศน์แห่งใหม่ของเมืองลำปางที่เห็นทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศา โดยจากบริเวณวัดต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อขับขึ้นไปยังที่จอดรถที่เรียกว่า ดอยภูผาหมอก จากนั้นเดินเท้าต่อขึ้นไปบนจุดชมทิวทัศน์สูงสุด คือ ยอดดอยภูผาโชค รวมระยะทาง 1 กิโลเมตร ใครสนใจต้องติดต่อทางวัดก่อน โทรศัพท์ 08-9952-0557 เนื่องจากวัดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม นักท่องเที่ยวควรให้ความเคารพ ไม่ส่งเสียงดัง

4. แอ่งน้ำใสราวสระมรกต
หล่มภูเขียว ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท อำเภองาว สันนิษฐานว่าเกิดจากการถล่มของปากปล่องภูเขาไฟจนเกิดเป็นแอ่งน้ำลึกสีฟ้าใส ยิ่งในช่วงที่แสงแดดส่องลงไปกระทบกับน้ำสีฟ้าจะสะท้อนแสงสวยงาม ช่วงที่ควรไปท่องเที่ยว คือ ปลายฝนต้นหนาว ขอเตือนว่าอย่าลงเล่นน้ำเด็ดขาด เพราะมันลึกมาก

5. ยืนบนชายแดนลำปาง-เชียงใหม่
จุดชายแดนนี้ คือ กิ่วฝิ่น ความสูง 1,517 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แบ่งจังหวัดลำปางกับจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 4074 ห่างจากบ้านป่าเหมี้ยงในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนไปประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเส้นเขตแดนกั้นระหว่างอำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง กับอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงฤดูหนาวยังมีดอกเสี้ยวบานสะพรั่งให้ชมด้วย

6. จักจั่นเล่นน้ำพุร้อน
ช่วงกลางฤดูร้อน บริเวณน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนจะมีจักจั่นนับพันตัวออกมาจากป่าเบญจพรรณในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน เพื่อมาดื่มน้ำอุ่นและผสมพันธุ์ในช่วงกลางดึก นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าตื่นตา

7. บ้านนี้มีแต่หน้าต่าง
ป่อง ในภาษาพื้นถิ่นเหนือ หมายถึง หน้าต่าง ส่วนคำว่า นัก ก็คือ มาก บ้านป่องนักจึงหมายถึง บ้านที่มีหน้าต่างมากนั่นเอง ตั้งอยู่ภายในมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี อำเภอเมืองฯ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2468 เพื่อใช้เป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 7 คราเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเยี่ยมราษฎรแถบมณฑลพายัพ มีหน้าต่างทั้งหมด 250 บาน เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกที่ประยุกต์ให้เข้ากับลักษณะภูมิอากาศเมืองไทย ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในอดีต รวมทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์

8. ระวังเรื่องวันเวย์
ในย่านตัวเมืองลำปางมีทางวันเวย์อยู่หลายเส้นทาง นักท่องเที่ยวต้องดูสัญลักษณ์ให้ดี โดยเฉพาะย่านใจกลางเมืองบริเวณถนนบุญวาทย์และถนนทิพย์ช้าง เป็นต้น

9. เมืองนี้มีแต่วัดพม่า
ลำปางได้ชื่อว่ามีวัดศิลปะพม่ามากที่สุดในประเทศไทย นับเนื่องจากสมัยรัชกาลที่ 5 เมืองลำปางที่อุดมไปด้วยไม้สักจำนวนมหาศาล ย่อมเป็นที่หมายปองของบรรดาบริษัทค้าไม้ต่างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมดินแดนต่าง ๆ รอบ ๆ สยามประเทศอยู่ในขณะนั้น ได้เข้ามาขอสัมปทานค้าไม้จากราชสำนักสยามที่กรุงเทพฯ เพื่อทำอุตสาหกรรมไม้ในเขตเมืองลำปาง ครั้งนั้นบริษัทค้าไม้ขนาดใหญ่สัญชาติอังกฤษได้สัมปทานไป จึงเข้ามาพร้อมแรงงานชาวพม่าที่อยู่ในความคุ้มครองของนายจ้างชาวอังกฤษ ชาวพม่ามีความชำนาญในการทำไม้ เมื่อได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจค้าไม้ ทำให้มีโอกาสสะสมทุนกลายเป็นคหบดีร่ำรวย และด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า จึงสร้างวัดขึ้นในถิ่นที่ตนเองทำธุรกิจ จุดเด่นของวัดพม่าที่เห็นชัด คือ สร้างด้วยไม้และแกะสลักอย่างละเอียดลออ วัดพม่าที่น่าสนใจควรแวะเที่ยวชม  ได้แก่ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามและวัดศรีชุม ซึ่งอยู่ในตัวเมือง

10. ปรากฏการณ์เงาพระธาตุมีมากกว่า 1 ที่
หลายคนอาจรู้จักปรากฏการณ์เงาพระธาตุที่วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จริง ๆ แล้วลำปางยังมีอีก 2 วัดที่มีเงาพระธาตุเช่นกัน คือ วัดพระธาตุจอมปิง อำเภอเกาะคา และวัดอักโขชัยคีรี อำเภอแจ้ห่ม ช่วงใกล้เที่ยงนับเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการดูเงาพระธาตุ ทั้งนี้ ในวิหารต้องมืดสนิท การปรากฏเงาพระธาตุเป็นทฤษฎีเรื่องการหักเหของแสง ซึ่งมีหลักการทำงานเหมือนกล้องรูเข็ม

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 982 ประจำวันที่  13 - 19 มิถุนายน 2557)

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์