วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

ทดลองสารฆ่าจอก ผอ.กิ่วลมหวั่นกระทบ


 


ผอ.กิ่วลมติงนายอำเภอแจ้ห่ม ทดลองใช้สารชีวภัณฑ์ในอ่างเก็บน้ำกิ่วลมไม่ขออนุญาตอาจมีผลเสีย แนะให้มาทดลองร่วมกับโครงการฯ เพราะเตรียมสถานที่ไว้แล้ว หากได้ผลชัดเจนและไม่มีผลกระทบ พร้อมที่จะเสนอผู้ว่าฯอนุมัติ  ขณะเดียวกันปัญหาจอกหูหนูที่เกิดที่อ่างเก็บน้ำแม่ตีบ จ.ลำพูน ยังคงไม่สามารถแก้ปัญหาได้  นายกเทศมนตรีมะเขือแจ้ ยันใช้สารชีวภัณฑ์แล้วจอกตาย แต่ไม่มีงบประมาณดำเนินการ จอกหูหนูจึงแพร่เต็มผืนน้ำเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 14 ม.ค.58 ที่ผ่านมา นายสันติ นฤมิตร นายอำเภอแจ้ห่ม  ได้ทำการทดลองสารชีวภัณฑ์กำจัดจอกหูหนู บริเวณท่าแพสำเภาทอง ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง  ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทางเกษตรอำเภอแจ้ห่ม เทศบาลตำบลบ้านสา ผู้ใหญ่บ้านสาแพะ  และชาวแพสำเภาทอง โดยได้นำไม้ไผ่จำนวน 600 ลำ ช่วยกันกั้นพื้นที่จอกหูหนูที่กระจายอยู่ในอ่างเก็บน้ำ และทดลองใช้สารชีวภัณฑ์ฉีดพ่นลงไปที่จอกหูหนูในอ่างเก็บน้ำจำนวนหนึ่ง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 1 แสนบาท จากบริษัทปูนซิเมนต์ไทยลำปาง จำกัด

ว่าที่ร้อยตรีดุจเดี่ยว วงศ์ภักดิ์ เกษตรอำเภอแจ้ห่ม เปิดเผยว่า การทดลองใช้สารชีวภัณฑ์ ได้สาธิตเพียง 1 ถังประมาณ 10 ลิตร โดยฉีดพ่นลงไปที่จอกหูหนู จากนั้นอีก 3 วันก็จะมาติดตามผล สำหรับสารชีวภัณฑ์ดังกล่าวได้สั่งมาจาก จ.เชียงราย ซึ่งรับรองว่าไม่มีผลข้างเคียงกับสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยัง นายฤทัย พัชรานุรักษ์ ผอ.โครงการส่งน้ำกิ่วลมและกิ่วคอหมาว่าทราบเรื่องการทดลองใช้สารชีวภัณฑ์หรือไม่  นายฤทัย  กล่าวว่า  ทางนายอำเภอแจ้ห่มไม่ได้มีการแจ้งให้ทางตนทราบแต่อย่างใด แต่ที่ทราบเนื่องจากมีคนสอบถามเข้ามาที่ตนหลายคน จึงได้นั่งเรือตรวจสอบพื้นที่ในอ่างเก็บน้ำ และเดินทางไปที่ท่าแพสำเภาทอง ก็ได้พบกับนายอำเภอโดยได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันในเบื้องต้นว่า ตนเองเคยคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดและประมงจังหวัดไปก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน ธ.ค. 57 ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมาเปิดโครงการทำปุ๋ยหมัก ซึ่งก็ได้รายงานเรื่องสารชีวภัณฑ์ให้ทางผู้ว่าฯได้รับทราบ ทางผู้ว่าฯ กับประมงจังหวัดได้กล่าวว่า การใช้สารต่างๆไม่ว่าจะเป็นสารชีวภัณฑ์หรือสารสมุนไพรใดก็ตาม หากไม่มีผลยืนยันที่ชัดเจนและไม่ได้รับการรับรองผลก็ไม่ควรนำมาใช้ เพราะอาจจะได้รับผลกระทบกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ภายในน้ำและระบบนิเวศ จนกว่าจะมีการรับรอง ในเรื่องนี้ตนได้ชี้แจงให้นายอำเภอได้เข้าใจ เพราะการทดลองใช้สารชีวภัณฑ์ทางนายอำเภอก็ไม่ได้มีการขออนุญาตกับทาง โครงการฯก่อน หากมีผลกระทบเกิดขึ้นก็จะต้องรายงานให้กับทางผู้ว่าฯทราบ

ผอ.โครงการฯ กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องของการทดลองการใช้สารชีวภัณฑ์ที่กล่าวถึงกันนี้ ทางโครงการฯได้มีการเตรียมสถานที่ทดลองไว้ เป็นสระน้ำที่อยู่ภายในโครงการโดยได้มีการนำจอกหูหนูมาเลี้ยงไว้รวมกับปลาในสระ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนก็ได้ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านสาแพะว่าขอให้นำสารชีวภัณฑ์มาทำการทดลองในสระที่เตรียมไว้ร่วมกับทางโครงการฯ เพื่อจะได้ติดตามผล ซึ่งจะต้องเห็นผลจริงและชัดเจน ให้เกิดความมั่นใจได้ว่าทำแล้วไม่กระทบกับปลาที่อยู่ในสระ และจอกหูหนูตายจริง ก็จะรายงานให้ผู้ว่าฯทราบ หากผู้ว่าฯอนุญาตให้ใช้ก็สามารถทำได้

เมื่อสอบถามถึงปัญหาจอกหูหนูที่ยังคงแพร่กระจายอยู่กลางอ่างเก็บน้ำ  นายฤทัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่าตอนนี้ยังกระทบไม่มาก ทางเรือแพยังสามารถล่องผ่านกลางแม่น้ำได้ โดยจะได้ทำการล้อมกรอบจอกหูหนูใหม่ เนื่องจากไม้ไผ่ที่นำมาล้อมไว้ครั้งแรกไม่แข็งแรงจึงทำให้แตกออกมา  นอกจากนี้ทางโครงการได้ทำการสำรวจจุดที่พบปัญหา นำรายละเอียดต่างๆไปลงพิกัดในแผนที่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน และนำไปคำนวณพื้นที่ในการขอสนับสนุนงบประมาณเข้ามาดำเนินการในปีนี้ ในส่วนพื้นที่เดิมที่ยังไม่แล้วเสร็จก็ยังมีเรือกำจัดวัชพืชและโป๊ะแม็คโครดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง

ลานนาโพสต์ยังได้สอบถามไปยัง นายวัฒนา จันทนุปาน นายกเทศมนตรีตำบลมะเขือแจ้ จ.ลำพูน เนื่องจากที่อ่างเก็บน้ำแม่ตีบ บ้านหนองหอย หมู่ 10 ต.มะเขือแจ้ จ.ลำพูน  ได้ประสบปัญหาจอกหูหนูแพร่กระจายเต็มอ่างเก็บน้ำเช่นเดียวกับเขื่อนกิ่วลม  ซึ่งเคยมีการทดลองใช้สารชีวภัณฑ์มาแล้วเมื่อปี 56 แต่ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาจอกหูหนูได้ และแพร่กระจายไปเต็มพื้นที่อ่างเก็บน้ำทั้งหมด 435 ไร่

นายกเทศมนตรีตำบลมะเขือแจ้  เปิดเผยว่า ปัญหาจอกหูหนูของอ่างเก็บน้ำแม่ตีบเกิดขึ้นเมื่อปี 54 คาดว่ามาจากกลุ่มคนที่ตกปลานำเข้ามาและเกิดการแพร่กระจายจำนวนมาก ซึ่งทางชลประทานได้ใช้งบประมาณ 3 ล้านเข้ามาดำเนินการตักจอกหูหนูขึ้นแต่ก็ไม่ได้ผล ทางเทศบาลฯทราบว่ามีสารชีวภัณฑ์ในการกำจัดจึงได้ติดต่อเข้ามาทำการทดลอง ซึ่งในตอนนั้นทางผู้ผลิตสารชีวภัณฑ์ก็ได้เข้ามาทดลองให้ฟรี โดยไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย จึงได้ทำการกั้นพื้นที่ในอ่างเก็บน้ำไว้ 1 งาน ทดลองฉีดสารชีวภัณฑ์ลงไป ปรากฏว่าจอกหูหนูได้แห้งและตายลงภายใน 7 วันจริง แต่เนื่องจากทางเทศบาลฯติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ซึ่งหากต้องใช้เงินจำนวนมากต้องขออนุมัติผ่านสภาเทศบาลฯ  ประกอบกับทางชลประทานไม่เห็นด้วยกับการใช้สารดังกล่าวจึงต้องยกเลิก ไป และก็ไม่เห็นว่าจะมีวิธีใดเข้ามาแก้ปัญหาได้ ทุกวันนี้ก็ยังมีจอกหูหนูกระจายอยู่เต็มอ่างเก็บน้ำมองเห็นเป็นเขียวเต็ม พื้นที่อ่างทั้งหมด 435 ไร่  โดยในปี 58 เทศบาลได้ตั้งงบประมาณเพื่อเข้ามากำจัดจอกหูหนู 5 แสนบาท เป็นค่าน้ำมัน ค่ารถ ที่จะนำมาโกยและตักจอกขึ้นจากน้ำ รวมทั้งจะประสานขอเรือจากกรมโยธาเข้ามาช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง 

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1012 ประจำวันที่ 16  - 22 มกราคม 2558)   



Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์