ย้อนเส้นทางสายมรณะ ทัวร์เบรกแตกชนยับ เสียชีวิต 3 ศพ คนขับร่ำไห้ทำงานมา 30 ปี ไม่คิดว่าจะทำคนตาย ขณะที่สถิติในรอบ 4 ปี เกิดอุบัติเหตุ 4 ครั้ง เสียชีวิต 15 ศพ บาดเจ็บ 144 คน
จากเหตุการณ์รถทัวร์ชนรถตู้รับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บถึง 30 คน ยังคงเป็นเหตุการณ์ที่คนพูดถึงกันอย่างมาก ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ และความรับผิดชอบของคนขับรถทัวร์ต้นเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 รายดังกล่าว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งในรอบปีของ จ.ลำปาง เนื่องจากเกิดขึ้นใจกลางเมืองและสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เสียหายทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และสภาพจิตใจ
เมื่อย้อนไปดูเส้นทางการเดินรถสายอุดรธานี-เชียงใหม่ ของรถทัวร์คันดังกล่าว ได้ออกเดินทางจาก จ.อุดรธานี เวลา 20.00 น. ของวันที่ 26 พ.ค.57 ซึ่งมีระยะทาง 613 กิโลเมตร และต้องใช้เวลาประมาณ 9-10 ชั่วโมงจึงจะถึงที่หมาย โดยต้องเดินทางผ่าน จ.หนองบัวลำพู เลย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ ลำปาง และลำพูน จากคำบอกเล่าของพระศรีเมธ กิติวรรณโณ พระสงฆ์ที่นั่งโดยสารมากับรถทัวร์ กล่าวว่า รถทัวร์ได้มีปัหาเรื่องเกียร์มาตั้งแต่ จ.หนองบัวลำพู ซึ่งการเข้าเกียร์มีเสียงดังและเหมือนจะเข้าเกียร์ไม่ได้ แต่คนขับได้ใช้ประสบการณขับรถต่อมาเรื่อยๆจนถึง จ.ลำปาง และแวะจอดส่งผู้โดยสารที่แยกไฟแดงผาลาด(ทางเข้า อ.แม่เมาะ) อ.เมือง จ.ลำปาง เวลาประมาณ 06.00 น. เมื่อออกรถและขึ้นดอยได้เกิดเข้าเกียร์ไม่ได้ระหว่างที่อยู่บนดอยระบบเบรกก็ไม่ทำงานไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด จึงทำให้รถไหลลงจากดอยด้วยความเร็ว คนขับรถมีสติตลอด บอกให้ผู้โดยสารยึดเก้าอี้ให้มั่นเพื่อให้เป็นอันตรายน้อยที่สุด กระทั่งมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
จากคำบอกเล่าพบว่าระยะทางที่เกิดเหตุตั้งแต่แยกไฟแดงผาลาด อ.เมือง จ.ลำปาง ไปจนถึงแยกดอยพระบาท มีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ลานนาโพสต์มีโอกาสพูดคุยกับนางยุพิน คำนุ ภรรยาคนขับรถอีกครั้งหลังเกิดเหตุ ซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นเด็กท้ายรถอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังอย่างละเอียดว่า นายสมพรเพ็ชร คำนุ สามีของตนได้ทำงานกับบริษัทจักรพงษ์ทัวร์มานาน 30 ปีแล้ว แต่เพิ่งมาขับรถคันนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากคนขับคนเก่าได้ลาออกไป ซึ่งรถทัวร์คันนี้เข้าเกียร์ค่อนข้างยาก ช่วงที่หนองบัวลำพูนั้นยังเข้าเกียร์ได้อยู่แต่ยาก และมีเสียงดัง ซึ่งพระสงฆ์จะนั่งอยู่ด้านหลังรถได้ยินเสียงเกียร์ดังอยู่ตลอด แต่ระหว่างทางตั้งแต่หนองบัวลำพูมาจนถึง จ.ลำปาง ก็ขับมาได้ตามปกติตลอดเส้นทาง กระทั่งมาจอดส่งผู้โดยสารที่แยกผาลาด และช่วงที่อยู่บนเนินได้ทดเกียร์ 2 แต่รถเข้าเกียร์ไม่ได้ คนขับจึงเหยียบเบรกปรากฏว่าเบรกหายอีก เราได้พยายามทุกทางที่จะหยุดรถ ได้ลองดับเครื่องเพื่อไม่ให้รถวิ่งต่อ แต่พอดับแล้วทำให้บังคับพวงมาลัยไม่ได้ จึงต้องติดเครื่อง ระหว่างทางได้กดแตรรถและเปิดไฟสูงต่ำตลอด ขณะนั้นก็แจ้งให้ผู้โดยสารทราบให้ทุกคนย้ายมาอยู่ช่วงหลังรถและเกาะให้แน่น ซึ่งได้มีเสียงกรีดร้องตกใจของผู้โดยสารหญิงตลอดทาง กระทั่งมาถึงแยกไฟแดงที่รถได้พุ่งตรงไป และประสบอุบัติเหตุชนรถตู้นักเรียน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
นางยุพิน เล่าต่อว่า หลังเกิดเหตุได้ถามสามีว่าทำไมไม่เลี้ยวซ้ายออกไป ทางสามีตนบอกว่าตอนแรกจะเลี้ยวซ้าย แต่มีรถเก๋งคันหนึ่งอยู่ด้านหน้าไม่อยากจะไปชนเขา ตอนที่ขับมาสัญญาณไฟยังไม่เขียวเห็นถนนโล่งจึงได้ตรงไป พอใกล้แยกสัญญาณไฟเขียวพอดีจึงทำให้รถทางตรงพุ่งออกไปก่อน ทัวร์จึงได้ชนรถหลายคัน ส่วนผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์ 2 ราย นั่งอยู่เบาะหน้าสุด แถวที่ 1 และแถวที่ 2 ได้บอกให้ย้ายมาอยู่ช่วงกลางรถแล้ว แต่เขาไม่ย้าย ซึ่งตนเองได้นั่งอยู่แถวที่ 5 ทำให้ไม่เป็นอะไรมาก หากเขายอมย้ายตามตนเองมา อาจจะไม่ต้องเสียชีวิตแบบนี้ ทุกวันนี้สามีของตนก็ยังสภาพจิตใจย่ำแย่ นอนร้องไห้ทุกคืนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นพนักงานขับรถมากว่า 30 ปี ยังไม่เคยทำให้ใครเสียชีวิตเลย
ด้านคดีนั้น นางยุพิน กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสอบปากคำ และแจ้งข้อหากับนายสมพรเพ็ชร คนขับรถแล้ว ในข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งตนได้ประกันตัวออกมาเป็นเงิน 1.5 แสนบาท ก่อนจะกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด จ.นครพนม ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นเงินที่บริษัทประกันออกให้ 1 แสนบาท ส่วนอีก 5 หมื่นนั้นตนต้องหามาเอง ทางบริษัทไมได้ช่วยเหลือแต่อย่างใด
เมื่อย้อนกลับไปดู อุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะที่เกิดกับ บ.จักรพงษ์ทัวร์ จะพบว่าเกิดอุบัติเหตุให่ทุกปี ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา นับรวมผู้บาดเจ็บอีก 144 ราย และที่สำคัญคือ ผู้เสียชีวิตมีจำนวนถึง 15 ราย เหตุการณ์เกิดขึ้น ในวันที่ 21 เม.ย.2555 ครั้งนั้น เกิดเมื่อเวลา 23.30 น.ที่ อ.ลอง จ.แพร่ มีสาเหตุจากเบรกแตกบังคับรถไม่อยู่ โดยมีผู้บาดเจ็บ 25 ราย และเสียชีวิต 6 ราย , วันที่ 8 เม.ย.2556 เวลา 23.30 น. ครั้งนี้ เป็นรถทัศนาจรมาวิ่งเสริม ทะเบียน 30-0365 เกิดเหตุที่รอยต่อ อ.ด่านซ้าย จ.เลย กับ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดยสาเหตุยังคงเป็นเบรกแตกบังคับไม่อยู่ และพุ่งลงเหว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 51 ราย และเสียชีวิต 5 ราย , วันที่ 17 ต.ค. 2557 เวลา 23.30 น. เกิดเหตุที่ อ.ลอง จ.แพร่ โดยสันนิษฐานว่าขับเร็วประกอบกับทัศนวิสัยไม่ดี (หมอกลง) ทำให้พุ่งลงเหวข้างทาง โดยครั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บ 18 ราย และเสียชีวิต 1 ราย , วันที่ 27 พฤษภาคม 2558 เวลา 7 น. (ครั้งนี้) เกิดในช่วงลงทางลาดชัน ก่อนถึงแยกไฟแดง กลางเมืองลำปาง โดยรถมีปัญหาระบบเบรก และพุ่งชนรถนักเรียน รถที่วิ่งบนถนน และพุ่งชนบ้านอีก 3 หลัง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 30 ราย และเสียชีวิต 3 ศพ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1031 วันที่ 5 - 11 มิถุนายน 2558)