วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ซาอุฯติดใจ เกรียงไกรซ่อนเพชร


ย้อนรอย 26 ปี คดีโจรกรรมเพชร อดีต ตำรวจซาอุฯ ข้องใจเกรียงไกร ขนเพชรกลับไทย ใครมีส่วนรู้เห็น ย้ำไม่ตัดมือ ไม่ประหาร แต่ต้องการรู้ตัวคนเกี่ยวข้อง คนใกล้ชิดเกรียงไกร เผยเส้นทางเพชร ตีสนิทตำรวจเฝ้าวัง ฉวยจังหวะทำความสะอาด ฉกเพชรใส่กล่องไปรษณีย์  ส่งกลับไทย
           
แม้จะผ่านมา 26 ปีแล้วสำหรับเหตุการณ์นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ชาวอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง โจรกรรมเพชรและอัญมณีหลายรายการมูลค่า กว่า 500 ล้านบาท จากพระราชวังเจ้าชายไฟซาล แห่งซาอุดิอาระเบีย ซึ่งรวมทั้งเครื่องเพชรล้ำค่า “บลูไดมอนด์” เพชรอาถรรพ์ ที่นำความวิบัติ และความตายมาสู่ผู้เกี่ยวข้อง ในหมู่คนไทย แทบไม่มีใครจดจำเรื่องนี้ได้อีกแล้ว หลังจากที่นายเกรียงไกร เตชะโม่ง รับโทษฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน เป็นเวลาไม่ถึง ปี และกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดตามปกติ โดยที่ฐานะไม่ได้ดีขึ้น  ซ้ำร้ายกลับมีอาการหวาดระแวงผู้คน และเป็นคนที่เพื่อนบ้านยังคงมีคำถาม ที่ผูกพันมาจากพฤติกรรมในอดีต
           
แต่สำหรับคนซาอุฯ ร่วมสมัยที่เกิดเหตุการณ์นี้ ยังไม่ลืมเลือน และยังคงมีคำถามมากมายถึงนายเกรียงไกร เตชะโม่ง และรัฐบาลไทย
           
แหล่งข่าวระดับสูง ที่เคยเป็นอดีตตำรวจดูแลรับผิดชอบ คดีเพชรซาอุฯ ให้สัมภาษณ์ “ลานนาโพสต์” ที่นครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย สะท้อนท่าทีและความทรงจำของคนซาอุฯ ที่มีต่อนายเกรียงไกร เตชะโม่ง  ว่า หลายคนยังจำเรื่องนี้ได้ดี เพราะนายเกรียงไกร เป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ทำให้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและซาอุดิอาระเบีย ที่มีมาอย่างยาวนานต้องสะดุดลง จนถึงขั้นที่ทางการซาอุฯ มีแนวโน้มว่าจะตัดความสัมพันธ์ทางการทูต กับประเทศไทยอย่างถาวร หลังจากซาอุฯ ลดระดับความสำคัญของสถานทูตในไทย เหลือเพียงเลขานุการโท เป็นเจ้าหน้าที่สูงสุดเท่านั้น
           
“รัฐบาลซาอุฯ ยังต้องการตัวนายเกรียงไกร ไปสอบถามว่ามีใครเกี่ยวข้องในเรื่องที่นำเพชรออกไปบ้าง รับรองว่าจะไม่ตัดมือ ไม่ประหาร ถามเสร็จแล้วก็อาจจะส่งกลับ”
             
อดีตนายตำรวจรายนี้ กล่าวและฟื้นอดีต ครั้งเมื่อพล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ (ยศขณะนั้น) หัวหน้าชุดติดตามคนร้าย และเพชรซาอุฯ นำเพชรไปคืนที่ประเทศซาอุฯว่า เมื่อซาอุฯพบว่า ของกลางไม่ครบถ้วน และมีเพชรบางส่วนหายไป รวมทั้ง “บลูไดมอนด์” ทางการซาอุฯ โกรธมาก และสั่งให้นำตัวพล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกจากประเทศทันที
           
ปัญหาที่ยังค้างคาใจซาอุฯ จากกรณีนายเกรียงไกร เตชะโม่ง จนกระทั่งการยกฟ้องพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ในคดีฆาตกรรมนายอัลรูไวรี่ นักธุรกิจชาวซาอุฯ กำลังเป็นเรื่องที่ซาอุฯกำลังพิจารณาที่จะยุบสถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย และให้การออกวีซ่าสำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนา ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ไปดำเนินการที่สถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศมาเลเซีย
           
ด้านชีวิตความเป็นอยู่ของเกรียงไกร เตชะโม่ง  ปัจจุบันไม่ค่อยราบรื่นมากนัก เนื่องจากมีปัญหากับคนในชุมชน  นายกษิดิศ อินทราย  ผู้ใหญ่บ้านแม่ปะหลวง หมู่ 1 เปิดเผยว่า หลังจากจบคดีเพชรซาอุแล้ว เกรียงไกรได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ มีการเข้าสังคม ทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา  แต่เมื่อไม่นานมานี้เกรียงไกรเกิดมีปัญหากับคนในหมู่บ้าน เกี่ยวกับพฤติกรรมบางอย่างของเกรียงไกรเอง ทำให้ชาวบ้านเสียความรู้สึกจึงเกิดรอยร้าวขึ้นระห่างเกรียงไกรกับชาวบ้าน  จากนั้นมาเกรียงไกรก็เก็บตัวเงียบไม่ค่อยสุงสิงกับใคร จะอาศัยอยู่กับภรรยาเพียงสองคนเท่านั้น ตอนเช้าก็จะออกมาจากบ้านแต่เช้าตรู่ และกลับบ้านช่วงค่ำไม่เป็นเวลา  ซึ่งจะพบตัวเกรียงไกรได้ยากกว่าที่ผ่านมา   และยังมีข่าวลือว่าเกรียงไกรได้ขายที่ดินของตนเองที่มีอยู่ประมาณ 4 ไร่  เพื่อเตรียมจะย้ายออกจากหมู่บ้านไปอยู่ที่อื่นเพราะทนแรงกดดันไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นช่วงประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา
           
ส่วนเรื่องขโมยเพชรนั้น เกรียงไกรไม่เคยปริปากพูดหรือเล่าให้ใครในหมู่บ้านฟังเลย ซึ่งในตอนนั้นตนเองก็ไปทำงานที่ซาอุฯเช่นกัน แต่อยู่คนละเมืองกับเกรียงไกร ห่างกันประมาณ 300 ก.ม. ตนได้ไปทำงานรับเหมาก่อสร้าง ส่วนเกรียงไกรได้เข้าไปทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดอยู่ในวัง  จากเรื่องที่ได้ยินมาทราบว่า เกรียงไกรสามารถเดินเข้าออกวังได้อย่างสบายๆ เพราะคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าอยู่ที่นั่น จึงอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่เผลอ หยิบเพชรติดไม้ติดมือซ่อนในตัวออกมา ทางเจ้าหน้าที่คงไม่คาดคิดว่าเกรียงไกรจะขโมยเพราะที่นั่นโทษหนัก หากขโมยของจะโดนตัดมือสถานเดียว   โดยช่วงที่เกรียงไกรขโมยเพชรออกมานั้นเป็นช่วงก่อนที่จะกลับมาประเทศไทย เกรียงไกรได้นำเพชรมารวบรวมใส่ในกล่องเบียร์ไว้จำนวน 2 กล่อง และใช้วิธีส่งไปรษณีย์กลับมาที่ประเทศไทยและไปรับกล่องมาจากสนามบิน ซึ่งในตอนนั้นไม่ได้มีการตรวจเข้มเรื่องการส่งไปรษณีย์แต่อย่างใด  ส่วนจะมีคนในรู้เห็นหรือไม่นั้นตนก็ไม่ทราบได้  จากนั้นสองเดือนต่อมาตนก็ได้กลับมาบ้าน และก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากมาปิดล้อมบ้านเกรียงไกรและจับตัวไป จึงรู้ในตอนนั้นว่าเกรียงไกรได้ขโมยเพชรมาจากประเทศซาอุฯ  นายกษิดิศ กล่าว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1035 วันที่ 3 - 9  กรกฏาคม 2558)

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์