‘สามารถ’ ปะทะ คนโตแจ้ห่ม !

จำนวนผู้เข้าชม

ลำปางเป็นจังหวัดในอันดับต้นๆในภาคเหนือ ที่มีข่าวการบุกรุก ลักลอบตัดไม้ ทั้งการตัดไม้และจัดการแปรรูปภายในป่า ก่อนชักลากออกมาในเส้นทางที่ทำไว้ และการรุกป่า ด้วยวิธีเผาป่า เพื่อทำไร่ข้าวโพด อันเป็นต้นเหตุสำคัญของหมอกควัน

           

เป็นวงจรอุบาทว์ของปัญหาหมอกควัน ที่ไม่มีจบสิ้น

           

ดังนั้นความเข้มแข็งของผู้รักษากฎหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ในการสยบขบวนการลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น

           

น่ายินดีที่นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าฯ  เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ โดยตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนนี้ เขาได้อำนวยการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สั่งขุดเจาะถนน ที่ขบวนการลักลอบตัดไม้ได้ทำไว้เป็นทางชักลากไม้และหลบหนี บริเวณถนนเส้นทางเหมืองดินขาว ก.ม.26 อำเภอแจ้ห่ม

           

และน่าเชื่อว่า นายสามารถจะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อเนื่อง อย่างน้อยก็เป็นเกียรติประวัติ เป็นสิ่งที่ผู้คนได้จดจำผลงานของอดีตผู้ว่าฯลำปางคนหนึ่ง ก่อนเกษียณอายุราชการ ในขณะที่อดีตผู้ว่าฯลำปางคนอื่นๆรวมทั้งพี่ของ “ม้าสีหมอก” คนหนึ่ง ที่จากไปอย่างเงียบๆ

           

ลำปางมีพื้นที่ป่าสงวน 33 แห่ง อุทยานแห่งชาติ 8 แห่ง บนพื้นที่กว่า 5 ล้านไร่ จึงเป็นแหล่งป่าอุดมที่ทำรายได้มหาศาลให้กับคนลักลอบตัดไม้

           

ย้อนอดีตไปดูห้วงเวลาที่นายสามารถ เคยรับราชการตำแหน่งผู้บริหารส่วนภูมิภาคที่ลำปาง เขาเคยได้รับรางวัลจากสื่อมวลชนจังหวัดลำปาง "ให้เป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมอาชีพ และพัฒนาท้องถิ่นดีเด่น" ขณะดำรงตำแหน่ง นายอำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง 

           

และยังได้รับรางวัล นายอำเภอผู้มีผลงานดีเด่นภาคเหนือ ประจำปี 2542 "นายอำเภอแหวนเพชร" ขณะดำรงตำแหน่ง นายอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง 

           

หลักฐานเหล่านี้ เป็นหลักประกันที่ทำให้มั่นใจว่า ในช่วงเวลาสั้นๆของอายุราชการนี้ นายสามารถจะปักธง แนวทางการสกัดกั้นขบวนการทำลายป่า ให้พ่อเมืองคนต่อไปได้สานต่อภารกิจ ยกเว้นเพียงเรื่องเดียวที่ต้องเฝ้ามองว่า นายสามารถจะสามารถเพียงพอหรือไม่ ที่จะจัดการถอนรากถอนโค่นผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นต้นทางของปัญหาทั้งหมด

           

นายสามารถ บอกว่าผู้มีอิทธิพล ที่เป็นตัวการแผ้วถาง เผาป่า มีพฤติกรรมเช่นนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ที่เขาเป็นรองผู้ว่าฯ นายสามารถเป็นรองผู้ว่าฯลำปาง เมื่อปี 2550 แปลว่าผู้มีอิทธิพลรายนี้ กินป่ามาเกือบ 10 ปีเต็ม !!!

           

ผู้มีอิทธิพล หรือคนโตแจ้ห่มเป็นผู้ใด อาจไม่มีหลักฐานชัดเจนแน่นหนาพอที่จะชี้ชัดได้ บางทีอาจเป็นเพียงพูดจากันเลื่อนลอย บางทีอาจเป็นคนต่างถิ่นที่มาลักลอบตัดไม้ในลำปาง แต่คำพูดของคนระดับผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นนับว่ามีน้ำหนักที่ต้องรับฟัง

           

แปลอีกอย่างหนึ่งว่า ถ้าผู้ว่าฯรู้แล้วว่าผู้มีอิทธิพลเป็นใคร ก็เป็นอำนาจโดยตรงที่ผู้ว่าฯจะจัดการเอง ไม่ใช่ส่งต่อ  หรือชวนให้คิดว่าเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เมื่อรู้ว่ามีการกระทำความผิดกฏหมาย

           

เรื่องแบบนี้ แน่นอนว่าไม่ง่าย ยิ่งยืนยันกันว่า เป็นผู้มีอิทธิพล ที่สามารถทำผิดกฎหมายเช่นนี้มาต่อเนื่องนับสิบปี โดยไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ย่อมไม่ธรรมดา

           

คำถามคือผู้ว่าฯสามารถ จะสามารถเพียงใด

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1075 วันที่ 22 - 28 เมษายน 2559)