วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559

บ้านสามขา ชุมชนต้นแบบกลางขุนเขา

จำนวนผู้เข้าชม website counter

ห่างจากอำเภอเมืองลำปางราว 45 กิโลเมตร ถนนเส้นเล็ก ๆ พาเราลัดเลาะเข้าไปอยู่ในวงล้อมของขุนเขา ผืนนาปรากฏอยู่สองข้างทาง บางแห่งเป็นนาขั้นบันได ส่วนใหญ่มีลักษณะเฉพาะตรงที่มีต้นตาลแทรกแซม สลับกับหญ้าเขียวขจี

แน่นอนว่า หญ้าคือวัชพืชที่เกษตรกรโดยทั่วไปต้องเร่งกำจัด แต่ที่บ้านสามขา ตำบลหัวเสือ อำเภอแม่ทะแห่งนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ยี่หระเท่าไรนักกับการมีอยู่ของพวกมัน เพราะที่นี่เขาทำการเกษตรแบบอินทรีย์ ปลอดสารเคมีโดยสิ้นเชิง

จุดเด่นของบ้านสามขา คือเป็นแหล่งปลูกข้าวเจ้าอย่างข้าวหอมล้านนาพันธุ์ข้าวลูกผสมระหว่างข้าวหอมนิลกับข้าวป่าพันธุ์ Oryzanivara และข้าวเหนียว กข 6 ที่สามารถต้านทานโรคไหม้ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามว่า ธัญสิริน

ชาวบ้านบ้านสามขาทำนากันปีละ 1 ครั้ง หรือที่เรียกว่า นาปี ล่วงเข้ากลางเดือนสิงหาคมเช่นนี้ แต่ละคนต่างกำลังขะมักเขม้นถอนต้นกล้า เพื่อนำมาปักดำในแปลง บางแปลงปักดำแล้วเรียบร้อย ต้นข้าววัยอ่อนมองเห็นเป็นสีเขียวใสสบายตา กว่าจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตก็ราว ๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน ต่อต้นเดือนธันวาคมนั่นแหละ

“สังเกตดูว่า นาของพวกเราเป็นอินทรีย์จริงไหม ก็ดูจากต้นหญ้าที่ขึ้นอยู่เต็มนั่นแหละครับ ถ้าใช้สารเคมีต้นหญ้าพวกนี้ไม่มีเหลือหรอก” พี่ชายคนหนึ่งพูดพลางยิ้ม ขณะมือยังถอนต้นกล้าออกจากแปลงเพาะ “ไม่ใช้เคมีมันก็สบายทั้งคนปลูกคนกินครับ”

หลายคนอาจสงสัยว่า ชื่อ “บ้านสามขา” นั้น มีที่มาอย่างไร มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า มีชาวบ้านคนหนึ่งล่าเก้งได้ แต่ไม่สามารถนำกลับบ้านได้ทั้งหมด เนื่องจากเก้งตัวใหญ่มาก จึงใช้มีดตัดเอาเฉพาะขาหลังของเก้งกลับไป 1 ขา ซากเก้งที่เหลือ 3 ขานั้น เขาได้นำใบไม้มาปิดไว้ รุ่งเช้าจึงชักชวนเพื่อนกลับไปเอาเก้ง 3 ขา แต่ปรากฏว่าถูกงูใหญ่ลากไปกินในถ้ำเสียแล้ว ซึ่งต่อจากนี้ยังมีเรื่องเล่าอีกยาว แต่เอาเป็นว่า บ้านสามขามีที่มาจากเก้ง 3 ขา บ้างก็ว่าเปรียบดังก้อนเส้า 3 ก้อน และแก้ว 3 ประการ คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

ปี พ.ศ. 2240 ที่นี่คือแหล่งกำเนิดผู้กล้าแห่งล้านนา คือ พ่อเจ้าติ๊บปาละ ขณะเป็นภิกษุอยู่ที่วัดสามขา ท่านได้ถูกขอร้องให้ลาสิกขาออกมาช่วยหนานทิพย์ช้างกอบกู้บ้านเมือง และต่อมา พ่อเจ้าติ๊บปาละก็ได้กลายเป็น 1 ใน 4 นับรบผู้ร่วมรบกับหนานทิพย์ช้างขับไล่พม่าออกไปได้สำเร็จ

บ้านสามขาเป็นชุมชนขนาดย่อม มีกันอยู่ราว 160 หลังคาเรือน โอบล้อมอยู่ด้วยบรรยากาศแห่งขุนเขาและท้องทุ่งสงบงามราวกับหมู่บ้านในนิทาน แต่ก็อีกนั่นแหละ บ้านสามขาก็เคยผ่านช่วงเวลายากลำบากเฉกเช่นชุมชนอื่น ๆ ครั้งหนึ่งที่นี่เคยมีปัญหาจากการเปิดรับความเจริญโดยไม่มีภูมิคุ้มกันชีวิตที่แข็งแรงพอ สุดท้ายปัญหามากมายก็รุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหนี้สินและทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่บ้านสามขายังโชคดีที่มีแกนนำหมู่บ้านเข้มแข็ง พวกเขาปลุกปลอบใจกันให้ลุกขึ้นมาเรียนรู้ปัญหา ค้นหาทางออก และลงมือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชุมชนด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยไม่รอความช่วยเหลือจากภายนอก เพราะเชื่อว่าคงไม่มีใครอีกแล้ว ที่จะเข้าใจคนบ้านสามขาได้ดีไปกว่าคนที่เกิดและเติบโตที่นี่

วันเวลาแห่งการกอบกู้หมู่บ้านยาวนานพอที่จะทำให้ปัญหาต่าง ๆ เริ่มคลี่คลาย ไม่เพียงจะค้นพบทางออกด้วยตนเอง บ้านสามขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้หมู่บ้านอื่น ๆ ลุกขึ้นยืนด้วยตนเอง ส่งผลให้บ้านสามขาได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมายในฐานะชุมชนต้นแบบในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นป่าชุมชน การทำฝาย การจัดการน้ำ การทำนาแบบไร้สารเคมี การวางกฎกติการในการอยู่ร่วมกัน และสวัสดิการชุมชน โดยล่าสุดบ้านสามขาได้เป็นเจ้าของรางวัลคนค้นคนอวอร์ด ครั้งที่ 6 สาขารางวัลผู้สร้างแรงบันดาลใจอีกด้วย

ปัจจุบันบ้านสามขามีผู้คนมากมายเดินทางมาดูงาน มีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ และมีโฮมสเตย์สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว

แดดยามเย็นอ่อนแสงลง ชาวบ้านที่เห็นกระจายอยู่ตรงนั้นตรงนี้ทั่วแปลงนาก็เริ่มทยอยกลับบ้าน บ้านที่กินอิ่ม นอนอุ่น บางทีชีวิตอาจไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1092 วันที่ 19 - 25 สิงหาคม 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์