ถนนนี้...เถื่อน !!

จำนวนผู้เข้าชม

เป็นความมหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งของประเทศไทย ที่อยู่ๆก็มีการสร้างถนนลาดยางอย่างดี ตัดผ่าเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ทิ้งไว้นานปี กว่าจะรู้ก็ต้องรอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ยึดอำนาจ และมีชาวบ้านไปร้องให้ทหารตรวจสอบเรื่องนี้

           

เหตุเกิดที่เขตป่าสงวนแม่เรียง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง

           

ถนนเส้นนี้ยาว 9 ก.ม.วางเป็นแนวยาวพาดผ่านลงบนความชอุ่มเขียวของป่า สองข้างทางมีบ้านคนอยู่ประปราย ไม่มีหมู่บ้าน ไม่มีชุมชน ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ บ่งบอกความจำเป็นที่ต้องสร้างถนน ที่เชื่อมต่อมาสู่ถนนสายหลักดีขนาดนั้น

           

หรือจะสันนิษฐานว่า เป็นการสร้างไว้เพื่อให้ผู้บุกรุกตัดไม้ ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงไม้ออกสู่ถนนใหญ่ ก็พูดได้ไม่เต็มคำ เพราะต้นทางก็มีทั้งด่านป่าไม้ และด่านตำรวจ ดักรออยู่แล้ว

           

เมื่อราวสองสัปดาห์ก่อน ‘ประศักดิ์ บัณฑุนาค’ รองอธิบดีกรมทางหลวง จำเลยสำคัญข้อหารุกป่า ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เขาพยายามค้นหาความจริงว่า เดิมที่เป็นถนนลูกรังนั้น ใครเป็นคนมาทำไว้ และเมื่อแขวงทางหลวงชนบทลำปาง เข้ามาสร้างเป็นถนนมาตรฐานทางหลวงชนบท มีจุดเชื่อมต่อกันอย่างไร ระหว่างเจ้าของถนนดินลูกรังและถนนทางหลวงชนบท

           

การสร้างถนนสักเส้น สำหรับกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งบริษัทผู้ขายยาง ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาช่วง ในอดีตหรือแม้จนถึงปัจจุบัน ก็เป็นที่ร่ำลือว่า หน่วยงานในกลุ่มสร้างทางนี้ เป็นแหล่งที่มาของการทุจริตคอรัปชั่นอันดับต้นๆ ของสังคมไทย

           

ตั้งแต่การประมูล การเปิดซอง การล็อคสเป็ค เพื่อให้เหลือผู้แข่งน้อยราย หรือไม่มีเลย ข้อสันนิษฐานที่ว่าถนนเถื่อน  อาจสร้างขึ้นมาเพื่อลำเลียงไม้เถื่อน จึงอาจกลายเป็นเพียงการทุจริตในระดับหน่วยงานรัฐ ที่ต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท.ก็ได้

           

คำถามนี้ พิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ยุทธศักดิ์ ต่อโชติ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบท ลำปาง

           

เรื่องแบบนี้ คนที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการบริหาร จัดการทางหลวงชนบทมานาน ลงถึงพื้นที่แล้ว ก็คงพอจะคาดเดาได้ว่า ใครควรต้องรับผิดชอบ หรือเรื่องราวดำเนินมาอย่างไร แต่เพื่อให้มีจุดเริ่มต้นในการเข้าถึงหน่วยงานและผู้รับผิดชอบชัดเจน ตามกระบวนการยุติธรรม การแจ้งความดำเนินคดีจึงเกิดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

           

ผลจากการลงพื้นที่ของประศักดิ์ บัณฑุนาค รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท พบว่าถนนปริศนาเส้นนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่เรียง อยู่ในเขตชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 5 ระยะทาง 8.751 เมตร ความกว้าง 8 เมตร รวม 43-2-84 ไร่ แบ่งเป็นอยู่ในเขตพื้นที่ป่างสงวนแห่งชาติแม่เรียง ระยะทาง 4,941 เมตร รวมเนื้อที่ 24-2-82ไร่ อยู่ในเขตป่าถาวร ระยะทาง 3,810 เมตร รวมเนื้อที่ 19-0-02 ไร่

           

หลังจากมีการรับรองพื้นที่เรียบร้อยสรุปว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนจริง

           

ษเอมร์ สันป่าแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.5 (แม่กึ๊ด) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมกันลงนามในเอกสาร และเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อกรมทางหลวงชนบทกับ พ.ต.ท.ทระนง คำศรีวัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เสริมงาม

           

ข้อหาของกรมทางหลวงชนบท คือ  กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ประกอบ72 ตรี ฐานร่วมกันก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 มาตรา14 ประกอบ มาตรา 31 ฐาน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกันยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

           

ซึ่งล้วนเป็นข้อหาหนัก ที่จับเอากรมทางหลวงชนบทติดคุกไม่ได้ เพราะเป็นนิติบุคคล ไม่ใช่บุคคลธรรมดาที่ต้องหามาให้ได้

           

ถึงตอนที่ใครจะต้องรับผิดนี่แหล่ะ ในสนามมีแต่นักบอลเตะลูกออกกันอุตลุด

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1095 วันที่ 9 - 15 กันยายน 2559)