วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ใบปลิวถล่มผอ.บุญวาทย์ฯ กล่าวหากินหัวคิว เจ้าตัวโต้จัดระบบ

จำนวนผู้เข้าชม website counter


งานเข้า ผอ.บุญวาทย์ฯ โดนใบปลิวโจมตียับ หลังเข้าทำงานได้เพียง 3 เดือน ทั้งกรณีการเซ็นชื่อลงเวลา ถูกกล่าวหากินหัวคิว  สร้างความแตกแยกในหมู่คณะ   ด้าน ผอ.ออกโรงโต้เข้ามาจัดระบบใหม่ ปรับแผนการเงินที่ฟุ่มเฟือย คาดผู้เสียผลประโยชน์ไม่พอใจ  เข้าแจ้งความดำเนินคดีและแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่ตั้งกรรมการสอบอีกทาง
           
กรณีที่มีมือดีได้นำใบปลิววางไว้ 7 จุดรอบบริเวณโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย เพื่อโจมตีการทำงานของ นายสกล ทะแกล้วพันธุ์  ผู้อำนวยการโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยคนใหม่ หลังจากได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 59  ที่ผ่านมา ประมาณ 3 เดือนเท่านั้น  โดยข้อความในหนังสือได้มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทำงานของนายสกล ในหลายประเด็น  เช่น การให้รองผู้อำนวยการยืนคุมลูกน้องให้ลงเวลาเข้าออกทำงาน ,  การจัดงานกีฬาสีครูเป็นการแบ่งแยกครูอาวุโสกับครูหนุ่มสาวออกจากกัน ซึ่งประเด็นสำคัญคือ ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับเจ้าหน้าที่พัสดุกินหัวคิว ต้องการเปอร์เซ็นต์และผลประโยชน์ ยักยอกเงินที่ผู้ปกครองยินดีจ่ายเพื่อพัฒนาบุตรหลานในระบบห้องเรียนพิเศษ  เป็นต้น
           
จากเรื่องดังกล่าว นายสกล ทะแกล้วพันธุ์  ผู้อำนวยการโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย  ได้ชี้แจงว่า กลุ่มที่เสียผลประโยชน์โดยเฉพาะเรื่องการเงิน พัสดุการจัดซื้อจัดจ้าง เรื่องห้องเรียนพิเศษ การให้ผลประโยชน์กับร้านค้าในโรงอาหาร การจ้างบุคลากรที่เกินความจำเป็น เพราะหลังที่ตนเข้ามารับตำแหน่งก็ได้เข้ามาดูในทุกเรื่องและเห็นว่าหลายเรื่องไม่มีการปฏิบัติสอดคล้องกับระเบียบทำให้การตรวจสอบต่างๆ ทำไม่ได้  โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับห้องเรียนพิเศษ ซึ่งได้มีการเก็บเงินจากผู้ปกครองก่อนหน้านี้แต่เงินไม่ได้นำเข้าระบบทั้งหมด แต่ถูกนำไปใช้กันเองโดยอ้างว่ามีการนำไปทำโครงการต่างๆ ซึ่งเมื่อตนเห็นเช่นนั้นจึงให้มีการนำเงินทั้งหมดเข้าระบบเพื่อให้ตรวจสอบได้แต่ไม่ได้ปิดกั้นในการทำโครงการต่างๆ เมื่อทำโครงการก็ให้มีการตั้งเบิกตามระเบียบ ขณะที่การทำแผนปฏิบัติการก็ไม่ชัดเจน อาทิ นักเรียนมีทั้งหมด 3,966 คน แต่ในแผนวางเป้าหมายไว้ที่ 4,500 คน

นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้งบประมาณในการจ้างบุคลากรเพิ่มโดยไม่จำเป็นและทำให้เกิดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นขึ้นสูงถึงเดือนละ 1.6 ล้านบาท  และ ยังมีเจ้าหน้าที่สำนักงานอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็คาดว่ามาจากการฝากเข้าทำงาน  ทำให้ต้องเสียงบกลางในส่วนนี้ไปถึงกว่า 60% ตนจึงให้ปรับทำแผนเต็มอัตรากำลัง

นายสกลกล่าวต่อไปว่า ส่วนโรงอาหารตนก็ไปพบว่ามีการนำไฟฟ้าของทางโรงเรียนให้ผู้ประกอบการนำไปใช้โดยไม่ผ่านมิเตอร์ แต่กลับต่อตรงโดยการใช้ร่วมกับของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนต้องรับผิดชอบเฉพาะค่าไฟเดือนละ 620,000 บาท จึงให้ตั้งกรรมการสอบในเรื่องดังกล่าว และเบื้องต้นได้ให้ร้านค้ายุติการขายไปหนึ่งร้าน   
           
บางวันก็เดินตรวจตราโรงเรียน ก็พบว่าบางห้องไม่ปิดแอร์ บางส่วนเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่มีใครอยู่ ก็ได้ให้นโยบายการประหยัดและให้ช่วยกันตรวจสอบความเรียบร้อยทุกครั้งที่ออกจากห้อง ขณะที่บางส่วนเช่นหน้าอาคารใหม่อาคาร 8-9 ซึ่งเป็นจุดด้านหน้ามีคนเข้ามาตลอด นักเรียนจะมารอผู้ปกครองกลับพบว่าไม่มีไฟ ตนจึงให้ดำเนินการติดไฟให้สว่างเพื่อความปลอดภัยของเด็ก
   
           
ยืนยันว่าหลังจากที่เข้ามาบริหารงานที่นี่ได้เข้ามาปรับหลายอย่าง ที่ออกนอกระบบให้เข้าระบบ และจะต้องทำให้รายจ่ายที่เกินจำเป็นลดลงในทุกด้าน ซึ่งหากทำตามแผนที่วางไว้ใช้เงินตามเกณฑ์คาดว่าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายหลักล้านบาทต่อปีแน่นอน เพราะแค่ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรหากใช้จ่ายตามกรอบและลดลงประมาณ 10- 15 คน คนละ 12,000 บาทต่อเดือน ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายปีละกว่าล้านบาทแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายตามแผนปฏิบัติการทางการศึกษา เงินบำรุงการศึกษาเด็กนักเรียนซึ่งไม่สามารถเก็บได้ทุกคนคือเก็บได้ประมาณ 80% แต่ลงในแผนระบุเก็บได้ 100%

เมื่อตนเข้ามาบริหารงานก็ติดลบเพราะเงินเก็บไม่ได้ตามแผน ซึ่งปกติการทำแผนงบประมาณจะตั้งไว้ที่ 80% หากสิ้นปีเก็บได้เกินก็จะเป็นเงินสะสมของโรงเรียน และเมื่อทางโรงเรียนจำเป็นต้องใช้ในการปรับปรุงหรือทำอะไรที่จำเป็นก็ทำโครงการขออนุมัติกรรมการสถานศึกษาเพื่อใช้จ่ายเงินสะสมได้

ทั้งนี้ นายสกล ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองลำปางแล้ว ขณะเดียวกันได้ทำหนังสือถึงสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษา เขต 35  เพื่อให้ตั้งกรรมการเข้ามาตรวจสอบในเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความกระจ่าง พร้อมเชิญประธานนักเรียนมาชี้แจงและให้ซักถามข้อสงสัย พร้อมแจงด้วยเอกสารจนนักเรียนหมดข้อสงสัย และนำไปประชุมชี้แจงหัวหน้าห้องทุกห้อง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1117 วันที่  17 - 23 กุมภาพันธ์ 2560 )
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์