วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560

จากใต้สู่เหนือ ทรงพล สวาสดิ์ธรรม

จำนวนผู้เข้าชม IP Address

หมือนลมพัดผ่าน การมีอยู่ของสุวัฒน์  พรมสุวรรณ เหมือนไม่เคยมีอยู่ แม้จะเคยฝากชื่อเลื่องลือไว้ที่น่าน  แต่ครั้นถึงลำปาง นอกจากภาพ-เรื่องราว ของท่านที่วูบวาบอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์แล้ว ก็ไม่อาจบอกได้เต็มคำว่า มีงานใดบ้างที่เป็นชิ้นเป็นอันสำหรับผู้ว่าฯมารอเกษียณอีกคนคนนี้

ลำปางกำลังเติบโตขยายตัว คู่ขนานไปกับจุดยืนของ “ลานนาโพสต์” ที่เห็นว่า การเติบโตขยายตัวนั้น จะต้องมีกำแพงขวางกั้นการไหลบ่าของความเจริญด้านวัตถุจนเกินจำเป็น จนกระทั่งอาจผลักให้ลำปาง กลายเป็นเมืองไร้ระเบียบ จราจรติดขัดไม่แพ้กรุงเทพเช่นจังหวัดเชียงใหม่

สุวัฒน์ ไป คนใหม่มา เห็นชื่อ เห็นนามแล้วยี่ห้อ ทรงพล สวาสดิ์ธรรม สิงห์ดำที่ท่องยุทธภพแต่ในภาคใต้มาตลอด คราวนี้ขึ้นเหนือมาลำปาง น่าสนใจ ไถ่ถาม และรับรู้เรื่องราวของทรงพล สวาสดิ์ธรรม พ่อเมืองใหม่ป้ายแดงของลำปาง ที่มีอายุราชการเหลืออีกสองปี

ต้องขออนุญาตอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ข่าวบ้านเรา ที่บันทึกไว้ คราวที่ผู้ว่าฯทรงพล ย้ายจากกระบี่ มาสงขลา และจากสงขลามาที่นี่ – ลำปาง

พลันที่ชื่อของว่าที่พ่อเมืองสงขลาคนใหม่ที่จะมาแทนที่ของผู้ว่าฯ ธำรงค์ เจริญกุล ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2558 นี้ถูกเปิดเผยออกมาเป็นชื่อของนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ชื่อนี้ถือว่าไม่พลิกโผมากนัก

ก่อนหน้าชาวสงขลา เพิ่งได้ร่วมแสดงความยินดีกับอดีตพ่อเมือง นายกฤษฎา บุญราช ที่ขยับจากผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง เพียงปีเดียวก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ตำแหน่งสูงสุดในชีวิตราชการและชาวสงขลาก็มาลุ้นต่อกับตำแหน่งพ่อเมืองคนใหม่หลังจากที่นายธำรงค์ เจริญกุล ใช้เวลา 1 ปีนิดๆ ในการทำหน้าที่พ่อเมืองที่สามารถจารึกความประทับใจและความไม่ค่อยพอใจได้พอๆ กัน

ชื่อของพ่อเมืองสงขลาคนใหม่ถูกนักวิเคราะห์มองไว้ว่าต้องเป็นคนสงขลา หรือไม่ก็คลุกคลีในพื้นที่มาเพียงพอเพราะสมรภูมินี้ต้องการคนทำงานไม่ต้องการคนมาเรียนรู้งานใหม่ ก่อนหน้านี้ก็มีการคาดการณ์กันหลายชื่อไม่ว่าจะเป็นนายดลเดช พัฒนรัฐ รองอธิบดีกรมการปกครอง อดีตรองผู้ว่าฯสงขลาและทำงานในพื้นที่ชายแดนใต้ร่วมกับนายกฤษฎา มาโดยตลอด หรือชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ และอีกหลายชื่อแต่สุดท้ายหวยมาออกที่ชื่อของนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม

นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ต้องบอกว่านี่คือลูกหม้อมหาดไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เลยก็ว่าได้ เกิดเมือ 25 พ.ค.2502 พื้นเพชาวอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา แต่ใช้ชีวิตวัยเรียนในเมืองกรุงเป็นส่วนใหญ่ โดยจบ ป.ตรี รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ป.โท รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ดีกรีไม่ธรรมดา ชีวิตในเส้นทางราชการของผู้ว่าฯทรงพล ต้องบอกว่าวนเวียนอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ค่อนข้างมากโดยเฉพาะกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.

เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ปลัดอำเภอละงู จ.สตูล, ปลัดอำเภอละอุ่นและอำเภอเมือง จ.ระนอง, ผู้ช่วยหัวหน้าประสานแผนและโครงการ กรมการปกครอง, เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานจังหวัดยะลา, ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายบริหารงานบุคคล กรมการปกครอง, รักษาการผู้อำนวยการกองพัฒนาบุคคล กองกลาง และประชาสัมพันธ์ ศอ.บต., หัวหน้าศูนย์ประสานงานปกครองจังหวัดชายแดนภาคใต้, นายอำเภอบางแก้วและควนขนุน จ.พัทลุง, ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากร ศอ.บต.

ก่อนก้าวสู่ตำแหน่งสำคัญงานปกครองในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ในปี 2557 และในวันที่ 1 ตุลาคม 2558 มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กับอายุราชการที่เหลืออีก 4 ปี มีความหมายและสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการมาเป็นแม่ทัพพัฒนาจังหวัดสงขลาในฐานะพ่อเมืองของชาวสงขลา

นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม บุคลิกที่สัมผัสได้ชัดเจนเป็นคนอัธยาศัยดี ยิ้มง่าย พูดจาไพเราะมีคารมคมคายที่หวานหูคนฟัง และเป็นคนขยันทั้งการทำงานและการลงพื้นที่ซึ่งสัมผัสได้ตั้งแต่ช่วงที่อยู่พื้นที่ชายแดนภาคใต้และที่กระบี่ สื่อกระบี่แอบกระซิบมาว่าเสียดายมาที่ท่านย้ายเร็วเกินไปกำลังประสานงานต่อจากผู้ว่าฯประสิทธิ์ โอสถานนท์ ได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว และเชื่อว่าชาวสงขลาจะได้ผู้ว่าฯ นักพัฒนาตัวจริง เสียงจริงแน่นอนคราวนี้

จังหวัดสงขลา เมืองใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของภาคใต้ กำลังรอผู้นำการพัฒนาในหลายมิติไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม การค้าการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา การส่งเสริมระบบคมนาคมทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ การกำหนดแนวทางการเดินหน้าโรงไฟฟ้าเทพา และที่สำคัญการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้กับจังหวัดไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ฝ่ายการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น และที่สำคัญคือองค์กรเอกชนที่ขาดเอกภาพมานานและไม่มีการแก้ไขปัญหาที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดจนกลายเป็นปัญหาหมักหมมมานาน

ทั้งหมดนี้อ้างอิงจาก”ศูนย์ข่าวบ้านเรา” และลานนาโพสต์ ตั้งใจจะเปิดใจ เปิดวิสัยทัศน์ผู้ว่าฯทรงพล สักครั้ง ว่าจากพ่อเมืองใต้ มาแอ่วเหนือ เขาจะฝากผลงานสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ให้คนใต้ได้รู้ ให้คนเหนือได้จดจำอย่างไร

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1142 วันที่ 18 - 24 สิงหาคม 2560)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์