วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

ชนวินาศ 6 คัน หวิดหอนาฬิกา

จำนวนผู้เข้าชม url and counting visits

ลุงวัย 67 ปี ขับรถจะไปธุระในเมือง ระหว่างทางโรคประจำตัวกำเริบเหยียบคันเร่งค้างพุ่งชนทะลุวินาศ สันตะโร รถยนต์ที่กำลังชะลอ ขับผ่านวงเวียนห้าแยกหอนาฬิกา เสียหาย ไป 6 คัน เจ็บหลายคนเจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลือ

 เมื่อเวลา 15.40 น.วันที่ 15 มกราคม 2561  พ.ต.ท.นวพล พงษ์ไพโรจน์  สว.(สอบสวน)สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันหลายคัน บริเวณห้าแยกหอนาฬิกา ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงรีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปาง เร่งให้การช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ  จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุ อยู่กลางวงเวียนห้าแยกหอนาฬิกา  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปาง เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลนครลำปาง และพลเมืองดีกำลังเร่งปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางรถที่ติดยาวเหยียด เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักกลางเมืองที่จะเชื่อมต่อไปยังถนนสายต่างๆ ทำให้เกิดการจราจรติดขัด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งระบายรถเป็นการด่วน



ในเบื้องต้น พบว่ารถที่เกิดอุบัติเหตุเป็นรถยนต์กระบะ 4 คัน รถเก๋ง 2  คัน   รวมทั้งหมด 6 คัน   สำหรับรถคันที่ก่อเหตุเป็นรถยนต์กระบะอีซูซุ สีทอง หมายเลขทะเบียน กท 1739 ลำปาง  สภาพตะแคงพลิกตะแคงซ้ายรถพังยับ  เบื้องต้นทราบชื่อคนขับรถคันที่ก่อเหตุคือ นายไกรฤกษ์ พงษ์ประเสริฐ อายุ 63  ปี  ราษฎร บ้านต้า หมู่ 10 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง  ไม่สามารถให้การได้ เพราะยังอยู่ในระหว่างสะลึมสะลือ จากอาการโรคประจำตัวกำเริบ และได้รับบาดเจ็บ   

โดยนางวิไล พงษ์ประเสริฐ อายุ 63 ปี  ภรรยาของคนขับ ได้เล่าว่า ตนและสามีได้ขับรถจะมาทำธุระในเขตเมืองลำปาง โดยมีสามีเป็นคนขับ และเมื่อขับผ่านหน้าสำนักงานเทศบาลนครลำปาง ปรากฏว่า อาการโรคประจำตัวสามีกำเริบ โดยได้ชักเกร็งก่อนที่จะเหยียบคันเร่งค้างแล้วรถพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วก่อนที่จะพุ่งชนรถเก๋งที่หน้าสำนักงานเทศบาลนครลำปางคันแรก จากนั้นก็พุ่งชนไปทั่วโดยที่ตนเองก็ตกใจกับเหตุการณ์ ก่อนที่รถจะเสียหลักพลิกตะแคงแน่นิ่ง และมีพลเมืองช่วยออกมาจากตัวรถ และพบว่าได้พุ่งชนเสียหายไปหลายคันและมีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน

ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย คือ นายวรชัย ใจแก้วแดง อายุ 60 ปี คนขับรถกระบะสีเทา ของเทศบาลนครลำปาง ถูกชนเข้าบริเวณหน้ารถอย่างจังได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณใบหน้า รวมมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการปฐมพยาบาลก่อนจะเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลลำปาง  ส่วนคนที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ประสงไปรักษาที่โรงพยาบาล

ด้าน น.ส.ณัฐนันท์ อุ่นกาศ  อายุ 34 ปี  ชาว จ.แพร่ เจ้าของรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีขาว หมายเลข กบทะเบียน 3892 ลำปาง ที่ถูกพุ่งชนคันแรก  กล่าวว่า รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเมื่อรถมาชนท้าย จนรถตัวเองพังเสียหายขับเคลื่อนไปต่อไปได้ ส่วนคู่กรณีก็ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตอนแรกคิดว่าเป็นรถคนร้ายวิ่งหลบหนีตำรวจ เพราะพุ่งชนแบบน่ากลัว โชคดีถ้าหากเป็นช่วงเลิกเรียนจุดดังกล่าวจะมีเด็กและผู้ใช้รถจำนวนมากคาดว่าจะเกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้

ทั้งนี้  จากภาพกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้บริเวณห้าแยกหอนาฬิกา พบว่ากระกระบะได้ขับเข้ามาในวงเวียนได้พุ่งชนรถกระบะของเทศบาลนครลำปางที่ขับวนมาทางด้านขวา ก่อนที่รถจะพลิกไปทับท้ายรถเก๋งที่ขับอยู่ด้านหน้าได้รับความเสียหาย เฉี่ยวกับรถคันอื่นๆ โดยก่อนหน้านี้ได้ชนท้ายรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส รถตู้ รถกระบะ ก่อนที่จะมาพุ่งชนบริเวณห้าแยกหอนาฬิกาดังกล่าว 

 พ.ต.ท.นวพล พงศ์ไพโรจน์ สว.สอบสวน สภ.เมืองลำปาง เปิดเผยว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุได้เนื่องจากยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งต้องรอให้แพทย์อนุญาตกลับบ้านแล้ว ถึงจะเรียกตัวมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาได้ โดยในเบื้องต้นเตรียมข้อกล่าวหาไว้คือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียวฯ ไว้ก่อน ส่วนคดีอื่นๆต้องรอให้ทางผู้ก่อเหตุ เอาใบรับรองทางการแพทย์ มายืนยันการตรวจรักษา  

สาเหตุเบื้องต้น ทราบว่า นายไกรฤกษ์ พงศ์ประเสริฐ มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว และขณะเกิดเหตุขาเกิดอ่อนแรงกะทันหันและโรคประจำตัวกำเริบจนเป็นต้นตอของการ่อเหตุในครั้งนี้  ส่วนรถที่เสียหายจากอุบัติเหตุในครั้งนี้มีทั้งหมด 6 คัน เป็นระยนต์กระบะ 4 คันรถยนต์เก๋ง 2 คัน มูลค่าความเสียหายที่จะต้องซ่อมแซมหลายแสนเลยทีเดียว  ซึ่งทราบว่าทางรถของผู้ก่อเหตุมีประกันบุคคลที่ 3 ไว้ ซึ่งทราบว่าทางบริษัทประกันจะซ่อมแซมรถคู่กรณีให้ ส่วนรถของผู้ก่อเหตุคงต้องซ่อมแซมเอง เพราะไม่เข้าข่ายในวงประกันครั้งนี้  

ขณะที่นายโสภณ พิทักษ์สาลี หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดลำปาง กล่าวว่า การขอใบอนุญาตขับขี่ผู้ขับชี่ก็ต้องมีใบรับรองทางการแพทย์มายืนยันทุกครั้งและผู้ที่จะขับขี่ก็ต้องผ่านการฝีกฝนจากโรงเรียนฝึกสอนขับรถและ ทดสอบสมรรถนะ ทางร่างกาย  สอบทฤษฏี ข้อเขียนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ เข้าฝึกอบรมสร้างสำนึกการขับรถบนท้องถนน จากทางขนส่งและสอบภาคปฏิบัติ และและหากผ่านทั้งหมดแล้วถึงจะได้ใบขับขี่มาใช้ ในส่วนของการเกิดอุบติเหตุหลายๆครั้งที่มีสาเหตุมาจากโรคประจำตัวกำเริบซึ่งจะต้องมีการพิจารณาจากส่วนกลาง ส่วนที่เกี่ยวข้องว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1163 วันที่ 19 - 25 มกราคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์