ดรามาสื่อ ในกระแส หวย 30 ล้าน

จำนวนผู้เข้าชม

ถึงแม้นาฬิกา “บิ๊กป้อม” ยังดังกระหึ่ม  เสียงปืนในป่าของเปรมชัย กรรณสูต ยังเปรี้ยงปร้าง  แต่กระแสข่าวหวย 30 ล้านที่มีครูปรีชา กับหมวดจรูญ เป็นตัวละครก็คงยึดครองพื้นที่สื่อส่วนใหญ่ไว้ได้ นับจากเปิดประเด็นข่าวกันมาในห้วงปลายปีก่อน

คำตอบคือ เพราะคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นคนยากคนจน  มีวิถีผูกพันกับหวยใกล้ชิด เพราะหวยคือความหวังชนิดเดียวที่พวกเขามี และความใกล้ชิด หรือ Proximity อันเป็นคุณค่าข่าวนี่เอง ที่ทำให้ข่าวหวย  30 ล้านแรงดีไม่มีตกมาถึงวันนี้

นอกจากนี้ ความมีเงื่อนงำ Mystery ให้ได้ลุ้นกันว่า ใครพูดจริง ใครโกหก ความมีเงื่อนงำ ปิดบังซ่อนเร้น ยอกย้อน ซ่อนเงื่อน ยากที่จะคลี่คลาย ความขัดแย้ง  Conflict ที่มิใช่แค่คู่กรณี แต่แบ่งเป็นสองฝ่าย โดยหลายคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ก็เป็น News Values ข้อหนึ่ง ที่ทำให้แต่ละฝ่ายอยากเอาชนะกัน

 “ จอกอ” ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนได้เสียกับฝ่ายใด ยังต้องตอบรับคำสถานีโทรทัศน์หลายช่องไปให้ความเห็น ไปวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ ตามที่ได้แสดงความเห็นต่อสาธารณะไปก่อนหน้านั้นว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ใช่ทรัพย์ที่ต้องจดทะเบียน ใครครอบครองคนนั้นคือเจ้าของ เมื่อหมวดจรูญครอบครอง และได้ไปขึ้นเงินตามเงื่อนไขของกองสลาก ครบถ้วน สมบูรณ์แล้ว ลุงจรูญคือเจ้าของกรรมสิทธิ์ สลากที่ถูกรางวัลนั้น

สอดรับกับถ้อยคำของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ที่ว่า  หวยเป็นของหมวดจรูญ เพราะเป็นคนสุดท้ายที่ถือหวยที่ถูกรางวัลไปขึ้นรางวัล

ความเป็นจริง หวย 30 ล้าน เป็นของใคร  ก็เป็นเพียงความเห็น  ทั้งความเห็นที่เป็นภาวะอารมณ์ ความรู้สึก และความเห็นในข้อกฎหมาย ซึ่งยืนยันความถูกผิดไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และแม้จะเข้าสู่กระบวนการทางศาลแล้ว ก็ยังถกเถียงกันได้อีก ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด

แต่ประเด็นก็คือ ปรากฏการณ์ข่าวหวย 30 ล้าน ไม่เพียงเป็นความสนใจเรื่องราวของมนุษย์ (Human Interest) เท่านั้น หากยังเป็นภาพสะท้อนความสามารถในการจัดการสถานการณ์ความขัดแย้งของพิธีกรรายการ บทบาทของทนายความทั้งที่เป็นทนายของคู่ความ และทนายที่ไม่เกี่ยวข้องในคดี แต่ถือหางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่เป็นประโยชน์ กับประชาชน เป็นการให้ความรู้เรื่องกฎหมาย ควบคู่ไปกับความสนุกสนานของคนที่ติดตามข่าว เหมือนเชียร์มวย

กับบทบาทของพิธีกรรายการ เมื่อเชิญคู่ขัดแย้งมาเผชิญหน้ากัน ก็เป็นการวัดฝีมือ และพิสูจน์ความเป็น “ของจริง” ที่ชัดเจน และคนที่สอบผ่านในสถานการณ์เช่นนี้ อย่างน้อยก็มี พุทธ อภิวรรณ รายการ “ต่างคน ต่างคิด” อัมรินทร์ทีวี  กับ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย แห่ง “โหนกระแส” ช่อง 3 SD แม้จะเป็นดารา แต่ก็ฝึกปรือวิทยายุทธ ด้านพิธีกรข่าว ไม่แพ้พิธีกรข่าวมืออาชีพ

และก็เป็นโอกาสของทนายบางคน ที่กลายเป็น Somebody เพียงชั่วข้ามคืน  เพียงแสดงความเห็นไม่ว่าไปในทางหมวดจรูญหรือตรงกันข้าม ประเด็นเรื่องข้อกฎหมาย ทำให้ทนายความมีพื้นที่ที่จะแสดงตัวตน แสดงความเห็น ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์ของเขาในทางอาชีพ  เมื่อถูกเรียกขานว่าทนายดัง และออกหน้าจอบ่อยครั้ง

กระแสข่าวหวย 30 ล้าน ยังมีแรงขับดันต่อไปจากนี้อีกนาน เพราะแม้กองปราบจะสรุปสำนวน ว่าหมวดจรูญคือเจ้าของหวยที่แท้จริง แต่ฝ่ายคุณปรีชา กองเชียร์คุณปรีชา ก็คงไม่ยอมล่าถอยไปโดยง่าย

บอลแพ้ แต่คนไม่แพ้...

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1168 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2561)