วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ความบริสุทธิ์ของนางสุชาดา สู่ตำนานคำสาปเมืองลำปาง

จำนวนผู้เข้าชม IP Address

ริมแม่น้ำวังฝั่งทิศตะวันออก บริเวณที่คนสมัยก่อนเรียกกันว่า วังย่าเฒ่า มีอนุสาวรีย์แห่งหนึ่งตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ยังตำแหน่งที่ตั้งของวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม คนรุ่นใหม่อาจไม่รู้จักนางสุชาดา แต่กับคนเก่าแก่ในเมืองลำปาง ต่างเคยได้ยินเรื่องเล่าของนางสุชาดา ซึ่งถูกตัดสินโทษประหารชีวิตอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งยังเกี่ยวพันไปถึงพระแก้วดอนเต้า วัดสุชาดาราม และวัดนางเหลียวอีกด้วย

ตามตำนานกล่าวว่า มีนางเทวดาตนหนึ่งลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ชื่อว่านางสุชาดา เพื่อที่จะอุปัฏฐากพระมหาชินธาตุเจ้า ครั้งหนึ่งพระมหาเถรเจ้า เจ้าอาวาสผู้ปกครองวัดนั้น ดำริจะแกะสลักพระด้วยไม้แก่นจันทร์ แต่หาไม่ได้ พญานาคจึงได้เนรมิตแก้วมรกตไว้ในแตงโม และนำไปวางไว้ในสวนดอกไม้ของนางสุชาดา เมื่อนางสุชาดาพบจึงนำแตงโมไปถวายพระมหาเถรเจ้า พระมหาเถรเจ้าจึงพบแก้วมรกต และจะสลักพระพุทธรูปด้วยมรกตที่พบในผลแตงโมนั้น พระอินทร์จึงได้จำแลงมาขันอาสาสลักให้ และเนรมิตให้เป็นองค์พระปฏิมากรแก้วมรกตงดงาม

ทว่าต่อมานางสุชาดากลับถูกท้าวพระยาผู้ครองเมืองสั่งให้ประหารชีวิต เพราะมีข้อครหาว่าประกอบมิจฉาจารกับพระมหาเถรเจ้า ก่อนถูกประหาร นางสุชาดาได้อธิษฐานว่า หากนางบริสุทธิ์ ขอจงอย่าให้โลหิตตกลงพื้นดิน เมื่อเพชฌฆาตลงดาบ เลือดของนางได้หายไปในอากาศ ท้าวพระยาผู้ครองเมืองก็เกิดธรรมสังเวชอกแตกตาย

เหตุนี้ พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวจึงได้ชื่อว่าพระแก้วดอนเต้า ก็เพราะสลักจากหินรัตนชาติ หรือมรกต ที่ชาวล้านนานิยมเรียกรวมๆว่าแก้ว โดยหินแก้วนี้อยู่ในผลแตงโม ภาษาพื้นถิ่นเรียกว่าบะเต้า ดังนั้น พระแก้วดอนเต้าก็หมายถึงพระแก้วดอนแตงโมนั่นเอง และวัดที่เชื่อว่าเป็นที่กำเนิดของพระแก้วดอนเต้านี้ จึงมีชื่อเรียกว่า วัดพระแก้วดอนเต้า ทั้งนี้ ภายหลังบ้านเมืองเกิดความอดอยาก พระมหาเถรเจ้าได้ไปอยู่ที่เมืองลัมพกัปปะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุลำปางหลวงในปัจจุบัน และได้นำเอาพระแก้วมรกตดอนเต้าไปอยู่ ณ วัดพระธาตุลำปางหลวงตั้งแต่นั้นมา

หลังเหตุการณ์ประหารชีวิตที่สั่นสะเทือนผู้คนไปทั้งเมือง ก็ได้มีการสร้างวัดสุชาดารามขึ้นบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นบ้านของนางสุชาดา เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของนาง นอกจากนี้ วัดนางเหลียวที่อยู่ถัดไปไม่ไกล ก็ถูกสร้างขึ้นตรงจุดที่นางสุชาดาเหลียวกลับมามองบ้านของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย

นี่อาจเป็นตำนานที่หลายคนลำปางอาจลืมเลือนไปบ้างแล้วว่าเหตุการณ์เหล่านี้คือที่มาของชื่อวัดนางเหลียว วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม หากแต่จดจำได้เพียง คำสาปของนางสุชาดาที่ได้สาปแช่งให้เจ้าเมืองผู้หลงผิดคิดร้ายต่อนาง อย่าได้ตายดี ขอให้กรรมตามทันลูกหลานผู้สืบเชื้อสายเจ้าเมืองผู้ครองนครลำปางทุกคน ขออย่าให้มีความสุขความเจริญ มีแต่ภัยพิบัติหายนะตลอดกาลนาน หากผู้สืบเชื้อสายเจ้านครลำปางคนใดเชื่อว่านางไม่ผิด และไม่ต้องการต้องคำสาป ก็ขอให้นำลูกขนุนลูกแรกที่ปลูกได้นำไปถวายพระสงฆ์ อุทิศกุศลให้นางแล้วกล่าวขออโหสิกรรม นางก็จะอโหสิกรรมให้ หากไม่แล้วทุกคนต้องพบคำสาปชนิดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ด้วยวิธีใดๆ

สำหรับบริเวณสถานที่ประหารชีวิตนางสุชาดานั้น หลวงพ่อเกษม เขมโก ซึ่งมีเชื้อสายเจ้าเมืองลำปาง ได้ให้เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง และลูกหลานสกุล ณ ลำปาง ร่วมกันบอกบุญสร้างอนุสาวรีย์เจ้าแม่สุชาดาในปี พ.ศ. 2517 และต่อมานายประเวทย์ ณ ลำปาง ก็ดำเนินการใช้ทุนทรัพย์จากหลวงพ่อเกษม เขมโก สร้างสะพานเสตุวารี สะพานข้ามแม่น้ำวังใกล้กับอนุสาวรีย์เจ้าแม่สุชาดา ในปี พ.ศ. 2527 เพื่ออุทิศกุศลผลบุญทั้งหมดให้กับนางสุชาดา และเพื่อเป็นการขออโหสิกรรม ทั้งยังเป็นการถอนคำสาปที่มีต่อตระกูล ณ ลำปาง จะได้หมดสิ้นลงไปเสียที  นอกจากนี้ ภายในวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามยังมีศาลเจ้าแม่สุชาดาขณะถวายแตงโมแด่พระมหาเถรเจ้า รวมถึงรูปปั้นนางสุชาดายืนถือแตงโมอยู่ด้านหน้าโรงเรียนวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามอีกด้วย

เรื่องราวเรื่องราวเหล่านี้...ถูกเล่าต่อๆกันตัดทอนลงมาเหลือเพียงเรื่อง คำสาปเมืองลำปางแม้จะผ่านมานานหลายร้อยปีแล้ว แต่เราก็ได้แต่โทษว่าลำปางไม่พัฒนาเหมือนจังหวัดอื่นๆนั้นเป็นเพราะคำสาปนางสุชาดา หากแต่ความเป็นจริงแล้ว ลำปางก็มีเสน่ห์ในตัวเอง และที่ลำปางยังพัฒนาในแบบที่ไม่ได้ดั่งใจคนลำปางนั้น เราอาจต้องมาพิจารณาว่าเป็นเพราะ “คำสาป” หรือ เพราะ “คำคน”


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1181 วันที่ 1 - 7 มิถุนายน 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์