วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

หมายจับอดีต ผญบ. ข่มขืน สาวม้งซดยาดับ ทนายยันหลักฐาน

จำนวนผู้เข้าชม url and counting visits

สาววัย 22 ซดยาฆ่าตัวตายอาการสาหัส หลังมีภาพหลุดกับอดีตผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง พบแชทมาบอกลาน้องสาวฝาแฝดก่อนจะก่อเหตุ  ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับอัจฉริยะ สอบพบเป็นการล่อลวงมาข่มขืนไม่ใช่การรุมโทรม สุดท้ายหญิงสาวเสียชีวิตลงด้วยอาการไตวาย  ต่อมาศาลออกหมายจับอดีตผู้ใหญ่บ้านแล้ว

-สาวกินยาฆ่าตัวตาย
เหตุการณ์หญิงสาวชาวม้ง อายุ 22 ปี พื้นเพ เป็นชาว จ.น่าน แต่ได้สามีอยู่ที่ อ.งาว จ.ลำปาง ดื่มยาฆ่าหญ้าหวังฆ่าตัวตายเหตุเกิดในพื้นที่ ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง ก่อนที่ญาติจะส่งมาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปาง โดยสาเหตุเบื้องต้น อ้างว่าถูกกุล่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน รุมข่มขืนในลักษณะรุมโทรม แล้วมีการบันทึกภาพโทรศัพท์ในมือถือไว้กระทั่งสามีและแม่ของหญิงคนดังกล่าวมาเห็นคลิป จึงเกิดความเครียดและได้กินยาฆ่าตัวตาย เกิดเหตุเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 61 จากนั้นได้มีการแชร์เรื่องราวไปทางสื่อโซเชียลมีเดีย กระทั่ง นายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และลงพื้นที่ จ.ลำปางเพื่อตรวจสอบเหตุดังกล่าว

-ผกก.รุดสอบเหตุ
เมื่อวันที่ 24 ก.ค.61 พ.ต.อ.ไกรสิทธิ  พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองลำปาง พ.ต.ท.สมควร เกศเทศ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองลำปาง  พร้อมด้วย รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง ได้เดินทางมายังโรงพยาบาลลำปาง เพื่อสอบปากคำหญิงสาววัย 22 ปี  แต่ยังไม่สามารถพูดคุยได้ เพราะมีอาการหนัก

-ไม่พบการรุมโทรม
ทาง พ.ต.อ.ไกรสิทธิ  พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองลำปาง เปิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนและแจ้งกำชับให้ พนักงานสอบสวนดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะคดีไหนก็ตาม และในส่วนคดีนี้ยิ่งเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไปต้องทำให้กระจ่างอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม สำหรับผู้เสียหาย ในเบื้องต้นทราบว่าเมื่อ 1 ปีก่อนได้มาค้าขายน้ำเต้าหู้อยู่ในตลาดกลางเมืองลำปางจากนั้นได้ ไปแต่งงานอยู่กินกับชายคนหนึ่งในพื้นที่ อ.งาว จ.ลำปาง โดยแต่งงานแบบพิธีม้ง ไม่มีการจดทะเบียนสมรส และจะไปมาระหว่าง จ.ลำปางและ จ.น่านประจำ จนกระทั่งมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ส่วนกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่ถูกอ้างว่าเข้ามารุมโทรมนั้น เบื้องต้น ยังไม่พบว่าเป็นลักษณะการโดนรุมโทรมแต่อย่างใด ซึ่งสถานที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง  ในเขต อ.เมืองเป็นลำปาง จะต้องสอบสวนพยานและหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม

โดยญาติฝ่ายหญิงผู้เสียหายได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 20 ก.ค.61 ที่ผ่านมา  ว่าหญิงสาวอับอายเนื่องจากมีผู้อื่นทราบว่า ตนเองมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่สามีของตนเอง จึงได้กินฆ่าเพื่อจะฆ่าตัวตายดังกล่าว  ซึ่งทางญาติจะได้แจ้งความเอาผิดกับคู่กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพออกไปทางสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาทต่อไป

-สาวเครียดภาพหลุด
สำหรับความเป็นมาในเรื่องนี้ หญิงสาววัย 22 ปี  ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 15  ก.ค. 61 จนกระทั่งทางแม่ รวมทั้งสามีและญาติๆได้ช่วยกันตามหา แม้จะพยายามโทรศัพท์ตามหาแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้มีเพียงบริการโอนสาย จากนั้นไม่กี่วันก็พบตัวหญิงสาวเดินทางกลับมาที่บ้าน จ.น่าน แต่ไม่พูดจาอะไร จนกระทั่งวันที่ 17 ก.ค.61 ได้เดินทางมากับสามีที่บ้าน อ.งาว จ.ลำปาง และได้พบเห็นคลิปฉาวที่เกิดขึ้น และอ้างว่าถูกรุมโทรม ทำให้เครียดจนกินยาหวังฆ่าตัวตาย ส่วนผู้ก่อเหตุที่ถ่ายภาพนั้นเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านอยู่ที่ จ.ตาก  

-อัจฉริยะลงพื้นที่
ต่อมาวันที่ 25 ก.ค.61 นายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามคดีนี้ พร้อมกับลงพื้นที่ตรวจสอบอพาร์ตเม้นต์ที่เกิดเหตุ และพูดคุยกับหญิงสาวที่โรงพยาบาล จึงได้ทราบรายละเอียดว่าเป็นการถูกล่อลวงมาข่มขืน ไม่ใช่การรุมโทรมแต่อย่างใด


-พบเป็นการล่อลวง
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า  จากที่ได้พูดคุยกับน้องผู้เสียหายโดยใช้วิธีการถามผู้เสียหายพยักหน้าหรือ
ส่ายหน้า และให้ดูภาพประกอบ  ทราบว่าหญิงสาวและอดีตผู้ใหญ่บ้านรู้จักกันทางเฟสบุ๊ก สั่งซื้อยาสมุนไพรแผนโบราณ และนัดเจอกันเป็นครั้งแรก เพื่อส่งมอบยากันที่อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง อ.เมืองลำปาง  ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านได้มาเปิดห้องพักเมื่อวันที่ 14 ก.ค.61 และนัดผู้เสียหายมาพบ ก่อนจะล่อลวงขึ้นไปบนห้องและข่มขืน  ไม่ได้เป็นการรุมโทรมแต่อย่างใด เพราะชายอีก 3 คนนั้นได้มาพบกันภายหลัง  แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่สามารถพูดคุยได้จึงมีการสื่อสารกันผิดพลาดเกี่ยวกับสัญญาณมือในครั้งแรก ทำให้ญาติเข้าใจว่าถูกชายรุมโทรม 4 คน  

            -สื่อสารกันผิดพลาด
ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม  กล่าวอีกว่า สำหรับก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่าทางตำรวจไม่รับแจ้งความนั้น เนื่องจากญาติผู้เสียหายไม่ค่อยทราบขั้นตอนทางกฎหมายมากนัก และสื่อสารกันทางภาษาไม่เข้าใจ จึงกลายเป็นการลงบันทึกประจำวันในลักษณะมีความสัมพันธ์กันทางชู้สาวแทน แต่ล่าสุดทางญาติได้เข้าแจ้งความกับผู้ใหญ่บ้านรายนี้ไว้แล้ว เมื่อวันที่ 22 ก.ค.61  และได้มีการตรวจร่างกายน้องผู้เสียหายไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้มีการประสานงานกันไว้หมดแล้วกับตำรวจในท้องที่ จ.ตาก สืบทราบว่าผู้ใหญ่บ้านรายนี้ได้หลบหนีไปทางภาคอีสาน หากได้ดูข่าวและทราบเรื่องก็ขอให้แสดงตัวและมามอบตัว

-สุดเศร้าเหยื่อเสียชีวิต
ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น.  ได้มีการแจ้งข่าวผ่านทางเฟสบุ๊กเพจ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมว่า สาวม้ง เหยื่อข่มขืนที่ลำปางเสียชีวิตแล้ว  เมื่อไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลลำปาง ตึกสิทธิเกษม ชั้น 8 หน้าหอผู้ป่วย พบแม่ของหญิงสาวนั่งร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจ โดยมีญาติพี่น้องนั่งปลอบใจอยู่ไม่ห่าง

-นอนอย่างสงบ
จากการสอบถามข้อมูลจากอาของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ก่อนจะเสียชีวิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้พาตัวผู้ป่วยลงไปยังห้องเอ็กซเรย์ เพื่อทำการเอ็กซเรย์ตรวจสอบอวัยวะภายในร่างกาย ซึ่งทางผู้ป่วยเองอาการหนักไม่สามารถนอนได้เพราะมีอาการเจ็บปวด แต่การเอ็กซเรย์จะต้องนอนเหยียดตรง หลังจากทำการเอ็กซเรย์เสร็จก็ได้นำผู้ป่วยกลับมายังหอผู้ป่วยชั้น 8 เช่นเดิม แต่ไม่นานผู้ป่วยก็ได้นอนแน่นิ่งและเสียชีวิตไปอย่างสงบ โดยแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตด้วยอาการไตวายเฉียบพลัน ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพ่อแม่และญาติที่เฝ้าดูอาการอยู่  ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้เชิญผู้สื่อข่าวทั้งหมดลงมาด้านล่าง และไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพบริเวณหน้าหอผู้ป่วยโดยเด็ดขาด  ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวยืนยันถึงแม้ว่าผู้เสียหายจะเสียชีวิตแล้วแต่ทางคดีก็ยังดำเนินต่อไปเพราะได้มีการตรวจร่างกายทางนิติวิทยาศาสตร์ไว้ก่อนแล้ว และทำการมอบอำนาจไว้แล้วก่อนที่หญิงสาวจะเสียชีวิต  

-แต่งชุดชนเผ่าครั้งสุดท้าย
จากนั้นวันที่ 26 ก.ค.61  ที่ห้องดับจิต โรงพยาบาลลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง ญาติพี่น้องของหญิงสาววัย 22 ปี ที่ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการไตวายเฉียบพลัน หลังจากการกินยาฆ่าหญ้าเพื่อฆ่าตัวตาย ได้มาทำเรื่องรอรับศพ โดยนำชุดชนเผ่าม้งมาแต่งให้หญิงสาวเป็นครั้งสุดท้าย และจะนำศพไปทำพิธีทางศาสนาของชนเผ่าอิ่วเมี่ยน  เนื่องจากหญิงสาวได้แต่งงานกับชายชาวอิ่วเมี่ยน ซึ่งจะนำศพไปตั้งไว้ที่บ้านของสามีที่ อ.งาว จ.ลำปาง

-แชทบอกลาน้องสาวแฝด
            ทั้งนี้ ได้มีการเปิดเผยแชทสุดท้ายของผู้เสียชีวิตส่งมาให้ทางน้องสาวฝาแฝด บอกว่า พี่ขอลาก่อนน้องรักของพี่ ขอให้น้องดูแลพ่อและแม่กับน้องดีๆนะ ถ้าพี่จะอยู่ต่อไปพ่อกับแม่จะอายคนอื่นเขา และถ้าสักวันหนึ่งพี่เป็นอะไรไป ขอให้พาลูกชายสุดที่รักมาหาพี่ด้วย ขอดูหน้าเป็นครั้งสุดท้ายของพี่ ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราสองคนเกิดมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมนะน้องสาวสุดที่รักของพี่  พี่รักพ่อแม่นะแต่คงต้องลาก่อน เพราะพี่รู้ตัวว่าไม่ได้ดีเหมือนลูกคนอื่น 

            -ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
 ในส่วนของคดี น้องสาวฝาแฝดผู้น้องของ สาววัย 22 ปี  ได้เดินทางมาพร้อมด้วย ญาติ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มาพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดี หลังจากที่ สาวฝาแฝดผู้พี่ที่กินยาฆ่าหญ้าได้เสียชีวิตลงเมื่อค่ำวันที่ 25 กรกฏาคม 2561 ที่ผ่านมา   ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อที่จะเอาผิดกับผู้ที่ก่อเหตุ เพื่อมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้  โดยทางญาติของผู้เสียชีวิตได้ระบุชื่อคือนายนพดล นวอริยะ ( นามสกุลเดิม แซ่เท้า)  ชาวบ้านหมู่ 10 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก  อดีตผู้ใหญ่บ้านที่ได้ล่อลวงผู้เสียชีวิตไปข่มขืน จนทำให้อับอายและกินยาฆ่าหญ้าฆ่าตัวตาย ก่อนจะเสียชีวิตลงเวลาต่อมา  ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนปากคำพยานนานกว่า 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อที่จะให้เกิดการรัดกุมในการขอหมายศาลจังหวัดลำปาง ออกหมายจับผู้ที่ถูกระบุชื่อดังกล่าว

            -แถลงข่าว
ต่อมาเวลา 13.30 น.  ที่ห้องประชุม สภ.เมืองลำปาง พ.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พรหมปฎิมา ผกก.สภ.เมืองลำปาง  นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และน้องสาวฝาแฝด ได้ร่วมกันแถลงข่าว

 น้องสาวฝาแฝดของผู้เสียชีวิต  กล่าวว่า พี่สาวได้พูดคุยและระบายให้ฟังว่าโดนอดีตผู้ใหญ่บ้านคนนี้หลอกว่าไม่มีเมีย และลวงให้ไปที่ห้องพักด้วยจนมีภาพหลุดออกมา พี่สาวได้ทักแชทมาหาและบอกลาฝากดูแลพ่อแม่ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะกินยาฆ่าตัวตาย ซึ่งหลังจากนั้นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีคนขอเป็นเพื่อนเข้ามาในเฟสบุ๊ก และทักแชทมาหา ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร โดยมีการเสนอเงินให้เดือนละ 30,000 บาท แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรไป เพราะไม่รู้จักมาก่อน มารู้ภายหลังว่าน่าจะเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว   ทางญาติขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ที่ได้เร่งดำเนินการตามกฎหมาย ในคดีของพี่สาวจนเป็นที่น่าพอใจ และหวังว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุรายนี้ได้

-อดีต ผญบ.ประวัติโชกโชน
ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการควบคู่ในการสอบสวนสืบสวนในด้านต่างๆทางคดีเพื่อส่งพยานหลักฐานต่างให้พนักงานสอบสวนเพื่อที่จะเร่งดำเนินการ ติดตามออกหมายจับผู้ก่อเหตุมาให้ได้ ซึ่งจากการสืบประวัติพบว่าอดีตผู้ใหญ่บ้านรายนี้ไปก่อเหตุแบล็คเมล์ผู้ใหญ่มาแล้วในหลายพื้นที่ 

แต่การทำงานอาจไม่ได้รับความร่วมมือจากบางส่วน เช่น ทางโรงพยาบาลมีการเข้มงวดในการห้ามเข้าไปสอบปากคำ แม้ทางชมรมฯจะทำหนังสือขออนุญาตจาก สภ.เมืองลำปาง ส่งไปให้แล้วแต่กลับไม่ได้รับความมือมือเท่าที่ควร จนวินาทีสุดท้าย ก็สามารถที่จะเข้าไปพบและสื่อสารด้วยการสอบถามแล้วให้พยักหน้าว่าจริงหรือไม่จริง จนผู้เสียหายระบุว่าถูก อดีตผู้ใหญ่บ้านข่มขืนและถ่ายภาพเกิดความอับอาย ตนเองเป็นพยานคนสุดท้ายที่พูดคุยกับผู้เสียหายก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งในคดีนี้ตนเองจะตามเรื่องและเอาเรื่องจนถึงที่สุดนายอัจฉริยะ กล่าว

-ออกหมายจับ
 กระทั่งเมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 26 ก.ค.61  ศาลจังหวัดลำปาง ได้อนุมัติหมายจับเลขที่ จ.171/2561  เพื่อจับกุมตัวนายนพดล นวอริยะ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/82  หมู่ 10 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้  หรือโดยทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น

ทั้งนี้  พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองลำปาง ได้ยื่นขออนุมัติจากศาลจังหวัดลำปาง ออกหมายจับนายนพดล นวอริยะ อดีตผู้ใหญ่บ้าน  ผู้ก่อเหตุล่อลวงหญิงสาวชาวม้งวัย 22 ปี ไปข่มขืนที่อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำปาง  จนทำให้ฝ่ายหญิงต้องอับอายกินยาฆ่าตัวตาย และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 25 ก.ค.61 ที่ผ่านมา  กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับดังกล่าว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1189 วันที่ 27 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์