วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เทศบาลเขลางค์ใกล้ฝั่งฝัน ไพฑูรย์ลั่นสวยสุด!! ใช้ 340 ล้านเนรมิต

จำนวนผู้เข้าชม

ไพฑูรย์วาดฝัน เทศบาลเมืองเขลางค์สวยที่สุดในประเทศ ของบประมาณปี 62 จากสภาฯอีก 80 ล้านบาท สร้างศูนย์บริการครบวงจร เผยความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารสำนักงานเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ยันเสร็จทันตามกำหนดสัญญา ภูมิใจใช้งบเทศบาลบริหารจัดการทั้งหมดกว่า 340 ล้านบาท

หลังจากที่ บริษัท ศักดิ์ทองพูน  ได้เข้ามาเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงาน เทศบาลเมืองเขลางค์นคร เป็นรายที่ 3  ด้วยวงเงินงบประมาณ  138,888,888 บาท ต่ำ  กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 510 วัน 17 งวดงาน  นับแต่วันที่เซ็นสัญญา คือวันที่ 15 ก.ย.60  สิ้นสุดสัญญาวันที่ 7 ก.พ. 62 

โดยนายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง  นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร ได้ติดตามความคืบหน้า ในการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง  ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา   พร้อมกับนายจตุวัฒน์ ตุ้ยเต็มวงค์ ปลัดเทศบาลเมืองเขลางค์นคร และหัวหน้าส่วนราชการ โดยมีคณะกรรมการตรวจที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้างสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร พร้อมบริษัทที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง และผู้รับจ้าง ร่วมลงพื้นที่ ซึ่งผลการก่อสร้างมีความคืบหน้าในมากผลเป็นที่น่าพอใจ



นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร เปิดเผยว่า  ทางผู้รับจ้างได้ส่งงานมา 4 งวดแล้ว ขณะนี้ได้เริ่มต้นก่อสร้างชั้น 4  เมื่อเทคานเสร็จ ก็จะยกหลังคาเหล็กที่เชื่อมไว้เรียบร้อยแล้วขึ้นด้านบน ส่วนชั้น 2 และ 3 ก็จะก่อผนังและเริ่มฉาบ ถือว่างานเดินหน้าไปได้มากเกิน 50 เปอร์เซ็นต์  ส่วนงวดที่ 5 และ 6  อาจจะล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากจะต้องทำลิปแลปคลองที่ตัดผ่านกลางที่ดิน สัญญากำหนดไว้ 17 งวด เชื่อว่าทันตามสัญญา ในวันที่ 7 ก.พ.62

ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหาย บริษัทผู้รับจ้างเดิมที่ได้มีการทิ้งงาน และยกเลิกสัญญาไปนั้น ได้มอบให้ทางนิติกรดำเนินการยื่นฟ้อง เรื่องการทิ้งงานทำให้เทศบาลได้รับความเสียหาย และเรียกค่าเสียหายในภาระค่าเช่าที่ต้องแบกรับอยู่เนื่องจากการก่อสร้างสำนักงานไม่มีความคืบหน้า อยู่ระหว่างการขึ้นศาล

นายกเทศมนตรียังได้กล่าวถึงการก่อสร้างศูนย์บริการต่างๆภายในพื้นที่ของสำนักงานเทศบาล เพื่อให้บริการประชาชนอย่างครบวงจร โดยเปิดเผยว่า  ในปี 62  เทศบาลฯได้ตั้งงบประมาณไว้อีก 80 กว่าล้านบาท เพื่อจะก่อสร้างอาคารต่างๆ เพิ่มเติมในพื้นที่ของสำนักงานเทศบาล ให้ครบวงจรมากที่สุด  โดยปัจจุบันที่ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณไปแล้ว คือ อาคารสำนักงาน งบประมาณ 138 ล้านเศษ   สถานธนานุบาล  งบประมาณ 3.8 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินเรื่องขอเงินหมุนเวียน 7 ล้านบาท จากเงินสะสมของเทศบาล และรอทางส่วนกลางส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำ และมีการเปิดรับสมัครพนักงาน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ต้นปี 62    และยังมีอาคารป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย งบประมาณ 5 ล้านบาท และอาคารพัสดุ ใช้งบประมาณ 3 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอจัดซื้อจัดจ้าง   สำหรับอาคารที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ประกอบด้วย อาคารผู้สูงวัย งบประมาณ 6 ล้านบาท  ซึ่งเดิมได้ขอใช้สถานที่ของโรงเรียนบ้านหนองยางเก่า อาคารเสร็จก็ย้ายมาเรียนที่ศูนย์ผู้สูงวัยแห่งนี้ นอกจากนั้นยังมีศูนย์เด็กเล็ก ได้งบประมาณจากทางส่วนกลางเข้ามา


นายไพฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า  งบประมาณอีก 80 ล้านบาท ที่จะดำเนินการในปี 62  ที่ตั้งไว้จะเป็นงบที่ใช้ในการก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม สนามฟุตซอล  อาคารกีฬา 2 ชั้น  รวมงบประมาณส่วนนี้ 17.5 ล้านบาท   ก่อสร้างโรงอาหารบริการประชาชนและพนักงานลูกจ้าง จำนวน  8 ล้านบาท  ก่อสร้างสวนสาธารณะ  ลานกิจกรรม ลู่วิ่ง สระน้ำ  ศาลาพักผ่อน  รวม 11 ล้านบาท   ก่อสร้างอาคารบริการด้านสาธารณสุข เป็นอาคาร 3 ชั้น ให้บริการตรวจรักษาเบื้องต้น รวมถึงห้องประชุมใช้ในกิจกรรมด้านหลักประกันสุขภาพ  งบประมาณจำนวน 21 ล้านบาท   ก่อสร้างอาคารผู้สูงวัย ซึ่งเขตเทศบาลมีอยู่ประมาณ 1 หมื่นกว่าคน มีนักเรียนประมาณ 150 คน  ต้องสร้างอาคาร 2 ชั้นรองรับ  ใช้งบประมาณ 11 ล้านบาท   ก่อสร้างอาคารเชื่อมต่อกับศูนย์เด็กเล็ก  ก่อสร้างศูนย์บริการประชาชน ห้องสมุด  งบประมาณ 5 ล้านบาท  เพราะคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์จำนวนมาก  ก่อสร้างอาคารควบคุมระบบไฟฟ้าทั้งหมดภายในพื้นที่ของเทศบาล งบประมาณ 1.2 ล้านบาท   ก่อสร้างรั้วล้อมรอบพื้นที่ 2 ล้านบาท  ติดตั้งป้าย 3 แสนบาท  ซึ่งโครงการเหล่านี้จะตั้งเข้าไปในเทศบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562  และจะมีการนำเข้าสภาเทศบาล ในวันที่ 15 ส.ค.61 นี้

ดังนั้น ถ้ารวมทั้งหมดตั้งแต่ การจัดซื้อที่ดิน การก่อสร้างสำนักงาน และก่อสร้างอาคารบริการต่างๆตามที่กล่าวมา  ก็ถือว่าใช้งบประมาณทั้งหมดกว่า 340 ล้านบาท โดยเป็นการบริหารจัดการงบประมาณของเทศบาลทั้งหมด ไม่ได้มีการกู้เงินจากภายนอกแต่อย่างใด และหากสร้างเสร็จจะเป็นเทศบาลที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และเป็นอาคารกึ่งสถาปัตยกรรมที่สวยที่สุดของประเทศก็ว่าได้  นายไพฑูรย์ กล่าว

 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1190 วันที่ 3 - 9 สิงหาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์