วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เรื่องของสิงห์ สร้างไว้เพื่อไถ่บาป

จำนวนผู้เข้าชม website counter

ในจำนวนวัดพม่าทั้ง 10 วัดของเมืองลำปางบ้านเรา นอกจากศิลปะสถาปัตยกรรมจะปรากฏชัดถึงความล้ำเลิศในฝีมือเชิงช่างแล้ว ลึกลงไป สิ่งที่แทรกซ่อนอยู่ในความงามนั้น คือเรื่องเล่าและตำนานอันลึกซึ้ง

เมื่อก้าวเข้าสู่วัดพม่า สิ่งที่เราพบเห็นเสมอคือสิงห์ ซึ่งบางทีเราอาจไม่สนใจด้วยซ้ำถึงการมีอยู่ของสิงห์คู่ตรงประตูทางเข้า-ออกของวัด หรือไม่ก็อยู่ตามมุมต่างๆ บริเวณเจดีย์ เพราะเจดีย์พม่านั้นชวนตะลึงพรึงเพริดน้อยอยู่เสียเมื่อไร แล้วใครจะมาสนใจชมสิงห์กันเล่า

โดยทั่วไป พม่ามักจะมีสิงห์ หรือฉิ่นเต้ เป็นดั่งทวารบาลเฝ้าทางเข้า-ออกของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นั่นเพราะชาวพม่ามีคติความเชื่อในเรื่องสิงห์ไถ่บาป อันมีที่มาจากตำนานสิงหนพาหุในพงศาวดารลังกาที่ว่า ราชสีห์ตัวหนึ่งได้ลักพาเจ้าหญิงองค์หนึ่งไปไว้ในป่า โดยที่เจ้าหญิงก็มีพระโอรสและพระธิดาซึ่งยังเป็นทารกอยู่ด้วย ราชสีห์นั้นเลี้ยงดูทั้งพระโอรสและพระธิดาจนเติบใหญ่ ต่อมาพระโอรสได้พาพระมารดาและพระขนิษฐาหนีกลับวังได้ ราชสีห์พยายามตามหาด้วยความรัก ใครขัดขวางก็ถูกฆ่าตายหมด ความทราบถึงพระโอรสจึงออกมาปราบโดยการยิงธนูกรอกปากราชสีห์จนตาย

ครั้นเมื่อพระโอรสได้เป็นกษัตริย์ จะทำสิ่งใดก็ติดขัดไปหมด ปุโรหิตจึงทูลว่า เป็นเพราะบาปกรรมที่ฆ่าราชสีห์ผู้มีพระคุณ พระองค์จึงทรงปวารณาว่า จะสร้างรูปปั้นราชสีห์ไว้ที่ประตูวัด หรือที่มุมเจดีย์เพื่อเป็นการไถ่บาป วัดในพม่าจึงมักจะมีรูปปั้นสิงห์ และเมื่อพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองยึดครองเชียงใหม่เป็นประเทศราชได้ คติความเชื่อนี้ก็ตกทอดมาถึงดินแดนล้านนา

เรื่องราวเกี่ยวกับลูกฆ่าพ่อ นอกจากพม่า ล้านนาแล้ว ทางภาคกลางก็ยังมีเรื่องทำนองนี้ด้วย คือตำนานพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เรื่องพญากง พญาพาน เป็นวรรณกรรมอยุธยา แต่ที่เหมือนกันมาก มีโครงเรื่องหลักเหมือนกัน คือ ลูกฆ่าพ่อ และพ่อเป็นสิงห์ คือตำนานพระนอนจักรสีห์ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร อำเภอเมืองฯ จังหวัดสิงห์บุรี ที่มีต้นเค้าจากพงศาวดารลังกาเช่นกัน

พญาพานฆ่าพ่อที่ชื่อพญากง แล้วสร้างเจดีย์ล้างกรรมสูงเท่านกเขาเหิน ซึ่งหมายถึงพระปฐมเจดีย์

สิงหนพาหุในตำนานพระนอนจักรสีห์ สร้างพระพุทธไสยาสน์ขึ้นองค์หนึ่ง เอาทองคำโต 3 กำ ยาว 1 เส้น ทำเป็นแกนพระพุทธรูป ซึ่งก็คือองค์พระพุทธไสยาสน์

นอกจากสิงห์ไถ่บาปแล้ว พม่ายังมีสิงห์อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสะท้อนความเชื่อที่แตกต่างออกไป นั่นคือ นรสิงห์

อันที่จริง นรสิงห์ปรากฏอยู่ตามมุมต่างๆ บนเจดีย์พม่า แต่ไม่อาจคาดเดาได้ว่า สิ่งที่เห็นนั้นควรเรียกว่าอะไรดี ทั้งนี้ ก็เพราะปูนปั้นรูปนรสิงห์ หรือมนุษย์สิงห์ มีหัวเป็นมนุษย์ สวมชฎา มีลำตัวเป็นสิงห์แฝด ตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงส่งสมณทูต คือ พระโสณะและพระอุตตระ ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่เมืองสะเทิมของมอญ เวลานั้นมีนางยักษ์เที่ยวจับทารกกิน ทำความเดือดร้อนให้กับราษฎรและกษัตริย์มอญเป็นอย่างมาก สมณทูตทั้งสองจึงแสดงปาฏิหาริย์เป็นนรสิงห์ หรือมนุษย์สิงห์ จนนางยักษ์กลัวหนีหายไป ครั้นบ้านเมืองกลับมาสงบสุขอีกครั้ง กษัตริย์มอญจึงรับสั่งให้สร้างรูปนรสิงห์เป็นสัญลักษณ์ป้องกันภยันตรายแก่ราษฎรนับแต่นั้น

หากไปเที่ยววัดพม่าอีก ขอเวลาสักนิดสำหรับการชื่นชมสิงห์กับนรสิงห์ แล้วจะเห็นว่า พวกเขา หน้าตาไม่เหมือนกัน มีความงามในอีกรูปแบบหนึ่ง ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นทั้งด้านมืดและด้านสว่างของมนุษย์ได้อย่างถึงแก่น


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1193 วันที่ 24 - 30 สิงหาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์