เลือกตั้งอลวน กกต.อลเวง

จำนวนผู้เข้าชม

นับจากนาทีนี้ การเลือกตั้งจะอุบัติขึ้นไม่เกินหนึ่งเดือนแล้ว แต่บรรยากาศหาเสียงยังเงียบงัน คนจำนวนไม่น้อยก็งุนงง ในกติกาการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่แตกต่างจากการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา เป็นการเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม จำแนกเป็นการเลือกตั้งสมาชิกแบบแบ่งเขต จำนวน 350 คน และบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง 150 คน

ซึ่งวิธีการเลือกตั้งก็ง่ายๆ คือเลือก ส.ส.เขต ครั้งเดียว จะเอาคะแนนไปคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย

แต่ถึงจะง่ายดายเพียงนี้ แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อย ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งด้วยวิธีไหน ใกล้ตัวเข้ามา คณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง (กกต.ลำปาง) ก็เงียบสนิท ปล่อยให้คาดเดากันไปเอง ไม่มีประชาสัมพันธ์ ไม่มีคำอธิบาย ไม่บอกไม่กล่าวใดๆทั้งสิ้น

นี่อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆเรื่องหนึ่ง เพราะดูเหมือนคนที่เสนอตัวให้เลือก กับคนเลือก ต่างก็อยู่ในภาวะอารมณ์เดียวกัน คือ ไม่รู้ว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ ภายหลังที่พรรคไทยรักษาชาติเดินสะดุดขาตัวเอง และเลือกไปแล้วจะอยู่กันนานเพียงใด

ไม่เพียงเท่านั้น เพียงเริ่มต้น กกต.เจ้าของกฎเหล็ก ระเบียบหาเสียงเข้ม ซึ่งในบางเรื่องก็ดูจะเป็นอุดมคติ ก็ 2 มาตรฐานเสียแล้ว จากกรณีรับลูกฉับไว ส่งเรื่องยุบพรรคไทยรักษาชาติ ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในเวลาเดียวกันกลับอืดอาดยืดยาดเป็นเรือเกลือ กรณีการร้องขอให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ

ก็เพราะแม่ปูยังเดินไม่ตรงทาง แล้วจะหวังอันใดกับลูกปู กกต.ลำปาง

กกต.ยุค นายอิทธิพร บุญประคอง อาจจะร่างระเบียบหาเสียงบนหอคอยงาช้าง หลายเรื่องที่ดูเข้มข้น กลับบางเบาราวปุยนุ่น เช่น การกำหนดให้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ช่วยหาเสียง ถ้าไม่มีก็หาเสียงเลือกตั้งมิได้ ซึ่งในความเป็นจริง จะตรวจสอบอย่างไรว่าใครเป็นผู้ช่วยหาเสียงบ้าง และเหตุใดจึงไม่พูดถึงหัวคะแนน ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งทุกครั้ง

ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่กกต.จัดการพรรคไทยรักษาชาติไปแล้ว คือ การนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ห้ามหาเสียงทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ นอกจากที่จัดการให้โดย กกต.

กฎหมายรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ กกต.ควบคุมดูแลการเลือกตั้ง ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม แปลว่า กกต.ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรคการเมืองโดยเสมอกัน ตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่หาเสียงกันจริงจัง พวกเขาไม่มีสิทธิจะใช้สื่อวิทยุและโทรทัศน์ซึ่งถือว่าเป็นสื่อของรัฐ

แต่บัญชีรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลับเป็นนักการเมืองคนเดียวที่ยังสามารถใช้สื่อของรัฐได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าในรายการประจำที่เบียดบังพื้นที่ของสื่อทีวีช่องอื่นมาแล้วกว่าสี่ปี หรือการปรากฏตัวเป็นข่าวในฐานะนายกรัฐมนตรี

รอกันมาถึง 5 ปี รอเวลาอีกไม่นาน แผ่นดินจะงดงาม เหมือนเพลงที่ทำซ้ำอยู่ตลอด 5 ปี แต่เมื่อการเลือกตั้งมาถึง ทุกอย่างดูสับสนวุ่นวาย ยุบไทยรักษาชาติแล้ว ก็อาจจะโยงไปยุบพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรมอีก เงื่อนไขเหล่านี้ ถูกสร้างไว้เพื่อผู้ใด?

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1218 วันที่ 22 - 28 กุมภาพันธ์ 2562)