วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562

โอเล่โกอินเตอร์ สมุนไพรเปลี่ยนชีวิต

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

“เราต้องเติบโต โกอินเตอร์ และเริ่มต้นจากการเปลี่ยนวิธีคิด” คำประกาศของทายาทธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรประเทืองบริบูรณ์ ซึ่งวางเป้าหมายการขยายฐานการสร้างแบรนด์จากสินค้าโอทอปเล็กๆ ไปสู่ตลาดสากลให้สำเร็จภายใน 3 ปี ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร ประเภทสบู่ แชมพู ที่การันตรีคุณภาพในตัวว่าดี มีคุณภาพ “ชัวร์แน่นอน :Sure” ตามชื่อสินค้า Face sure, Hair sure และ Fit sure ก้าวสู่ตลาด OEM และส่งออกตามแผนอย่างน่าสนใจ 

โอเล่ เวโรธน์ธน ประเทืองบริบูรณ์  เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร ภายใต้ บริษัท โอเล่อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เล่าว่า จากการริเริ่มการนำภูมิปัญญาทางแพทย์แผนไทย มาใช้ในการผลิตยาแผนโบราณของคุณพ่อ (อัฏฐ์วุฒิ ประเทืองบริบูรณ์) ในนาม ประเทืองบริบูรณ์สมุนไพร มาหลายสิบปี กระทั่งปี 2557-2558 ตลาดสินค้ายาสมุนไพรเริ่มซบเซา ยอดขายลดลงไปมาก ทำให้ครอบครัว ประเทืองบริบูรณ์ ต้องหาทางปรับตัวและพัฒนาธุรกิจให้อยู่รอด ขณะนั้นเองก็ได้รับคำแนะนำจาก เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขจังหวัดลำปาง แนะนำให้ศึกษาตลาดใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์แนวโน้มและความต้องการตลาดกลุ่มเครื่องสำอาง คุณจึงได้ ศึกษาและทดลองนำสมุนไพรสกัดที่มีสรรพคุณ บำรุงผิวพรรณมาใช้ในการผลิตสบู่ และแชมพูสมุนไพร



ในยุคนั้นผลิตสบู่-แชมพู สมุนไพร ลองผิดลองถูกแจกให้เพื่อนพี่น้องทดลองใช้แล้วให้เขาวิจารณ์ข้อดีข้อเสีย และนำมาพัฒนาปรับปรุงคุณภาพ นอกจากนี้เราได้วางสินค้าเราในกลุ่มตลาดที่ต้องการใช้ของดี ซึ่งของดีก็เป็นธรรมดาว่าต้องแพงพร้อมคุณภาพสูง ต้นทุนในการผลิตจึงสูงตามมา ในราคาก้อนละ 500 บาท ซึ่งมีทั้งผลดีและผลเสีย ดีคือ เป้าหมายตลาดชัดเจนคือกลุ่มคนมีกำลังซื้อ ข้อเสียคือ คนมีกำลังซื้อที่จะซื้อสินค้ากลุ่มสมุนไพรในยุคนั้นมีน้อย ขณะที่ผลิตภัณฑ์ของเรา ก็ยังไม่ได้รับการพัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์รูปลักษณ์ให้ดูแพง สมราคา  การตลาดจึงค่อยๆเดินไปช้าๆ กระทั่งพัฒนาชุมชนอำเภอแม่เมาะ มาชวนให้เราเข้าเป็นสมาชิกผลิตภัณฑ์โอทอป เพื่อหาโอกาสเข้าสู่ตลาด เราก็เข้าสู่วงการออกตลาดขายสินค้าตามงานโอทอป

“หลังจากเราเข้าสู่วงการโอทอปก็พบว่า การตลาดเครื่องสำอางสมุนไพรโอทอป เข้าไม่ถึงกลุ่มตลาดบน แม้เราจะได้การรับรองโอทอปซีเลค คือสินค้าที่ดีที่สุดของลำปาง แต่สบู่แชมพูแนวโอทอป ยังขายได้ราคาไม่สูงพอ ผมก็ช่วยคุณพ่อทำตลาดด้วยตัวเองมาตลอด ซึ่งเราโชคดีมีดารามาจ้างผลิตสบู่ในแบรนด์ของเขา เดือนละหมื่นก้อน ซึ่งนั่นแปลว่าของเราดี มีโอกาสเติบโต แต่ถ้าเราอยากจะเติบโตเราต้องเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการ ทั้งหมดใหม่ ผมและภรรยาจึงเปิดบริษัทขึ้นมาใหม่ เพื่อนำพาความฝันที่จะนำเครื่องสำอางสมุนไพรไปสู่ตลาดสากล ที่มีมาตรฐานและขายได้ราคา ไปจนถึงการเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าการเป็นสินค้าโอทอป”

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ครั้งใหญ่ ของการตั้งบริษัทโอเล่โกอินเตอร์ ตามชื่อและเป้าหมายของ เขาในปี 2560

“จุดแข็งของเราคือ สินค้าเรามีคุณภาพดี ได้ผลจริงตามที่อ้างในสรรพคุณ เราก็เริ่มคิดชื่อสินค้าให้ตรงกับจุดแข็ง จึงเป็นที่มาของคำว่า ชัวร์  เฟสชัวร์ เป็นสบู่ล้างหน้า  ส่วนแชมพูสระผมก็ใช้ชื่อ แฮร์ชัวร์ และ สบู่สำหรับจุดกระชับผิว ชื่อ ฟิตชัวร์ เป็นชุดแรกๆ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูเรียบง่ายแต่ดูดี บ่งบอกถึงบุคลิกตัวตนที่จดจำง่าย เน้นแนวทางการขายของที่ใช้ดีแล้วบอกต่อ แบบปากต่อปาก  ซึ่งหมายถึงให้สินค้าขายตัวมันเอง แต่เราทำการตลาดจากการบอกเล่าเรื่องราว ขายสตอรี่เรื่องภูมิปัญญา สิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อจุดเปลี่ยนอีกอย่างหนึ่งคือ การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานที่มีการรับรองจากแล็ปที่มีใบรับรองทางวิทยาศาสตร์ กับเซ็นทรัลแล็ปและศูนย์วิทยาศาสตร์บริการ เพื่อยืนยันคุณภาพนอกเหนือจากแค่การบอกเล่าสรรพคุณทางสมุนไพรที่นำมาใช้เป็นเครื่องสำอาง”

ด้วยการพัฒนาที่เน้นการเชื่อมโยงเรื่องราว สตอรี่-ภูมิปัญญา-คุณภาพมาตรฐาน เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ บริษัทโอเล่โกอินเตอร์ ได้นำผลผลิตทางการเกษตรของลำปาง อย่างสับปะรด มาเป็นส่วนผสมสำคัญของการทำสบู่ระเบิดขี้ไคล ขายเป็นสินค้าตัวเด่นในเฟส 2 พร้อมกับการพุ่งเข้าหาตลาด กลุ่มรับจ้างผลิตอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันก็ สร้างแบรนด์ของตัวเองในกลุ่มตลาดขายปลีกไปพร้อมๆกัน ปัจจุบัน สามารถพัฒนาไปสู่ตลาดการส่งออก โดยมีตัวแทนจำหน่าย สินค้ากลุ่มชัวร์ที่ประเทศเวียดนามแล้ว

“เป้าหมายที่ผมวางไว้ 3 ปี จะเข้าสู่ตลาดโกอินเตอร์ ขณะนี้เรากำลังเดินถึงจุดหมายแล้ว แต่เป้าหมายเรายังต้องเติบโต พัฒนาเรื่อยไปไม่หยุด คือ ต้องยั่งยืนและมั่นคง”

โรงงานผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรเล็กๆที่ บ้านเวียงสวรรค์ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง กำลังเดินทางไปสู่เป้าหมายของผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัดลำปางสร้างผลงานในฐานะสินค้าจากสมุนไพรไทยไปอวดต่างชาติ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1222 วันที่ 22 มีนาคม 2562)



Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์