วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ประวัติศาสตร์จารึก ร.๑๐ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในเบื้องต้นและเบื้องกลาง  ได้ผ่านพ้นไปแล้วสมพระเกียรติยศ ยังความปลาบปลื้มยินดีแก่พสกนิกรทั้งหลายยิ่งนัก พระปฐมบรมราชโองการ ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ ณ วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ความว่า

“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุข แห่งอาณาราษฎรตลอดไป” นั้น นับเป็นการสืบสานพระราชปณิธาน ของสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทรงตรัสว่าจะครองแผ่นดินโดยธรรม ซึ่งมีความหมายว่า จะใช้ธรรมะของพระราชา คือ ทศพิธราชธรรม เป็นหลักในการดูแลอาณา ประชาราษฎร์ อีกนัยหนึ่งคือธรรมะที่จะครองใจประชาชน มิใช่เพียงครองแผ่นดิน

พระราชพิธีเบื้องกลาง อันสำคัญยิ่งประการหนึ่ง คือพิธีถวายน้ำอภิเษกและน้ำสรงพระมุรธาภิเษก อันได้มาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ รวม ๗๖ จังหวัด จังหวัดลำปาง แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ มาจากบ่อน้ำเลี้ยง พระนางจามเทวี อำเภอเกาะคา ซึ่งจากแหล่งน้ำนี้รวมเป็นน้ำอภิเษก เป็นพระราชพิธีอันแสดงความเป็นเจ้า เป็นใหญ่ในแว่นแคว้นทั้ง ๘

การใช้แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ๑๑๗ แหล่ง จาก ๗๖ จังหวัด เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ยังแสดงถึงการมีส่วนร่วมของคนไทยทั้งประเทศ โดยน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ ได้ผ่านการทำพิธีเสกน้ำรวม ณ วัดสุทัศนเทพวราราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และนายกรัฐมนตรีเป็นประธานฝ่ายฆราวาสมาแล้ว

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ และทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในกาลต่อมา

พระนามเดิม “วชิราลงกรณ”นั้น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงตั้งถวาย มาจากคำว่า “วชิระ” ซึ่งเป็นทั้งพระฉายานามของพระองค์เอง และในขณะผนวชของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผนวกกับ “อลงกรณ์” มาจากพระนามเดิม ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีความหมายโดยรวมว่า “ทรงเครื่องเพชรหรืออสนีบาต”

ทรงพระประสูติ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อเวลา ๑๗.๔๕ น.ของวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๔๙๕ และทรงได้รับการแต่งตั้ง เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พุทธศักราช ๒๔๖๗ นับแต่วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๑๕ แล้ว

แต่ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต ทรงมีพระราชดำริว่า ในระหว่างที่พระองค์เองและประชาชนกำลังทุกข์โศกอย่างใหญ่หลวง ยังไม่ควรดำเนินการเรื่องการสืบราชสมบัติ ณ ขณะนั้น จนระยะเวลาล่วงมาถึงปัจจุบันสมัย

นับเป็นบุญของแผ่นดินนี้ ที่มีกษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ต่อประชาชนทุกหมู่เหล่า พระองค์ทรงเสมือนร่มโพธิ์ใหญ่ ซึ่งจะแผ่กิ่งก้านใบไพศาลไปนับจากนี้ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์