ฟาร์มไส้เดือนบ้านครูไต่ อำไพ พิกุลหอม หรือครูไต่

จำนวนผู้เข้าชม

ครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี ที่สนใจการเกษตร โดยเริ่มต้นจากความชื่นชอบในการปลูกต้นไม้ และได้ศึกษาเรียนรู้การทำปุ๋ยมาเรื่อยๆ  จากคนที่ไม่รู้เรื่องการใช้ปุ๋ยมาก่อน  กลับทำให้ประสบความสำเร็จได้ โดยการเปิดฟาร์มไส้เดือน ผลิตน้ำฉี่ไส้เดือนเป็นของตัวเอง และมีรางวัลนวัตกรรมสร้างสรรค์ จากกระทรวงวิทยาศาสตร์การันตี

ครูไต่ เล่าให้ฟังว่า เป็นคนชอบต้นไม้และรักการปลูกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่เคยมีองค์ความรู้ทางการเกษตร ไม่รู้เรื่องการใช้ปุ๋ยมาก่อนเลย จึงไปซื้อปุ๋ยที่ตลาดต้นไม้หน้าห้างบิ๊กซีลำปาง  และได้ไปเจอเพื่อนสมัยเรียนมัธยมได้แนะนำฉี่ไส้เดือนจากไส้เดือนพันธุ์ขี้ตาแร่ ที่ผลิตโดย ม.แม่โจ้ มาใช้ฉีดต้นโมกบริเวณรอบบ้าน พอฉีดไปแล้วดอกได้ออกจำนวนมาก เป็นจุดเริ่มต้นที่หันมาศึกษาหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับสารจากไส้เดือน ศึกษาพันธุ์ไส้เดือนและวิธีการเลี้ยง ใช้เวลาประมาณ 1 ปี จึงตัดสินใจไปซื้อไส้เดือนจาก ม.แม่โจ้ มาเลี้ยง แต่พอผ่านไปได้ 6 เดือนปรากฏว่าไส้เดือนตายหมด จากนั้นก็ไปศึกษาข้อมูลเองจากอินเตอร์เน็ตอีกว่าทำไมเลี้ยงแล้วไส้เดือนตาย กระทั่งไปพบว่า ม.แม่โจ้ ได้เปิดการอบรมการเลี้ยงไส้เดือน จึงเข้าร่วมอบรม และซื้อไส้เดือนมาเลี้ยงใหม่ ตั้งแต่ปี 53 จนถึงปัจจุบัน กระทั่งสามารถผลิตน้ำฉี่ไส้เดือนออกมาได้ กว่าจะได้น้ำที่เข้มข้นต้องใช้เวลา 3 ปีขึ้นไป ซึ่งฉี่ไส้เดือนจะมีคุณสมบัติจะมีธาตุอาหารครบ มีเอ็นไซม์ไคติเนสไปสลายไขมันรอบตัวแมลง ทำให้แมลงตาย ขับไล่แมลงได้ทุกชนิดไร้ปัญหาเรื่องแมลงและหนอนกัดกินต้นไม้

แต่ถึงแม้ว่าฉี่ไส้เดือนจะขับไล่แมลงได้ แต่ก็ประสบปัญหากับพืชบางชนิดเช่นกัน ครู่ไต่ เล่าว่า ในช่วงแรกของการใช้ฉี่ไส้เดือนตัวนี้ ได้เกิดปัญหาจากการนำไปฉีดต้นมะนาวและทำให้มะนาวตาย ต่อมาได้มีโอกาสเข้าร่วมคลินิกเกษตรจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย จึงได้สอบถาม ดร.ราเชนทร์ วิศิษฐิแพทย์ นักวิจัยอาวุโส ท่านได้รับโจทย์ไป และนำความรู้กลับมามอบให้นำไปพัฒนาต่อยอดจนได้ตัวผลิตภัณฑ์ ไบโอมิก เป็นอินทรีย์เคมี จึงเริ่มปรับสูตรตัวนี้มาใช้

จุดประสงค์ที่ทำตัวไบโอมิก ครูไต่ บอกว่า ส่วนหนึ่งมาจากนักเรียนที่ตนเองสอน  ซึ่งเด็กมีความรู้ความเข้าใจเรื่องเกษตรอินทรีย์ดีมาก แต่ได้ทราบข้อมูลมาว่าทางผู้ปกครองที่ทำเกษตร มักจะใช้ยาฆ่าหญ้าก่อนที่จะนำต้นไม้ลงปลูก   แต่เมื่อเด็กนำการทำเกษตรอินทรีย์ไปบอกผู้ปกครองแล้วบางคนก็ไม่เชื่อและไม่เข้าใจ เพราะเคยมีรายได้เยอะมาก่อน จึงไม่เชื่อว่าทำเกษตรอินทรีย์แล้วจะได้ผลผลิตดี ครูไต่จึงหาวิธีลดเคมีที่อันตรายมาทำเคมีที่ปลอดภัยแทน คือตัว ไบโอมิกซึ่งจะมีธาตุอาหาร 13 ชนิด ตรวจสอบโดยเซ็นทรัลแล็ป ทุกตัวจะมีอินทรียวัตถุ มีคุณสมบัติในการไล่แมลงด้วย ช่วยให้เราได้ทานผักที่ปลอดภัย ได้ผลผลิตเยอะและมีคุณภาพ สามารถตอบโจทย์ในกลุ่มคนที่ไม่เชื่อเกษตรอินทรีย์ได้

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของครูไต่ ได้รับการพัฒนาต่อยอดและไปออกพื้นที่ในหลายจังหวัด เช่น อ.พบพระ จ.ตาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย อ.ปง จ.พะเยา ได้รับผลตอบรับได้ชัดจากเกษตรกรผู้ปลูก เช่น ยาสูบ ไม่มีแมลง และกลิ่นใบยาหอม  และพริกขี้หนู อ.แม่สอด โตเร็ว ผลผลิตเยอะ เก็บไว้ในตู้เย็นได้นานกว่า 1 เดือน   

ครูไต่ กล่าวทิ้งท้ายว่า รู้สึกภูมิใจมากที่อย่างน้อยก็ช่วยเกษตรกรได้ส่วนหนึ่งทำให้มีต้นทุนทางผลผลิตลดลง ได้ผลผลิตมากขึ้น และที่สำคัญคือความปลอดภัย

จากที่ได้ต่อยอดจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์  กระทรวงวิทยาศาสตร์ ได้เสนอชื่อผลิตภัณฑ์ของครูไต๋ เข้ารับรางวัลนวัตกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งได้รับรางวัลมาตามที่คาดหวังไว้ และยังมีรายการโอทอปเงินล้าน ได้เข้ามาถ่ายทำรายการที่บ้านอีกด้วย

สอบถามรายละเอียด ผลิตภัณฑ์ โทร. 089-632-4613 หรือ เฟซบุ๊คเพจ : ฉี่ไส้เดือนบ้านครูไต่