วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ชาวสบลี 200 คน ตบเท้าขึ้นโรงพัก แจ้งถูกอมเงิน

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ชาวบ้านสบลี ต.แจ้ซ้อน กว่า 200 คน แจ้งความถูกหลอกออมเงินวันละบาท แต่กลับไม่ได้เงินคืนตามตกลง อีกทั้งยังพบข้อมูลการเบิกเงินค่าปลงศพผู้เสียชีวิต ไม่ตรงกับความเป็นจริง ด้านประธานกองทุนยันดำเนินการตามระเบียบ มีเอกสารหลักฐานครบ พร้อมชี้แจงกับเจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 62 เวลา 13.40 น. กลุ่มชาวบ้านสบลี หมู่ 6 ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง 195 คน นำโดยนายบุญชู แปดนัด อายุ 64 ปี ตัวแทนซึ่งได้รับมอบอำนาจจากชาวบ้านผู้เสียหายทั้งหมด 212 คน รวมตัวเดินทางมายัง สภ.แจ้ซ้อน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสอง  ต๊ะเวที ประธานกองทุนออมวันละบาท และเป็นอดีตกำนันตำบลนาสัก  พร้อมด้วยนางบัวเหลียว คำมี  เลขานุการกองทุน ในคดีอาญาทุกฐานความผิด หลังจากทั้งสองคนได้เชิญชวนให้ชาวบ้านได้สมัครเข้ากองทุนสวัสดิการอิ่มบุญอิ่มใจ บ้านสบลี ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน แต่กลับได้รับเงินออมและเงินสมทบคืน

 

นายบุญชู แปดนัด เล่าว่า เมื่อเดือน ธ.ค.53  ได้มีคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการอิ่มบุญอิ่มใจ ต.แจ้ซ้อน หรือกองทุนออมบุญวันละหนึ่งบาท คือนางบัวเหลียว คำมี ได้เชิญชวนให้สมัครเข้ากองทุนสวัสดิการอิ่มบุญอิ่มใจบ้านสบลี หมู่ 6 ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน  ซึ่งทางสมาชิกหลายคนเห็นว่ามีประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว จึงได้ร่วมสมัครเป็นสมาชิก โดยมีเงื่อนไขจากแผ่นพับระบุว่า สามารถออมเงินครบ 5 ปี ถ้าลาออกจะได้รับเงินออมสะสมคืนครบจำนวน  มีสวัสดิการในการพักรักษาพยาบาล 100 บาทต่อคืน และไม่เกิน 10 คืนต่อปี  และกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินค่าปลงศพ ตามเงื่อนไขจำนวนปีที่ออม และได้รับเงินสะสมคืนครบจำนวน  จนกระทั่งเดือน มี.ค.62 ได้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งทางสมาชิกเพิ่งได้รับทราบว่า มีกรณีสมาชิกกองทุนฯเสียชีวิตแต่กลับไม่ได้รับเงินออมสมทบคืนแต่อย่างใด จึงได้เรียกร้องให้ทางคณะกรรมการกองทุนฯ ประจำหมู่บ้านชี้แจงตั้งแต่เดือน เม.ย. 62 ที่ผ่านมา แต่ทางคณะกรรมการไม่เคยมีการชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ  โดยที่ชาวบ้านไม่เคยทราบความเคลื่อนไหวของกองทุนเลย ตั้งแต่เปลี่ยนประธานกองทุนคนใหม่เมื่อปี 2558 เป็นต้นมา

 

ชาวบ้านได้เล่าอีกว่า  เมื่อทางสมาชิกได้สอบถามเรื่องรายรับรายจ่ายประจำปี ทางคณะกรรมการก็ตอบแบบคลุมเครือไม่โปร่งใส และไม่เคยแจ้งให้ทราบเลยว่าได้นำรายชื่อของสมาชิกไปรบเงินสมทบเพิ่มเติมจากทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ลำปาง และ อปท.  ทางสมาชิกจึงได้เสนอว่าจะขอลาออกและขอรับเงินออมสะสมคืน ทางคณะกรรมการแจ้งเพียงแต่ว่าไม่ได้ใช้ระเบียบเดิมแล้ว ซึ่งได้นำระเบียบใหม่จากจังหวัดมาใช้จึงไม่สามารถคืนเงินได้  ชาวบ้านกลุ่มสมาชิกจึงได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 62 ที่ผ่านมา  แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจนเหมือนเดิม  จึงหาช่องทางที่จะขอความช่วยเหลือและได้ติดต่อไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดลำปาง  ต่อมาวันที่ 22 ส.ค. 62 ได้ข้อสรุปว่า คณะกรรมการจะจ่ายให้เฉพาะเงินออมที่คงเหลือ 4,950 บาท แต่ไม่สามารถนำเงินในส่วนของราชการมาสมทบจ่ายคืนกรณีนี้ได้  ขณะเดียวกันทางสมาชิกได้ตรวจสอบทางเว็บไซด์ www.aombun1bath.com พบว่า ในเดือน ก.พ.62 มีสมาชิกเสียชีวิต 1 ราย แต่ทางคณะกรรมการได้แจ้งขอเบิกจำนวน 3 ราย โดยมีการเบิกจ่ายเงินค่าสวัสดิการปลงศพจำนวน 45,000 บาท  ในเดือน พ.ค.62 พบข้อมูลการเงินรายจ่ายอื่นๆ 53,990   บาท ซึ่งถือว่าผิดปกติ  และเดือน ก.ค.62 จำนวน 28 ราย แต่ความจริงเสียชีวิตก่อนวันที่ที่ระบุ และอายุสมาชิกไม่ถูกต้อง  

ขณะนี้มีชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 212 คน โดยมียอดจำนวนเงินออมที่ต้องการรับคือ จำนวน 482,820 บาท โดยทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้ และจะได้เรียกตัวทางผู้ถูกกล่าวหามาทำการสอบสวนตามกฎหมายต่อไป

สำหรับในเรื่องนี้ แหล่งข่าวได้ระบุว่า ทางกองทุนได้มีการปรับเปลี่ยนระเบียบการจ่ายเงินดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2553 โดยเป็นมติร่วมกันของทางคณะกรรมการกองทุน ต่อมานายสอง ต๊ะเวที  ได้เข้ามาเป็นประธานกองทุนเมื่อปี 2559 โดยทางสมาชิกได้มีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งทางนายสอง ได้มีนำเอกสารต่างๆไปชี้แจงให้กับทางสมาชิกได้รับทราบแล้ว แต่ก็ยังมีการร้องเรียนเรื่อยมา จนกระทั่งไปสู่การแจ้งความดังกล่าว

ลานนาโพสต์ได้ติดต่อสอบถามไปยังนายสอง ต๊ะเวที ได้รับการเปิดเผยว่า ตนเองได้ปฏิบัติตามระเบียบของกองทุนฯ พร้อมทั้งมีเอกสารหลักฐานในการดำเนินการทุกอย่างครบถ้วนพร้อมจะมอบให้ทางเจ้าหน้าที่  ซึ่งต้องดำเนินการไปขั้นตอนของกฎหมาย


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1250 วันที่ 29 พฤศจิกายน - 12 ธันวาคม 2562)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์