วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562

“ตูบแก้วมา”แหล่งเรียนรู้กระบวนการทอผ้าเพื่อชุมชน

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ตึกๆตึก เสียงกระตุกกี่ทอที่คอยถักทอเส้นใยสู่ผืนผ้า บทเพลงแห่งกี่ทอบรรเลงจากอดีตสู่ปัจจุบันจนฝังรากเหง้าเป็นภูมิปัญญาอยู่คู่ชาวไทย

ผ้า เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของการดำรงชีวิตของมนุษย์ นอกจาก อาหาร ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค จากหลักฐานที่ปรากฏในจดหมายเหตุและพงศาวดารครั้งสมัยสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ แสดงให้เห็นว่าผ้าทอนั้นอยู่คู่กับคนไทยมาแต่โบราณกาล…..

 

ศูนย์การเรียนรู้การผลิตผ้าทอที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กลุ่มชุมชนผ้าฝ้ายปั่นมือย้อมสีธรรมชาติบ้านนาเดา (ตูบแก้วมา)ศูนย์การเรียนรู้ที่8 ของโครงการ “ฝ้ายแกมไหม” ตั้งอยู่ที่บ้านนาเดา ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม จ.ลำปาง โดยมีคุณจันทร์คำ แก้วมาเป็นผู้นำกลุ่ม จุดเด่นของตูบแก้วมานั้นอยู่ที่การบริหารจัดการที่เริ่มต้นจากฐานของครอบครัวและขยายความร่วมมือไปยังสมาชิกในชุมชน

“ที่ใช้คำว่า “ตูบ” เพราะเราอยู่ในชนบท ไม่มีงบอย่างใครเขา ถ้าจะให้สร้างเป็นตึกเป็นคอนโดเหมือนในเมืองคงทำไม่ได้หรอก ส่วนคำว่า “แก้วมา” ก็มาจากนามสุกลแม่นี่แหละ ฮ่าๆๆ ”

 

ก่อนจะมาเป็นศูนย์การเรียนรู้นั้น คุณจันทร์คำ แก้วมา เล่าว่า ประมาณปี 2526 สมัยเจ้าคณะวัดนาเดามีงานพัฒนาชุมชนเข้ามา จึงเชิญชวนให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกันเพื่อเพิ่มรายได้ที่วัดนาเดาและเนื่องจากเมื่อ 200-300 ปีก่อน บรรพบุรุษของชาวบ้านนาเดาปลูกฝ้าย ปั่นฝ้ายทอเอง จึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะรวมกลุ่มกันทอผ้าแต่ก็ได้รับรายได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะจำนวนคนมีมากแต่ผลตอบรับน้อย จนปี 2536 ก็มีอุตสาหกรรมจังหวัดลำปางได้เข้ามาสนับสนุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และลวดลายให้ตรงกับความต้องการของตลาด จนทำให้กลุ่มทอผ้าบ้านนาเดามีลายผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งก็คือ “ลายสร้อยดอกหมาก” ต่อมาในปี 2545 ทางกลุ่มก็ได้เข้าร่วมการอบรมการย้อมสีจากธรรมชาติในโครงการ “ฝ้ายแกมไหม” ที่อยู่ภายใต้การดูแลจากสถาบันและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จนสามารถพัฒนามาเป็นศูนย์การเรียนรู้การผลิตเส้นใยธรรมชาติครบวงจร ใช้ชื่อว่า “ตูบแก้วมา” ซึ่งปัจจุบันกลุ่มเดิมที่วัดนาเดาก็ยังมีการทอผ้าอยู่แต่ที่วัดนาเดาจะให้ไหมประดิษฐ์ในการทอ

ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือของตูบแก้วมา เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากเส้นใยธรรมชาติของแท้ โดยทุกกรรมวิธีการผลิตฝ้ายจะอยู่ในความรับผิดชอบของชาวบ้านในกลุ่ม เริ่มตั้งแต่กระบวนการปลูกฝ้าย ประกอบด้วยการปลูกฝ้ายพื้นเมือง พันธุ์แก่นแป พันธุ์ขี้แมว พันธุ์น้อยและพันธุ์ตุ่น โดยมีการปลูกไว้ในบริเวณบ้านเพื่อง่ายต่อการเรียนรู้ของผู้สนใจ ตั้งแต่รูปร่างของต้นฝ้ายแต่ละชนิด การเตรียมพื้นที่เพาะปลูก จนถึงเทคนิคการเก็บเกี่ยวผลผลิต
 

ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ เป็นศูนย์การเรียนรู้ครบวงจร ที่เริ่มกระบวนการผลิตทั้งหมดตั้งแต่เริ่มปลูกฝ้ายจนสำเร็จเสร็จออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าทอเพื่อเป็นการสร้างอาชีพเสริมแก่คนในชุมชน และเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ผู้ที่สนใจ ปัจจุบันนี้ก็ตูบแก้วมาก็ได้รับความสนใจจากผู้คนและหน่วยงานต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่นที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ ณ ขณะนี้

“เสียงเพลงแห่งกี่ทอจะยังดำเนินต่อไปเพื่อชุมชนและครอบคัวของผู้ที่บรรเลงมัน”

เกษณี ตั๋นตุ้ย นักศึกษาฝึกงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1252 วันที่ 27 ธันวาคม 2562 - 9 มกราคม 2563)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์