วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562

รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ติดตามการตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 62  ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอห้างฉัตร จ.ลำปาง  น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้า โครงการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ภาคเหนือตอนบนใน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยมีนายสิทธิชัย จินดาหลวง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ  ผู้อำนวยการ อ.ส.ค.   ผู้บริหารของ อ.ส.ค. และหัวหน้าส่วนราชการใน จ.ลำปาง ร่วมให้การต้อนรับ


ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ อ.ส.ค.  ได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมา ในจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมและศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร อ.ส.ค.ภาคเหนือตอนบน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เนื่องจากทางชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือ จำกัด โดยนายชุมพร ปาลี รองประธานรักษาการประธาน ได้มีหนังสือไปถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในคราวเดินทางมาปฏิบัติราชการและเยี่ยมประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.59  ขอความอนุเคราะห์ให้รัฐบาลพิจารณางบประมาณสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมขนาดใหญ่ และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมครบวงจร เนื่องจากการเลี้ยงโคนมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบนมีปริมาณเพิ่มขึ้น


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแล้ว จึงได้ส่งเรื่องให้ อ.ส.ค.พิจารณาดำเนินการ ต่อมาคณะกรรมการ อ.ส.ค.ได้มีความเห็นให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคเหนือ จำกัด และเป็นไปตามความเห็นของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จึงให้ อ.ส.ค. ดำเนินการ จัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม ที่ดำเนินการโดย อ.ส.ค. เพื่อรองรับผลผลิตน้ำนมดิบที่เพิ่มขึ้นตามที่รัฐบาล  โดยจัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรเป็นฟาร์มขนาดกลางและขนาดใหญ่  และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมครบวงจร ซึ่งประกอบด้วยศูนย์ Feed Center เพื่อเป็นแหล่งสนับสนุนอาหารโคนมในราคาต้นทุนต่ำ   ศูนย์เลี้ยงโคนมทดแทน เป็นการแบ่งเบาภาระ ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในการนำโคทดแทนมาเลี้ยงยังศูนย์แทน ตามข้อจำกัดด้านแรงงาน สร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่สานต่ออาชีพของครอบครัว  และSmart Farm เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้  ศึกษาดูงานด้านกิจการโคนมระดับนานาชาติ


น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า   ปัจจุบันการเลี้ยงโคนมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำพูน และลำปางนับเป็นฐานการผลิตน้ำนมดิบที่สำคัญและคุณภาพดีที่สุดของประเทศไทย   มีการรวมตัวกันจัดตั้งเป็น สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมมากถึง 18 สหกรณ์ และบริษัทเอกชน 4 แห่ง  มีเกษตรกรรวม 1,403 ราย จำนวนโคนมทั้งหมด 64,147 ตัว ปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตได้ 8,990 ตันต่อเดือน หรือ 300 ตันต่อวัน และมีแนวโน้มปริมาณน้ำนมดิบของเกษตรกรเพิ่มขึ้นทุกปี   จากสถานการณ์ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีความวิตก    หากไม่มีการขยายโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมเพื่อรองรับปริมาณน้ำนมดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย อาจส่งผลให้เกิดปัญหานมล้นตลาดในอนาคต  ตนจึงได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าเพื่อให้โครงการดังกล่าวแล้วเสร็จเร็วที่สุดเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ขาดโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ขนาดที่เพียงพอรองรับน้ำนมดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้   ซึ่งหากไม่รีบตั้งโรงงาน คาดน้ำนมดิบจะเกินความต้องการในปี2563 ตามมาอย่างแน่นอน


ทั้งนี้ จากการติดตามความก้าวหน้าทราบว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวคืบหน้าอย่างมาก  โดยในส่วนของพื้นที่สำหรับใช้ก่อสร้างโรงงานนมนั้น   อ.ส.ค.ได้รับความอนุเคราะห์จากสถานีพัฒนาที่ดินลำปาง กรมพัฒนาที่ดิน อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปางในการมอบที่ดินรวม 154–3-75 ไร่สำหรับใช้ก่อสร้าง  2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1  การจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม โดยจะใช้พื้นที่ที่ อ.ส.ค.ได้รับอนุญาตให้เช่าที่ราชพัสดุ จากกรมธนารักษ์ โดยตรง จำนวน 79 ไร่

ส่วนที่ 2  การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร  ในพื้นที่ของกรมพัฒนาที่ดินสถานีพัฒนาที่ดินลำปาง โดยการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมพัฒนาที่ดิน กับ อ.ส.ค. พื้นที่จำนวน 75-3-75 ไร่ โดยได้มี การลงนามความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาที่ดิน กับ อ.ส.ค. ไปแล้วเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 62 ที่ผ่านมา

 นอกจากนี้ อ.ส.ค.ยังได้ดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษามหาวิทยาลัยบูรพา ทำการศึกษาทบทวนโครงการพร้อมออกแบบโครงการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมและศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร ภาคเหนือตอนบน อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง โดยที่ปรึกษาได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.61 ที่มีการสรุปผลการทบทวน-การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ  พร้อมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะจากมุมมองของที่ปรึกษาที่เป็นประโยชน์ ต่อโครงการ พร้อมออกแบบโครงการ ที่ชัดเจน พร้อมดำเนินการในขั้นตอนที่  อ.ส.ค.สามารถจะนำเสนอ เพื่อขอความสนับสนุนงบประมาณ หรือดำเนินการจัดหาผู้ลงทุนในลำดับต่อไป โดยโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม จะมีกำลังการผลิต 150 ตัน ต่อวัน ใช้งบประมาณค่าก่อสร้างและอุปกรณ์เครื่องจักรทั้งโครงการกว่า 1,015 ล้านบาท

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์