วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เปิดท่องเที่ยวอุทยานแจ้ซ้อนวันแรก นักท่องเที่ยวทยอยเข้ามาต่อเนื่อง กว่า 100 คน

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

เปิดท่องเที่ยวอุทยานแจ้ซ้อนวันแรก  นักท่องเที่ยวทยอยเข้ามาต่อเนื่อง พบยอดจองผ่านแอพพลิเคชั่นคิวคิว (QueQ) ยังไม่มากเพราะคนรู้จักน้อย ในขณะที่คนวอล์คอินเข้ามาเกือบ 100 คน  หัวหน้าอุทยานฯแจ้ซ้อนเผยรับได้ 800 คน กำหนดมาตรการเข้มก่อนเข้าใช้บริการ

          เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 63 ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง  ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของ จ.ลำปาง และระดับประเทศ  หากเป็นช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว จะมีนักท่องเที่ยวแห่แหนเข้ามาท่องเที่ยววันละไม่ต่ำกว่า 5 พันถึง 1 หมื่นคน  โดยล่าสุดทางอุทยานฯ ได้เปิดให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมอีกครั้ง หลังจากปิดไปร่วม 3 เดือน


 

บรรยากาศการเปิดท่องเที่ยววันแรก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง  ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่วอล์คอินเข้ามา โดยไม่ได้มีการจองล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น เนื่องจากเป็นแอพฯใหม่ ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก โดยทางอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน นำโดยนายเทวัญ จันทร์พรหม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปทส. โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมบูรณาการในการตรวจคัดกรองประจำด่านตรวจ นำโดย พ.ต.ต.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก ปทส.  และเจ้าหน้าที่   โดยเข้มงวดในเรื่องของการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจล บันทึกประวัติการเข้าออกอย่างละเอียด เพื่อที่เป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19  

นอกจากนี้ยังได้ตรวจตราเดินพบปะพูคุยทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว เป็นการสร้างความอบอุ่นใจในการมาท่องเที่ยวในสถานที่แหงนี้   ในขณะที่ธรรมชาติภายในอุทยานได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ต้นไม้เขียวขจีอย่างสวยงาม โดยทางอุทยานไดถือโอกาสปรับปรุงทางเดินและจุดๆ ในช่วงหยุดยาว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว



นายเทวัญ จันทร์พรหม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เปิดเผยว่า  หลังจากที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำหนดเปิดอุทยานแห่งชาติ 127 แห่งทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ก.ค.63 โดย นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติต้องจองล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ (คิวคิว) เพื่อจำกัดจำนวนคนลดความแออัดในรูปแบบ New Normal โดยสามารถจองล่วงหน้าได้ 15 วัน  เมื่อเดินทางถึงอุทยานฯแล้ว ให้นำข้อมูลการจองนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อตรวจสอบรายละเอียด จากนั้นสามารถเข้าไปท่องเที่ยวภายในอุทยานได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้จองล่วงหน้า ก็ยังสามารถมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติได้ตามปกติ แต่จะให้สิทธิ์กับผู้ที่ทำการจองผ่านทางแอปพลิเคชั่น QueQ ก่อน และเมื่อผู้จองผ่านแอพฯ ไม่มาตามเวลาจอง เจ้าหน้าที่จึงจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จองผ่านแอพฯ เข้าไปท่องเที่ยวได้

หัวหน้าอุทยานฯ กล่าวว่า  รูปแบบการท่องเที่ยวจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เน้นความปลอดภัยใส่ใจสิ่งแวดล้อม เรามีมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เข้ามาอย่างเข้มข้น ต้องลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะทุกคน หรือลงชื่อไว้   สำหรับในวันแรกอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้มียอดจองผ่านแอพฯ QueQ เข้ามาเพียง 15 รายเท่านั้น ในขณะที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวโดยไม่ได้จองจำนวนมากเกือบ 100 คน   ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปใช้บริการได้ตามปกติ เพราะภายในอุทยานยังรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวได้ โดยกำหนดไว้ไม่เกิน 800 คน  ซึ่งจะมีเจลแอลกอฮอล์ตั้งไว้บริการตามจุดต่างๆ พร้อมขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกคน และรักษาระยะห่างในการนั่งพักผ่อนกันเป็นครอบครัว   ในเบื้องต้นยังคงขอความร่วมมือให้งดการเล่นน้ำตก รวมถึงบ่อน้ำอุ่นกลางแจ้ง  แต่ได้เปิดให้บริการในส่วนของห้องอาบน้ำแร่ นวดเพื่อสุขภาพ และลานน้ำพุร้อนสำหรับลวกไข่ได้ตามปกติ

นายเทวัญ กล่าวอีกว่า ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงนี้  ได้มียอดจองเข้ามาจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 100 คนแล้วในแต่ละช่วงวัน ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวที่วอล์คอินเข้ามาร่วมด้วย โดยทางอุทยานฯ จะได้มีการประชาสัมพันธ์การใช้แอพพลิเคชั่น QueQ ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักแอพฯนี้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เสียสิทธิในการเข้าเที่ยวภายในอุทยาน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวต้นเดือน ก.ค.นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก จะได้มั่นใจได้ว่าเมื่อมาถึงแล้วได้เข้าไปเที่ยวน้ำตก และได้ทานไข่น้ำแร่อย่างแน่นอน

ด้าน พ.ต.ต.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก ปทส.   กล่าวว่า ในส่วนของผู้บังคับการฯ ได้มีแผนสนองนโยบายของรัฐบาล เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ ร่วมตรวจคัดกรองตามอุทยานทุกแห่ง ในแต่ละจุดตามพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งแนะนำและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว ที่จะต้องร่วมบูรณาการร่วมกันอย่างเข้มข้นเป็นพิเศษ เพราะคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก








Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์