วันที่
20
ก.ค.63 ที่ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานชลประทานที่ 2 อ.เมืองลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
เป็นประธานแถลงข่าวผลการดำเนินงานด้านภัยแล้งและสถานการณ์น้ำของจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย
นายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
นายปรีชา จานทอง ผอ.สำนักชลประทานที่ 2 ลำปาง และหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งเข้าร่วม
โดยในที่ประชุมได้มีการสรุปผลภาพรวมการดำเนินงานทั้ง
3
ระยะ คือ ระยะสั้น
ระยะเร่งด่วน ได้มีการสำรวจพบว่ามีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค
จำนวนทั้งสิ้น 281 หมู่บ้าน โดยได้เร่งให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ “เสี่ยงมาก” จำนวน 4 หมู่บ้าน และ “เสี่ยงปานกลาง” จำนวน 45 หมู่บ้าน ผ่านการประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่สนับสนุนรถบรรทุกน้ำ ด้านไม้ผลเสี่ยงยืนต้นตาย
มีพื้นที่เสี่ยงไม้ผลยืนต้นตาย จำนวน 19,604 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสีแดง (วิกฤติ) 2,219.75
ไร่ ได้มีการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนโดยมีการแจกจ่ายน้ำ ตลอดจนให้ความรู้ในการทำระบบน้ำหยดด้วยขวดพลาสติก
การปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อวัดความชุ่มชื้นในดิน การตัดแต่งกิ่ง
การใช้สารชีวภัณฑ์ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชให้กับเกษตรกร ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563
เป็นต้นมาจนทำให้ปัจจุบันไม่มีพื้นที่ประสบปัญหาแล้ว
ด้านการจัดสรรน้ำจากเขื่อนกิ่วลม
เพื่อแก้ปัญหาลุ่มน้ำวังตอนล่าง (5 อำเภอ 30 ตำบล) ซึ่งจังหวัดลำปางมีพื้นที่ขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค
และพื้นที่เสี่ยงไม้ผลยืนต้นตาย กระจายในพื้นที่ 9 อำเภอคือ วังเหนือ แจ้ห่ม เมืองลำปาง
แม่เมาะ ห้างฉัตร เกาะคา สบปราบเถิน และแม่พริก จึงมีการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำกิ่วลม
และอ่างเก็บน้ำแม่ฟ้า รวม 10 ล้านลูกบาศก์เมตร
เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ด้านท้ายน้ำของแม่น้ำวัง ในวันที่ 17 เมษายน 2563 ถึงวันที่
21 เมษายน 2563 ทำให้มีพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการระบายน้ำครั้งนี้
จำนวน 5 อำเภอ รวม 30 ตำบล รวมทั้งการประปาส่วนภูมิภาค สาขาเถิน
สามารถเก็บกักไว้สำหรับผลิตน้ำประปาได้จนถึงเดือนกรกฎาคม 2563 ถือได้ว่าการให้บริการน้ำประปาในพื้นที่อำเภอเถินและอำเภอแม่พริก
ปี 2563 ได้ผ่านพ้นวิกฤติแล้ว
ในส่วนของระยะปานกลาง
และระยะยาวนั้น จังหวัดลำปาง ได้มีแนวคิดที่จะใช้ประโยชน์จากขุมเหมือง
เป็นการศึกษาและเตรียมนำโมเดลการนำน้ำจากขุมเหมืองมาใช้ประโยชน์
เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในลักษณะการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการทำ CSR
ซึ่งพื้นที่จังหวัดลำปางมีขุมเหมืองอยู่ ประมาณ 10 ขุมเหมือง โดยดำเนินโครงการนำร่อง
(Pilot Project ) เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่อย่างยั่งยืน
(สิริราชโมเดล) ในพื้นที่ตำบลสันดอนแก้ว อำเภอแม่ทะ ซึ่งมีระบบการปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนนำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค
และหรือเพื่อการเกษตรกรรม
นอกจากนี้
ยังวางพัฒนาลุ่มน้ำแม่จางที่เป็นแม่น้ำสายหลักที่ประชาชนใช้ประโยชน์ ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ แม่เมาะ แม่ทะ และเกาะคา การพัฒนาลุ่มน้ำแม่งาว
เพื่อช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ 5 ตำบล คือ ตำบลบ้านร้อง ตำบลปงเตา
ตำบลนาแก ตำบลหลวงเหนือ และตำบลหลวงใต้ การแก้ไขปัญหาลำน้ำแม่ตุ๋ยช่วงบนมีแนวทางการดำเนินการผันน้ำต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำแม่นึง
บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในช่วงภัยแล้งให้กับประชาชนในพื้นที่ การพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ การติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร
ไม่น้อยกว่า 2500 w และการดำเนินยุทธการหน่วงน้ำในแผ่นดินเขลางค์นคร
ซึ่งเป็นแนวคิดการชะลอน้ำหรือหน่วงน้ำไว้ใช้ เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ตลอดจนสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน
การปรับเปลี่ยนแนวคิดการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย
การปลูกจิตสำนึกและสร้างความตระหนักในการใช้ทรัพยากรน้ำ
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า
ลำปางเป็นจังหวัดที่ใช้น้ำเยอะมาก เนื่องจากมีแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
ที่ต้องใช้น้ำหล่อเลี้ยงในการผลิต
รวมทั้งประชาชนใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค และใช้น้ำสำหรับพื้นที่ทางการเกษตร
การแก้ปัญหาในปีนี้ได้มีการเตรียมวางแผนกันมาล่วงหน้า
ทำให้เกิดประสบความสำเร็จ จ.ลำปาง ไม่มีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้งเลย
แต่อย่างไรก็ตาม ในปีหน้ายังเป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหาวิกฤตภัยแล้งขึ้นได้อีก
จึงต้องขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมวางแผนรับมือตั้งแต่ตอนนี้
เพื่อที่จะสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น