เมื่อวันที่ 30 ก.ค.56 ที่ผ่านมา แหล่งข่าวอ้างว่า ศาลจังหวัดมีคำสั่งไม่รับฎีกา
กรณีพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงลำปาง ผู้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเมือง พรหมอย่า
นายกเทศมนตรีตำบลสบยาว อ.เกาะคา จ.ลำปาง
กรณียื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งอันเป็นเท็จ(ไม่ตรงกับความเป็นจริง)
โดยจากการตรวจสอบบัญชี หลักฐาน และมีพยานยืนยันแล้ว
ทำให้เชื่อได้ว่านายเมืองมีการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง อันเป็นความผิดตาม
พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 55 วรรคหนึ่ง,มาตรา117
วรรคหนึ่ง โดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับ 15,000 บาท
ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 โดยให้ลดโทษ 1
ใน 3 ให้ปรับเพียง 10,000 บาท และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นเวลา 5 ปี เหตุเกิด
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2553
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวยังอ้างว่า คดีนี้ นายเมือง พรหมอย่า
จำเลย ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 5 และศาลมีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์
เมื่อวันที่ 27 พ.ย.55 โดยให้พิพากษาลงโทษตามคำสั่งศาลชั้นต้น(ศาลแขวงลำปาง)
อีกทั้งคดีนี้เป็นคดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวง
ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อความที่ตัดสินไม่เป็นปัญหาสำคัญอันควรที่จะนำไปสู่ศาลสูงสุด
จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกา โดยศาลได้มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 31 ก.ค.56
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากมีคำพิพากษาดังกล่าว นายเมือง พรหมอย่า
ซึ่งขณะนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลสบยาว อ.เกาะคา
ได้เตรียมให้ทนายความยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับกรณีดังกล่าว
พนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงลำปาง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเมือง พรหมอย่า
นายกเทศมนตรีตำบลสบยาว อ.เกาะคา จ.ลำปาง
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2553 โดยจำเลย
ได้ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายเกี่ยวกับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งไม่ตรงกับความเป็นจริง
โดยจากการตรวจสอบบัญชี หลักฐาน และมีพยานยืนยัน
ทำให้เชื่อได้ว่าจำเลยกระทำความผิดจริง ตาม
พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 55 วรรคหนึ่ง, 117 วรรคหนึ่ง ปรับ 15,000 บาท
ให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสาม คงปรับ
10,000 บาท
และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนด 5 ปี
ขณะที่นายเมือง
พรหมอย่า นายกเทศมนตรีตำบลสบยาว อ.เกาะคา กล่าวว่า จะสู้คดีให้ถึงที่สุด
เพราะเรื่องที่ถูกฟ้องร้องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้รถในการหาเสียง
ซึ่งรถคันดังกล่าวไม่ได้มีการติดป้ายโฆษณาหาเสียง และไม่ได้อยู่กับตนตลอดเวลา
จึงคิดว่าไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ตนเองไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝง