ผลักดันใช้แท็กซี่มิเตอร์
เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน เริ่มให้บริการ 4
คัน ด้านผู้ประกอบการรถแท็กซี่เชื่อผลที่ตามมาคุ้มค่าถึงแม้จะลงทุนหลักล้าน เผยมีผู้สนใจจำนวนมาก
มั่นใจแท็กซี่มิเตอร์ลำปางรุ่งแน่
นายพรชัย
จงศิริรักษ์ ขนส่งจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า
เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะของจังหวัดลำปางยังไม่มีมาตรฐานในระดับมีสากล
ซึ่งจะมีรถโดยสารสี่ล้อและรถตู้ให้บริการเป็นส่วนใหญ่
รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
จึงได้มีแนวคิดว่าจะจัดให้มีรถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้นในรูปแบบของรถแท็กซี่ เพื่อเพิ่มศักยกภาพในการให้บริการรับส่งผู้โดยสารและเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชน
ทางขนส่งจังหวัดจึงได้มีการหารือร่วมกับสหกรณ์เดินรถจังหวัดลำปาง
เพื่อนำเสนอแนวทางดังกล่าวให้กับผู้ประกอบการ
พบว่ามีผู้ประกอบการหลายคนให้ความสนใจ
จึงให้ทางสหกรณ์เดินรถดำเนินการจัดหาผู้ประกอบการที่มีความสมัครใจ
เนื่องจากไม่มีงบประมาณในการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งทางขนส่งได้อนุมัติให้มีรถแท็กซี่มิเตอร์ชุดแรกได้จำนวน
20 คัน แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องลดปริมาณรถโดยสารสี่ล้อลง 1 คันเมื่อเพิ่มแท็กซี่ 1 คัน
เพื่อให้เกิดความสมดุลกับการใช้บริการของประชาชน ปรากฏว่ามีผู้ประกอบการจำนวน 4 ราย ที่พร้อมจะนำร่องในการจัดทำรถแท็กซี่มิเตอร์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรับรองมิเตอร์จากกรมขนส่งทางบกเท่านั้น
ก็จะสามารถให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้
ขนส่งจังหวัด
กล่าวต่อไปว่า สำหรับค่าบริการรถแท็กซี่มิเตอร์นั้นได้กำหนดตามมาตรฐานของกรมขนส่งทางบก
โดยเริ่มต้นที่ระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก 50 บาท หากเกิน 2
กิโลเมตร จะบวกเพิ่มกิโลเมตรละ 10 บาท หลายคนอาจมีคำถามว่าการทำตรงนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ คิดว่าต้องให้กำลังใจกับผู้ประกอบการจำนวน 4 รายมากกว่ามามองถึงความคุ้มทุน
ซึ่งในอนาคตจะมีการจัดตั้งระบบ Call Center เพื่อเรียกใช้บริการ
ถึงแม้ว่าจะมีรถแท็กซี่มาให้ 20 คัน ก็คงไม่เพียงพอเป็นแน่
ด้านนายบุญหน่ำ
ชวชยากร เลขานุการ คณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เดินรถลำปาง
จำกัด กล่าวว่า การจัดรถแท็กซี่มิเตอร์ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของ
จ.ลำปาง เนื่องจากที่ผ่านมามีเพียงรถโดยสารสี่ล้อวิ่งรับผู้โดยสารเท่านั้น
ปัจจุบันมีกว่า 300 คันให้บริการในเขตเทศบาล สำหรับแท็กซี่มิเตอร์ในช่วงเริ่มแรกนี้มีเพียง 4
คันเท่านั้น โดยผู้ประกอบการจะต้องจัดซื้อรถเอง
และออกค่าใช้จ่ายต่างๆเองทั้งหมด
ซึ่งอยู่ระหว่างการจดทะเบียนขออนุญาตจากขนส่งจังหวัด หากมีผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นถึง 10 คัน ก็จะมีการตั้งศูนย์ Call Center ขึ้น
เพื่อให้บริการประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ตอนนี้ได้เริ่มต้นเพียง
4 คันเท่านั้น ผู้ประกอบการคนอื่นอาจจะยังคงรอติดตามผลตอบรับจากแท็กซี่ในชุดแรกก่อน
เพราะการลงทุนค่อนข้างที่จะสูง
แต่คิดว่าถ้ามีแท็กซี่มิเตอร์มาให้บริการใน จ.ลำปางเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวมองเห็นศักยภาพของระบบขนส่งของลำปาง
และเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
นายคำ
พึ่งสุยะ หัวหน้าคิวรถแท็กซี่มิเตอร์
จ.ลำปาง กล่าวว่า
ขณะนี้มีหลายคนสนใจที่จะทำแท็กซี่มิเตอร์
ได้สอบถามเข้ามาทั้งกลุ่มรถโดยสารสี่ล้อเดิม กลุ่มข้าราชการเกษียณอายุ บริษัททัวร์ก็มีติดต่อเข้ามา ซึ่งตนจะเลือกผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพอย่างแท้จริงเท่านั้น ตรงจุดนี้จะเป็นโอกาสและรายได้
ไม่อยากให้ทำเป็นธุรกิจ
ตอนนี้ได้มีหลายคนไปจองรถไว้แล้ว อยู่ระหว่างรอรับรถจากทางบริษัท บางคนก็ยังรอดูผลตอบรับจากกลุ่มของเราที่เริ่มเป็นชุดแรก
เพราะต้นทุนค่อนข้างสูงมาก รวมแล้วประมาณ 1 ล้านบาท แต่เมื่อเล็งเห็นว่า
การท่องเที่ยวในอนาคตจะมีการพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน
ประกอบกับมีทุนสำรองอยู่จึงได้ตัดสินใจทำ และเชื่อว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
“รับรองว่าแท็กซี่มิเตอร์ที่ลำปางจะให้บริการลูกค้าอย่างเป็นกันเอง
และไม่มีการขูดรีด หรือแปลงมิเตอร์แน่นอน เนื่องจากจะมีใบเสร็จเป็นหลักฐานเมื่อกดมิเตอร์ทุกครั้ง
หากท่านใดต้องการใช้บริการ สามารถติดต่อได้ เรามีจุดจอดรถอยู่บริเวณข้างโรงแรมพิณ
ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง และในอนาคตจะมีเบอร์กลางเป็น Call Center ให้เรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายคำ กล่าว
นายณัฐพล
คำเรืองฤทธิ์ เจ้าจองรถแท็กซี่มิเตอร์อีกคัน
กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจจัดทำรถแท็กซี่มิเตอร์ว่า เมื่อมองถึงอนาคตข้างหน้าแล้ว
คิดว่าการให้บริการแท็กซี่น่าจะดียิ่งขึ้น
เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยได้เตรียมพร้อมรับประชาคมอาเซียนกันแล้ว
ในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก
ซึ่งเชื่อว่ารถแท็กซี่มิเตอร์จะจำเป็นต่อการโดยสารอย่างแน่นอน
เพราะสะดวกสบายเป็นส่วนตัว
ส่วนรถโดยสารสี่ล้อก็น่าจะยังคงมีผู้ใช้บริการอยู่
เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าเดิมอยู่แล้ว
ซึ่งแท็กซี่มิเตอร์จะเข้ามาเพิ่มเติมในส่วนของลูกค้า
นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อ
หากถามว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนไหม ตนมองว่าการลงทุนนี้ถือเป็นการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว และเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ตัวเอง
ซึ่งดีกว่าการซื้อรถเอามาวิ่งบนถนนปกติทั่วไป
สำหรับการติดต่อให้บริการนั้น นายณัฐพล กล่าวว่า ได้มีการนำนามบัตร
และเบอร์โทรศัพท์ไปประชาสัมพันธ์ตามโรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆใน จ.ลำปาง ส่วนใหญ่จะรับบริการในกลุ่มที่โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาเท่านั้น
ยังไม่ได้มีการนำรถออกไปวิ่งตามท้องถนนทั่วไป
ซึ่งมีผู้โดยสารที่ทราบข่าวเข้ามาใช้บริการแล้วจำนวนหนึ่ง