ใกล้ถึงจุดจบตลาดหลักเมือง
แม่ค้าย้ายหนีขายของไม่ได้ เปิดประมูลถึง 4 ครั้งแต่เงียบ
ผู้ค้าตลาดหลักเมืองน้ำตาตกใน
เข้าขอความช่วยเหลือจากนายกฯ หลังขายของไม่ได้ปิดตัวกันเพียบ ทั้งประสบปัญหาห้องน้ำตัน-น้ำไม่ไหล
แถมรอยร้าวรอบตลาด ด้านกิตติภูมิคิดไม่ตก เปิดประมูลเช่าคูหาถึง 4
ครั้ง แต่ไม่มีใครยื่นซอง รับเห็นใจพ่อค้าแม่ค้า
และว่าแจ้งผู้รับเหมาให้เข้ามาซ่อมแซม แต่ก็ยังแก้ปัญหาได้ไม่ทั่วถึง ต้องทนอีก 2 ปี เพราะติดเงื่อนไขสัญญา
ตลาดหลักเมือง
หรือตลาดเทศบาล 1 ที่ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 77.4 ล้านบาทเศษ เปิดใช้บริการมาได้ 10
เดือนแล้ว โดยจะครบรอบ 1 ปี ในวันที่ 25 ต.ค.56 นี้
ซึ่งหลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบภายในตลาดหลักเมืองเมื่อช่วงเดือน
เม.ย. 56 พบว่าตลาดแทบจะกลายเป็นตลาดร้างเนื่องจากห้องแถวทั้งด้านหน้าและด้านหลังรวม
31 ห้อง มีผู้เปิดค้าขายเพียง 6
ห้องเท่านั้น
ส่วนห้องแถวที่เหลือโดยรอบปิดเกือบทั้งหมด
มีการประกาศประมูลของเทศบาลนครลำปาง
และบางส่วนมีการประกาศขายและประกาศเซ้งของเจ้าของที่ซื้อไว้ จนกระทั่งปัจจุบันผู้ค้าในตลาดหลักเมืองรวมทั้งห้องแถวด้านหน้าได้ปิดตัวลงเรื่อยๆ
บางรายได้ขอยกเลิกสัญญา โดยยอมเสียเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะที่จ่ายไป และบางรายก็ย้ายออกไปหาสถานที่ค้าขายใหม่
เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถขายสินค้าได้ ขณะที่ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 1,000-2,000
บาท
นายอนุชา
อุตไชยา พ่อค้าขายของชำในตลาด เปิดเผยว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้รับความเดือดร้อนมาก
หลังจากย้ายเข้ามาขายของในตลาดใหม่ เนื่องจากไม่มีลูกค้ามาซื้อของ ห้องน้ำตัน น้ำไม่ไหล
ท่อตัน ตลาดมีกลิ่นเหม็นเน่าของสิ่งปฏิกูล เวลามีฝนหรือลมแรงก็จะสาดเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับสินค้าที่มาจำหน่าย นกพิราบก็เริ่มทยอยมาหลบฝนในตลาด
ที่จอดรถน้ำท่วมนอง ร้านค้าที่เป็นห้องโดยรอบตลาดโดยเฉพาะฝั่งศาลหลักเมืองปิดตัว เหลือร้านค้าเพียง
3 ห้องที่ยังเปิดขายอยู่ เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ก็ทำให้คนไม่เข้ามาจับจ่ายซื้อของในตลาด
ตั้งแต่สร้างตลาดมายังไม่เคยเห็นหน้ากรรมการเลย
“ยอมรับว่าเราเสียค่าโง่ที่ทำสัญญาให้กับทางเทศบาลไป
เนื่องจากขณะนั้นพ่อค้าแม่ค้ากลัวว่าจะไม่มีสถานที่ขายของ
เพราะทางเทศบาลบอกว่าถ้าไม่ทำสัญญาก็จะตัดสิทธิ์ให้คนอื่นเข้ามาทำแทน จึงจำต้องเซ็นสัญญาไป
แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าไปค้าขายแล้ว กลับขายไม่ได้มาก
รายได้ลดน้อยลงเพราะไม่มีคนเข้าไปซื้อของในตลาด ซึ่งในส่วนของการทำสัญญาไปแล้วนั้น
ถือว่าเราตัดสินใจทำเอง แต่อยากให้ทางเทศบาลเข้ามาพัฒนาตลาด
ทำอย่างไรก็ได้ให้มีคนเข้ามาจับจ่ายซื้อของ ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าตลาดหลักเมือง
จะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของ จ.ลำปาง แต่ตอนนี้จะเจ๊งกันหมดทั้งตลาดแล้ว” นายอนุชา
กล่าว
ด้านแม่ค้าขายกาแฟ
เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ
2,000
บาท มีไม่มีก็ต้องหามาจ่าย
ถ้าไม่จ่ายก็จะหาว่าผิดสัญญาและจะมาไล่เราออกไปอีก ความเดือดร้อนของแม่ค้าตอนนี้คือตลาดไม่ติด
ในขณะที่แม่ค้าต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน คนขายก็เริ่มหายไปหมดแล้วตอนกลางวันมีเพียง
3-4 ร้าน
ตนเคยเสนอว่าให้บรรดาแม่ค้าผลไม้เข้ามาขายตรงฝั่งห้องโดยรอบอาคารที่ว่างอยู่
เพื่อจะได้มีสินค้าหลากหลายอาจเป็นจุดดึงคนเข้ามา แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ ตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าประสบปัญหาเดือดร้อนในความเป็นอยู่
ยอดขายขาดทุนมาก อยากขอความเห็นใจกับนายกเทศมนตรี ให้ช่วยเหลือแม่ค้าเท่าที่จะช่วยได้
ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนมาใช้บริการให้ด้วย
“ทุกวันนี้พ่อค้าแม่ค้าต้องเป็นหนี้กว่าแสนบาท
เพราะไปกู้เงินมาจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะ และยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้อยู่
เงินต้นก็ยังไม่ได้จ่ายสักบาท แต่เมื่อเข้ามาขายของก็มีแต่ปัญหาเรื่องสาธารณูปโภค
ลูกค้าเริ่มน้อยลง บางวันแทบไม่ได้ขายเลย แต่ต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน
ในช่วงที่ขายในตลาดชั่วคราวยังขายได้มากกว่าอีก”
นางคณิต
มากคันนา อายุ
49 ปี แม่ค้าร้านเครื่องดื่มและของใช้เบ็ดเตล็ด ในตลาดหลักเมือง เปิดเผยว่า
ช้ำใจมากกับการเข้ามาค้าขายในตลาดหลักเมืองมาก ตนเองค้าขายมานานราว 20 ปี ตอนที่ถูกย้ายไปขายที่ศาลหลักเมืองก็มาขายดี พอย้ายเข้ามาในตลาดหลักเมืองใหม่
ตนมีอยู่ 2 ล๊อค รวมจะค่าแป๊ะเจียะ 47,000.-บาท ค่าเช่ารายเดือนอีก 2,400.-บาท ค่าประกันไฟไหม้ อีก
572 มี 2 ล๊อค ก็ต้องจ่าย ประกันไฟไหม้
2 ต่อ แต่มีปัญหาตรงที่ขายของไม่ดี ไม่มีคนเข้ามา ห้องน้ำมีกลิ่นเหม็นเน่า อุดตัน น้ำไม่ไหล
ตรงบันได้ทางลาดขึ่นลงฝาผนังแตกร้าว น้ำนอง เวลาฝนตกก็รั่ว ฝนสาด สารพัดปัญหา ตอนนี้เป็นหนี้นอกระบบ
ดูเถอะคนปล่อยเงินกู้พวกหมวกกันน๊อคเข้าออกตลาดหลักเมือง วันละหลายเจ้า ไม่รู้จะทำอย่างไร
ดี นายกเทศมนตรีนครลำปางจะปล่อยให้แม่ค้าผจญชะตาชีวิตอย่างนี้ไป 2 ปีเลยหรือ มันไม่มีทางแก้ไขเลยหรือไง
นางวนิดา
อายุ
59 ปี แม่ค้าเขียงเนื้อ เปิดเผยว่า
ทุกวันนี้มาขายของเพราะเป็นอาชีพ นอนหลับค่าเวลาไปจนกว่าจะกลับบ้าน
รายได้แย่มาก อีกทั้งต้องทนกับกลิ่นเหม็น น้ำก็ไม่ไหล ต้องไปขอเข้าห้องน้ำที่อื่น ตามร้านค้าใกล้ๆ
ไปขอความช่วยเหลือจากนายกเทศมนตรีนครลำปางเขาก็รับเรื่องไป แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มาก ไม่เข้าใจทำไมทางเทศบาลนครลำปางกับกลุ่ม
สท.ไม่คุยกันเอาปัญหาชาวบ้านเป็นหลัก จะรอให้พวกเราเผชิญความยากจนเป็นหนี้เป็นสินกู้เงินนอกระบบแบบนี้ไปอีก
2 ปีเลยหรือ
ด้านนายกิตติภูมิ
นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวว่า ได้รับทราบปัญหาจากผู้ค้าขายในตลาดมาอย่างต่อเนื่อง
และอยากจะช่วยเหลือที่สุด แต่เท่าที่ทราบกันว่าเทศบาลติดเงื่อนไขในสัญญากับทางบริษัทรับเหมา
เพราะมีประกันอยู่
2 ปี เมื่อมีปัญหาก็ได้ทำหนังสือไปยังผู้รับเหมาแล้ว
ผู้รับเหมาก็เข้ามาซ่อมแซมพอให้ดีขึ้น แต่ไม่นานก็มีปัญหาอีก
เทศบาลก็ทำอะไรไม่ได้หากปรับปรุงอะไรในช่วง 2 ปี ทางเทศบาลเองจะมีความผิด
เห็นใจบรรดาพ่อค้าแม่ค้ามาก อดทนอีกหน่อยขณะนี้พยายามหาช่องทางในการเข้าช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าอยู่
ในส่วนของความผิดพลาดที่เกิดจากผู้รับเหมา
ได้มีการทำหนังสือเตือนไป ซึ่งส่วนที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมแก้ไขคือรางระบายน้ำ
บ่อพักใต้ดิน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางบริษัทรับเหมาได้ส่งช่างมาประสานงานกับทางเทศบาลแล้ว แต่ในส่วนความผิดพลาดที่เกิดจากเทศบาลก็ต้องยอมรับและหันกลับมาดูความผิดพลาดของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบและการใช้วัสดุต่างๆ ในเรื่องท่ออุดตัน ไม่ระบายน้ำ
ได้มอบหมายให้ฝ่ายสถาปัตย์สำนักการช่าง
ออกแบบแปลนและประมาณการในรายละเอียดที่จะดำเนินการ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาวิเคราะห์ประมวลผลหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
และรายงานมาให้ตนได้รับทราบ เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน สำหรับอาคารพาณิชย์
20 ห้องที่ยังว่างอยู่ เทศบาลได้เปิดประมูลไปแล้ว 4
ครั้ง แต่ไม่มีใครมายื่นประมูลแม้แต่รายเดียว แต่เรื่องนี้ยังไม่น่าหนักใจเท่าผู้ค้าภายในอาคารที่พยายามจะขอแจ้งยกเลิกสัญญา
และบางส่วนก็เริ่มทยอยออกไปหาที่ค้าขายใหม่
ในเรื่องนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากจังหวัด แต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณา ส่วนแผงที่ยังว่างอยู่จำนวน 32 แผงที่ยังไม่มีเจ้าของ ก็จะต้องรอคณะกรรมการชุดนี้เข้ามาดำเนินการหาแนวทาง
นายกเทศมนตรี กล่าว
ทั้งนี้
ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานว่า ทางกลุ่มผู้ค้าในตลาดหลักเมือง
เตรียมเข้าชื่อกันเพื่อยื่นร้องเรียนไปยังดีเอสไอ เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเข้าค้าขายในตลาดดังกล่าว