วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หลักเมืองไร้หลัก ตลาดร้างตึกร้าว


ใกล้ถึงจุดจบตลาดหลักเมือง แม่ค้าย้ายหนีขายของไม่ได้  เปิดประมูลถึง 4 ครั้งแต่เงียบ

ผู้ค้าตลาดหลักเมืองน้ำตาตกใน เข้าขอความช่วยเหลือจากนายกฯ หลังขายของไม่ได้ปิดตัวกันเพียบ ทั้งประสบปัญหาห้องน้ำตัน-น้ำไม่ไหล แถมรอยร้าวรอบตลาด ด้านกิตติภูมิคิดไม่ตก เปิดประมูลเช่าคูหาถึง 4 ครั้ง แต่ไม่มีใครยื่นซอง รับเห็นใจพ่อค้าแม่ค้า และว่าแจ้งผู้รับเหมาให้เข้ามาซ่อมแซม แต่ก็ยังแก้ปัญหาได้ไม่ทั่วถึง  ต้องทนอีก 2 ปี เพราะติดเงื่อนไขสัญญา

ตลาดหลักเมือง หรือตลาดเทศบาล 1 ที่ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 77.4 ล้านบาทเศษ  เปิดใช้บริการมาได้ 10 เดือนแล้ว โดยจะครบรอบ 1 ปี ในวันที่ 25 ต.ค.56 นี้   ซึ่งหลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบภายในตลาดหลักเมืองเมื่อช่วงเดือน เม.ย. 56 พบว่าตลาดแทบจะกลายเป็นตลาดร้างเนื่องจากห้องแถวทั้งด้านหน้าและด้านหลังรวม 31 ห้อง มีผู้เปิดค้าขายเพียง 6 ห้องเท่านั้น  ส่วนห้องแถวที่เหลือโดยรอบปิดเกือบทั้งหมด มีการประกาศประมูลของเทศบาลนครลำปาง และบางส่วนมีการประกาศขายและประกาศเซ้งของเจ้าของที่ซื้อไว้  จนกระทั่งปัจจุบันผู้ค้าในตลาดหลักเมืองรวมทั้งห้องแถวด้านหน้าได้ปิดตัวลงเรื่อยๆ บางรายได้ขอยกเลิกสัญญา โดยยอมเสียเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะที่จ่ายไป และบางรายก็ย้ายออกไปหาสถานที่ค้าขายใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถขายสินค้าได้ ขณะที่ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 1,000-2,000 บาท

นายอนุชา อุตไชยา พ่อค้าขายของชำในตลาด เปิดเผยว่า  บรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้รับความเดือดร้อนมาก หลังจากย้ายเข้ามาขายของในตลาดใหม่ เนื่องจากไม่มีลูกค้ามาซื้อของ ห้องน้ำตัน น้ำไม่ไหล ท่อตัน ตลาดมีกลิ่นเหม็นเน่าของสิ่งปฏิกูล  เวลามีฝนหรือลมแรงก็จะสาดเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับสินค้าที่มาจำหน่าย นกพิราบก็เริ่มทยอยมาหลบฝนในตลาด ที่จอดรถน้ำท่วมนอง ร้านค้าที่เป็นห้องโดยรอบตลาดโดยเฉพาะฝั่งศาลหลักเมืองปิดตัว เหลือร้านค้าเพียง 3 ห้องที่ยังเปิดขายอยู่ เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ก็ทำให้คนไม่เข้ามาจับจ่ายซื้อของในตลาด ตั้งแต่สร้างตลาดมายังไม่เคยเห็นหน้ากรรมการเลย

“ยอมรับว่าเราเสียค่าโง่ที่ทำสัญญาให้กับทางเทศบาลไป เนื่องจากขณะนั้นพ่อค้าแม่ค้ากลัวว่าจะไม่มีสถานที่ขายของ เพราะทางเทศบาลบอกว่าถ้าไม่ทำสัญญาก็จะตัดสิทธิ์ให้คนอื่นเข้ามาทำแทน จึงจำต้องเซ็นสัญญาไป แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าไปค้าขายแล้ว กลับขายไม่ได้มาก รายได้ลดน้อยลงเพราะไม่มีคนเข้าไปซื้อของในตลาด ซึ่งในส่วนของการทำสัญญาไปแล้วนั้น ถือว่าเราตัดสินใจทำเอง แต่อยากให้ทางเทศบาลเข้ามาพัฒนาตลาด ทำอย่างไรก็ได้ให้มีคนเข้ามาจับจ่ายซื้อของ ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าตลาดหลักเมือง จะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของ จ.ลำปาง แต่ตอนนี้จะเจ๊งกันหมดทั้งตลาดแล้ว” นายอนุชา กล่าว
ด้านแม่ค้าขายกาแฟ  เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท มีไม่มีก็ต้องหามาจ่าย ถ้าไม่จ่ายก็จะหาว่าผิดสัญญาและจะมาไล่เราออกไปอีก ความเดือดร้อนของแม่ค้าตอนนี้คือตลาดไม่ติด ในขณะที่แม่ค้าต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน คนขายก็เริ่มหายไปหมดแล้วตอนกลางวันมีเพียง 3-4 ร้าน

ตนเคยเสนอว่าให้บรรดาแม่ค้าผลไม้เข้ามาขายตรงฝั่งห้องโดยรอบอาคารที่ว่างอยู่ เพื่อจะได้มีสินค้าหลากหลายอาจเป็นจุดดึงคนเข้ามา แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ  ตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าประสบปัญหาเดือดร้อนในความเป็นอยู่ ยอดขายขาดทุนมาก อยากขอความเห็นใจกับนายกเทศมนตรี ให้ช่วยเหลือแม่ค้าเท่าที่จะช่วยได้ ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนมาใช้บริการให้ด้วย

“ทุกวันนี้พ่อค้าแม่ค้าต้องเป็นหนี้กว่าแสนบาท เพราะไปกู้เงินมาจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะ และยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ เงินต้นก็ยังไม่ได้จ่ายสักบาท แต่เมื่อเข้ามาขายของก็มีแต่ปัญหาเรื่องสาธารณูปโภค ลูกค้าเริ่มน้อยลง บางวันแทบไม่ได้ขายเลย แต่ต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน ในช่วงที่ขายในตลาดชั่วคราวยังขายได้มากกว่าอีก”

นางคณิต มากคันนา อายุ 49 ปี แม่ค้าร้านเครื่องดื่มและของใช้เบ็ดเตล็ด ในตลาดหลักเมือง เปิดเผยว่า ช้ำใจมากกับการเข้ามาค้าขายในตลาดหลักเมืองมาก ตนเองค้าขายมานานราว 20 ปี ตอนที่ถูกย้ายไปขายที่ศาลหลักเมืองก็มาขายดี พอย้ายเข้ามาในตลาดหลักเมืองใหม่ ตนมีอยู่ 2 ล๊อค รวมจะค่าแป๊ะเจียะ 47,000.-บาท ค่าเช่ารายเดือนอีก 2,400.-บาท ค่าประกันไฟไหม้ อีก 572 มี 2 ล๊อค ก็ต้องจ่าย ประกันไฟไหม้ 2 ต่อ แต่มีปัญหาตรงที่ขายของไม่ดี ไม่มีคนเข้ามา  ห้องน้ำมีกลิ่นเหม็นเน่า อุดตัน น้ำไม่ไหล ตรงบันได้ทางลาดขึ่นลงฝาผนังแตกร้าว น้ำนอง เวลาฝนตกก็รั่ว ฝนสาด สารพัดปัญหา ตอนนี้เป็นหนี้นอกระบบ ดูเถอะคนปล่อยเงินกู้พวกหมวกกันน๊อคเข้าออกตลาดหลักเมือง วันละหลายเจ้า ไม่รู้จะทำอย่างไร ดี นายกเทศมนตรีนครลำปางจะปล่อยให้แม่ค้าผจญชะตาชีวิตอย่างนี้ไป 2 ปีเลยหรือ มันไม่มีทางแก้ไขเลยหรือไง

นางวนิดา อายุ 59  ปี แม่ค้าเขียงเนื้อ เปิดเผยว่า ทุกวันนี้มาขายของเพราะเป็นอาชีพ  นอนหลับค่าเวลาไปจนกว่าจะกลับบ้าน รายได้แย่มาก อีกทั้งต้องทนกับกลิ่นเหม็น น้ำก็ไม่ไหล ต้องไปขอเข้าห้องน้ำที่อื่น ตามร้านค้าใกล้ๆ ไปขอความช่วยเหลือจากนายกเทศมนตรีนครลำปางเขาก็รับเรื่องไป แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มาก  ไม่เข้าใจทำไมทางเทศบาลนครลำปางกับกลุ่ม สท.ไม่คุยกันเอาปัญหาชาวบ้านเป็นหลัก จะรอให้พวกเราเผชิญความยากจนเป็นหนี้เป็นสินกู้เงินนอกระบบแบบนี้ไปอีก 2 ปีเลยหรือ

ด้านนายกิตติภูมิ นามวงค์  นายกเทศมนตรีนครลำปาง  กล่าวว่า ได้รับทราบปัญหาจากผู้ค้าขายในตลาดมาอย่างต่อเนื่อง และอยากจะช่วยเหลือที่สุด แต่เท่าที่ทราบกันว่าเทศบาลติดเงื่อนไขในสัญญากับทางบริษัทรับเหมา เพราะมีประกันอยู่ 2 ปี  เมื่อมีปัญหาก็ได้ทำหนังสือไปยังผู้รับเหมาแล้ว ผู้รับเหมาก็เข้ามาซ่อมแซมพอให้ดีขึ้น แต่ไม่นานก็มีปัญหาอีก เทศบาลก็ทำอะไรไม่ได้หากปรับปรุงอะไรในช่วง 2 ปี ทางเทศบาลเองจะมีความผิด เห็นใจบรรดาพ่อค้าแม่ค้ามาก  อดทนอีกหน่อยขณะนี้พยายามหาช่องทางในการเข้าช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าอยู่

ในส่วนของความผิดพลาดที่เกิดจากผู้รับเหมา ได้มีการทำหนังสือเตือนไป  ซึ่งส่วนที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมแก้ไขคือรางระบายน้ำ บ่อพักใต้ดิน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางบริษัทรับเหมาได้ส่งช่างมาประสานงานกับทางเทศบาลแล้ว   แต่ในส่วนความผิดพลาดที่เกิดจากเทศบาลก็ต้องยอมรับและหันกลับมาดูความผิดพลาดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบและการใช้วัสดุต่างๆ ในเรื่องท่ออุดตัน ไม่ระบายน้ำ ได้มอบหมายให้ฝ่ายสถาปัตย์สำนักการช่าง ออกแบบแปลนและประมาณการในรายละเอียดที่จะดำเนินการ   ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาวิเคราะห์ประมวลผลหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และรายงานมาให้ตนได้รับทราบ เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน   สำหรับอาคารพาณิชย์ 20 ห้องที่ยังว่างอยู่ เทศบาลได้เปิดประมูลไปแล้ว 4 ครั้ง แต่ไม่มีใครมายื่นประมูลแม้แต่รายเดียว แต่เรื่องนี้ยังไม่น่าหนักใจเท่าผู้ค้าภายในอาคารที่พยายามจะขอแจ้งยกเลิกสัญญา และบางส่วนก็เริ่มทยอยออกไปหาที่ค้าขายใหม่  ในเรื่องนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากจังหวัด แต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาผลประโยชน์จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณา  ส่วนแผงที่ยังว่างอยู่จำนวน 32 แผงที่ยังไม่มีเจ้าของ ก็จะต้องรอคณะกรรมการชุดนี้เข้ามาดำเนินการหาแนวทาง นายกเทศมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานว่า ทางกลุ่มผู้ค้าในตลาดหลักเมือง เตรียมเข้าชื่อกันเพื่อยื่นร้องเรียนไปยังดีเอสไอ เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเข้าค้าขายในตลาดดังกล่าว 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์