วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รพ.ลำปาง โชว์โปรแกรมไทยรีเฟอร์ ส่งต้อผู้ป่วยไร้รอยต่อ


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.56 ที่โรงพยาบาลลำปาง จ.ลำปาง นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ณรงค์  สหเมธาพัฒน์  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ประชุมคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สัญจร) ครั้งที่ 11/2556  เพื่อพัฒนาระบบการดูแลผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยหนักให้มีชีวิตรอดปลอดภัยมากที่สุด และตรวจเยี่ยมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลลำปางและหน่วยกู้ภัยท่าผา อ.เกาะคา จ.ลำปาง

นพ.ประดิษฐ  กล่าวว่า  รัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีสุขภาพดี ได้เร่งรัดพัฒนาให้สถานพยาบาลทุกแห่งมีมาตรฐานการรักษา เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการสุขภาพด้วยความเสมอภาคและทั่วถึง โดยเฉพาะกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน มีระบบการแพทย์ออกปฏิบัติการกู้ชีพถึงที่เกิดเหตุ  เพื่อช่วยชีวิตให้รอดปลอดภัยและนำส่งรักษาในโรงพยาบาล หรือในกรณีป่วยหนักเกินขีดความสามารถของสถานพยาบาล จะมีระบบการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า และระบบส่งผู้ป่วยกลับไปสถานพยาบาลต้นทางเพื่อดูแลฟื้นฟูสมรรถภาพต่อเนื่อง จากการประเมินผลระบบการแพทย์ฉุกเฉินในปี 2555 ทีมกู้ชีพออกปฏิบัติการ 1.2 ล้านกว่าครั้ง เฉลี่ยนาทีละ 2 ครั้ง

รมว.สาธารณสุข  กล่าวต่อว่า  ที่ผ่านมาการรับส่งต่อผู้ป่วยมีปัญหาหลายประการ เช่น การสื่อสารทางโทรศัพท์ไม่สะดวก สายไม่ว่าง ไม่มีผู้รับสาย ใบส่งต่อผู้ป่วยข้อมูลไม่สมบูรณ์ ขาดผลวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เช่น ผลเลือด ฟิล์มเอกซเรย์หรือภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทำให้แพทย์ต้องแล็ปซ้ำใหม่ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เร่งพัฒนาระบบการส่งต่อผู้ป่วยให้มีมาตรฐาน คล่องตัว โดยที่โรงพยาบาลลำปาง ได้พัฒนาโปรแกรมการส่งต่อผู้ป่วยที่เคยใช้ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จนประสบผลสำเร็จ ใช้ได้ผลดี คือ โปรแกรมไทยรีเฟอร์ (Thai  Refer)ซึ่งเป็นมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วยของประเทศไทยโดยเฉพาะ ขยายผลใช้ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ศึกษาธิการ กลาโหมและภาคเอกชนแล้ว 52 จังหวัด และขยายผลใช้ทั่วประเทศในปี 2556 นี้ เพื่อให้เป็นระบบมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศและเชื่อมงานดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนแบบไม่มีรอยต่ออีกต่อไป
ด้าน นพ.ทรงวุฒิ ทรัพย์ทวีสิน  ผอ.โรงพยาบาลลำปาง  กล่าวว่า  ปัจจุบันมีสถานพยาบาลใช้โปรแกรมไทยรีเฟอร์ จำนวน 726  แห่ง  ใน  52  จังหวัด  จุดเด่นโปรแกรมไทยรีเฟอร์มี  3  ประการคือ  ใช้งานได้ง่าย ลดการทำงานซ้ำซ้อน มีระบบเฝ้าระวัง ระบบความปลอดภัยป้องกันความผิดพลาดตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อมต่อระหว่างห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลต้นทาง-ปลายทาง โดยใช้ระบบการส่งต่อข้อมูล ประวัติ ผลแล็ปต่าง ๆ เช่น เลือด เอ็กซเรย์ และภาพผู้ป่วยผ่านคอมพิวเตอร์ออนไลน์และระบบโทรศัพท์สมาร์ทโฟน  ไอแพ็ด  ข้อมูลประวัติการรักษาจากต้นทางและภาพผู้ป่วยจะปรากฏที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลปลายทาง และมีระบบดาวเทียมติดตามเช็คพิกัดรถพยาบาลนำส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเตรียมพร้อมการรักษาและสามารถสั่งการรักษาเพิ่มเติมได้ทันที ทำให้ช่วยชีวิตผู้ป่วยได้รวดเร็ว ลดอัตราการเสียชีวิต และลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนของโรงพยาบาล คือไม่ต้องตรวจแล็ปซ้ำอีก


และในอนาคตอาจจะมีการขยายไปในส่วนของเจ้าหน้าทีกู้ชีพ หรือกู้ภัยของท้องถิ่นต่างๆ  แต่จะต้องมีงบประมาณในการติดตั้ง ในส่วนของซอฟแวร์   โรงพยาบาลมีให้ฟรี แต่รถกู้ภัยจะต้องเตรียมอุปกรณ์ในส่วนนี้ เพื่อเชื่อมโยงสัญญาณได้ ทางกู้ภัยก็คงต้องขอรับการสนับสนุนจากท้องถิ่นมาดำเนินการ และที่สำคัญคือต้องมีระบบอินเตอร์เน็ตที่นำมาใช้เชื่อมต่อข้อมูลกัน  ผอ.รพ.ลำปาง กล่าว
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์