สาวใหญ่ยึดอาชีพหมอนวดแผนโบราณ
ตายปริศนาในบ้านพัก คาดโรคประจำตัวกำเริบ อาศัยเพียงลำพังไม่มีใครช่วยเหลือ
เพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นแต่ไม่เอะใจ จนเวลาผ่านไปนานร่วมเดือนจึงมาพบศพ
เมื่อเวลา
09.40น.วันที่ 28 ส.ค.56 ร.ต.อ.วีเชียร ใจสันกาลง ร้องเวร สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งมีคนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ
ภายในบ้านเลขที่ 119/197 ชุมชนการเคหะโครงการ 1 ซอย 3 ถนนลำปาง-แม่ทะ อ.เมือง
จ.ลำปาง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ยงยุทธ ดาวรี พงส.ผทค. สภ.เมือง แพทย์เวรโรง รพ.ลำปาง
และอาสาสมัครกู้ภัยเทศบาลนครลำปาง
ที่เกิดเหตุ
เป็นบ้านคล้ายห้องแถวชั้นเดียว ประตูรั้วหน้าบ้านปิดล็อกกุญแจไว้อย่างดี เจ้าหน้าที่จึงให้
ตำรวจบ้านใช้ครีมตัดออก
เมื่อถึงประด้านในยังพบว่าเจ้าของบ้านปิดลงกลอนไว้ด้านในอีกชั้นหนึ่งจึงงัดออก
แต่พอประตูเปิดออกทั้งเจ้าหน้าที่และแพทย์รวมทั้งชาวบ้านก็แทบจะผงะหงายหลัง เพราะกลิ่นเหม็นเน่าจากซากศพประทะเข้าอย่างเต็มๆ
เจ้าหน้าที่ต้องใช่วิธีนำธูปกำใหญ่มาจุดเพื่อกลบกลิ่มแล้วเข้าไปตรวจสอบ พบว่าบนฟูกที่ปูอยู่บนพื้นปูนมีร่างของนางอารีรัตน์
สมัครสโมสร อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านนอนตายอยู่ในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า คาดว่าเสียชีวิตมานานเนื่องจากสภาพของศพเริ่มยุบตัวและมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด
เมื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบว่ามีทรัพย์สินมีค่าเพียง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ
ฮ้อนด้าเวฟ สีดำ สภาพใหม่ ทะเบียน ขพท. 339 ลำปาง ที่จอดอยู่หน้าประต้องห้อง กับพัดลม
1 ตัว เท่านั้น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบซองยาหลายชนิดวางเรี่ยราดกระจัด กระจายอยู่บริเวณปลายเท้าของผู้ตาย
เบื้องต้นทางแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิต มานานประมาณ 1
เดือนแล้ว
จากนั้นจึงนำศพส่งผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลลำปางเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้งหนึ่ง
จากการสอบถามนายกิตติพงษ์
หมื่นชุ่ม อายุ 20 ปี ทำงานเป็นพนังงานประจำร้านอาหารอยู่ในซอยคำหวาน
ตัวเมืองลำปาง ซึ่งมาเช่าบ้านอยู่ติดกับบ้านของผู้ตายทราบว่า รู้จักกับนางอารีรัตน์
มานานแล้วโดยทราบว่าผู้ตายมีอาชีพนวดแผนโบราณตามบ้านและสำนักงานทั่วไป และตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเพื่อนบ้านในละแวกนั้นก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพอยู่ตลอดเวลา
แต่ทุกคนก็คิดว่าเป็นกลิ่นเน่าเหม็นของสัตว์ที่ลอยมาตามลมเป็นพักๆ
และไม่คิดจะเป็นกลิ่นศพที่ลอยออกมาจากบ้านพักของนางอารัรรัตน์
เนื่องจากทุกคนคิดว่าผู้ตายคงจะกลับไปเยี่ยมญาติที่บ้านใน จ.ตาก
จนมาวันนี้กลิ่นเหม็นเน่ากับรุนแรงกว่าทุกครั้ง จึงพากันออกเดินสำรวจก็พบว่ากลิ่นเหม็นมาจากในบ้านของนางอารีรัตน์
อย่างแน่นอนจึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบก็พบว่าเจ้าของบ้านเสียชีวินมานานนับเดือนแล้วโดยที่ไม่มีใครทราบเรื่อง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายอาจมีโรคประจำตัวอยู่
ขณะที่อยู่คนเดียวโรคเกิดกำเริบขึ้นมากะทันหันและไม่มีคนช่วยจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา