วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รมว.ตรวจรถไฟ สั่งเปลี่ยนไม้หมอน

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว)
ชัชชาติขึ้นเหนือตรวจรางรถไฟ สั่งการให้ซ่อมแซมหมอนไม้ ในส่วนที่เสียหาย เพื่อใช้การชั่วคราว ก่อนปรับปรุงครั้งใหญ่เปลี่ยนหมอนรองเป็นคอนกรีต รางรถไฟจาก 80 ปอนด์ เป็น 100 ปอนด์ ระยะทาง 120 กม.  คาดเดือน พ.ค.57 เสร็จสมบูรณ์

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.56  เวลา 17.00  น.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มายังสถานีรถไฟขุนตาน  ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน  เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากอุบัติเหตุรถไฟตกรางซ้ำซาก ที่บริเวณรางรถไฟ เขตบ้านแม่ตาลน้อย-ขุนตาน ต.แม่ตาลน้อย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถไฟตกรางอีกครั้งระหว่างสถานีแม่ตาลน้อย-ขุนตาน บ้านปางปง ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง กม.ที่ 675/12-13 ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องลงมาดูด้วยตัวเอง หลังเดินทางมาถึง นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ รฟท. พร้อมคณะรอให้การต้อนรับและนำเข้าห้องประชุม เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากนายสุประภาพ เสนีย์วงค์ ณ อยุธยา ผอ.ฝ่ายการช่างโยธา รฟท. โดยใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นคณะทั้งหมดจึงเดินทางด้วยรถบำรุงทางจากสถานีขุนตาล ไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่วงทางโค้งคดเคียวไปมา เมื่อถึงจุดเกิดเหตุจึงลงจากรถแล้วเดินสำรวจหมอนไม้และรางรถไฟเป็นระยะทางกว่า 700 เมตร ซึ่งตลอดการเดินสำรวจนายชัชชาติ รมว.คมนาคม ได้ให้ความสนใจ และคอยสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลจากนายประภัสร์ จงสงวน และคณะวิศวกรอยู่ตลอดเวลา

นายชัชชาติ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การเดินทางมาตรวจสอบรางรถไฟในครั้งนี้ เนื่องจากได้รับรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงอุบัติเหตุที่มีรถไฟตกรางอยู่เป็นประจำ และทุกครั้งที่มีรถไฟตกรางก็มักจะอยู่ในจุดหรือบริเวณเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ ตนจึงได้มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็พบว่าทั้งรางรถไฟและหมอนไม้รุ่นเก่าอยู่และรางก็ยังเป็นรางที่มีขนาด 80 ปอน ซึ่งเราก็มีโครงการจะเปลี่ยนหมอนไม้ที่เหลืออยู่ทั้งหมด และที่ผ่านมาเราก็มีการปรับเปลี่ยนหมอนรองไปแล้วประมาณ 90 ก.ม.โดยปรับเปลี่ยนเป็นหมอนรองคอนกรีต ก็ยังคงเหลือระยะทางอีกราว 180 ก.ม.ที่ยังคงเป็นหมอนไม้อยู่ก็จะเร่งเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ส่วนรางรถไฟที่จากเดิมเป็นรางขนาด 80 ปอนด์ เราก็จะเปลี่ยนให้เป็นรางขนาด 100 ปอนด์แทนโดยจะทำไล่ไปเรื่อยๆ คิดว่าในเดือนพฤษภาคม 2557 จะแล้วเสร็จทั้งหมด

และในจุดที่เกิดเหตุเป็นประจำนี้ เป็นจุดที่เส้นทางมีความโค้งมากถึง 5 โค้งด้วยกัน ก่อนที่จะเข้าสถานีรถไฟขุนตาน เป็นจุดที่มีความลาดชันสูง ฉะนั้นจึงมีหลายสาเหตุที่ทำให้รถไฟตกราง สาเหตุหนึ่งก็คือรางอาจมีการยุบตัวเนื่องจากฝนตกดินอ่อนยุ่ย บวกกับสภาพของไม้หมอนที่ที่มีความเสื่อมโทรม อีกสาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะสภาพรถก็น่าจะมีผล เพราะมีการกดเบรคมาตลอด หาก พขร. ถ้าไม่คุ้นทางการกดเบรกมากรถก็ต้องกระแทกมากก็ขาดการเสถียรได้ ส่วนการแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้มอบหมายให้วิศวกรฝ่ายโยธา จากส่วนกลางให้ลงมากำกับดูแลพื้นที่นี้ดูแลการซ่อมทั้งหมด และให้วิศวกรฝ่ายเครื่องกล ก็ให้ลงมาคอยกำกับดูแลการซ่อมบำรุงรถให้ดีและซ่อมให้เสร็จโดยเร็ว อย่างน้อยก็ให้มีความปลอกภัย หรือให้รถไฟวิ่งเบาทางลงให้เหลือ 20 ก.ม.ต่อชั่วโมง เพราะการชะลอความเร็วลงความเสี่ยงก็น้อยลง ส่วนการซ่อมทางก็ให้รีบเร่งทำให้เร็วที่สุด ในส่วนการเปลี่ยนหมอนเป็นคอนกรีตอย่างน้องก็ต้องใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ จากนั้นก็น่าจะปลอดภัย

รมว.คมนาคม กล่าวอีกว่า  อีกแนวทางหนึ่งที่คิดไว้คือการเปลี่ยนหมอนและรางฯเราอาจจะมีการปิดทางชั่วคราวประมาณ 10-15 วันต่อครั้ง แต่ก็ต้องดูก่อนว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน เพราะต้องให้วิศวกรใหญ่ทั้งฝ่ายซ่อม ฝ่ายเครื่องกล และฝ่ายเดินรถมาคุยกันก่อน โดยเฉพาะในอุโมงค์ที่มีอยู่หลายหลายแห่งก็ต้องเร่งซ่อมแซม เพราะในเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงไฮซีซั่น จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันมาก
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์