(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว) |
ชัชชาติขึ้นเหนือตรวจรางรถไฟ สั่งการให้ซ่อมแซมหมอนไม้
ในส่วนที่เสียหาย เพื่อใช้การชั่วคราว ก่อนปรับปรุงครั้งใหญ่เปลี่ยนหมอนรองเป็นคอนกรีต
รางรถไฟจาก 80 ปอนด์ เป็น 100 ปอนด์ ระยะทาง 120 กม. คาดเดือน พ.ค.57 เสร็จสมบูรณ์
เมื่อวันที่ 24 ส.ค.56
เวลา 17.00 น.นายชัชชาติ
สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มายังสถานีรถไฟขุนตาน
ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน
เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากอุบัติเหตุรถไฟตกรางซ้ำซาก ที่บริเวณรางรถไฟ
เขตบ้านแม่ตาลน้อย-ขุนตาน ต.แม่ตาลน้อย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 23
ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถไฟตกรางอีกครั้งระหว่างสถานีแม่ตาลน้อย-ขุนตาน บ้านปางปง
ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง กม.ที่ 675/12-13
ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องลงมาดูด้วยตัวเอง หลังเดินทางมาถึง
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ รฟท. พร้อมคณะรอให้การต้อนรับและนำเข้าห้องประชุม
เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากนายสุประภาพ เสนีย์วงค์ ณ อยุธยา ผอ.ฝ่ายการช่างโยธา
รฟท. โดยใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้นคณะทั้งหมดจึงเดินทางด้วยรถบำรุงทางจากสถานีขุนตาล
ไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่วงทางโค้งคดเคียวไปมา
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุจึงลงจากรถแล้วเดินสำรวจหมอนไม้และรางรถไฟเป็นระยะทางกว่า 700
เมตร ซึ่งตลอดการเดินสำรวจนายชัชชาติ รมว.คมนาคม ได้ให้ความสนใจ
และคอยสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลจากนายประภัสร์ จงสงวน และคณะวิศวกรอยู่ตลอดเวลา
นายชัชชาติ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า
การเดินทางมาตรวจสอบรางรถไฟในครั้งนี้
เนื่องจากได้รับรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงอุบัติเหตุที่มีรถไฟตกรางอยู่เป็นประจำ
และทุกครั้งที่มีรถไฟตกรางก็มักจะอยู่ในจุดหรือบริเวณเดียวกันเป็นส่วนใหญ่
ตนจึงได้มาตรวจสอบข้อเท็จจริง
ก็พบว่าทั้งรางรถไฟและหมอนไม้รุ่นเก่าอยู่และรางก็ยังเป็นรางที่มีขนาด 80 ปอน
ซึ่งเราก็มีโครงการจะเปลี่ยนหมอนไม้ที่เหลืออยู่ทั้งหมด
และที่ผ่านมาเราก็มีการปรับเปลี่ยนหมอนรองไปแล้วประมาณ 90
ก.ม.โดยปรับเปลี่ยนเป็นหมอนรองคอนกรีต ก็ยังคงเหลือระยะทางอีกราว 180
ก.ม.ที่ยังคงเป็นหมอนไม้อยู่ก็จะเร่งเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
ส่วนรางรถไฟที่จากเดิมเป็นรางขนาด 80 ปอนด์ เราก็จะเปลี่ยนให้เป็นรางขนาด 100
ปอนด์แทนโดยจะทำไล่ไปเรื่อยๆ คิดว่าในเดือนพฤษภาคม 2557 จะแล้วเสร็จทั้งหมด
และในจุดที่เกิดเหตุเป็นประจำนี้
เป็นจุดที่เส้นทางมีความโค้งมากถึง 5 โค้งด้วยกัน ก่อนที่จะเข้าสถานีรถไฟขุนตาน
เป็นจุดที่มีความลาดชันสูง ฉะนั้นจึงมีหลายสาเหตุที่ทำให้รถไฟตกราง สาเหตุหนึ่งก็คือรางอาจมีการยุบตัวเนื่องจากฝนตกดินอ่อนยุ่ย
บวกกับสภาพของไม้หมอนที่ที่มีความเสื่อมโทรม
อีกสาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะสภาพรถก็น่าจะมีผล เพราะมีการกดเบรคมาตลอด หาก พขร.
ถ้าไม่คุ้นทางการกดเบรกมากรถก็ต้องกระแทกมากก็ขาดการเสถียรได้
ส่วนการแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้มอบหมายให้วิศวกรฝ่ายโยธา
จากส่วนกลางให้ลงมากำกับดูแลพื้นที่นี้ดูแลการซ่อมทั้งหมด
และให้วิศวกรฝ่ายเครื่องกล
ก็ให้ลงมาคอยกำกับดูแลการซ่อมบำรุงรถให้ดีและซ่อมให้เสร็จโดยเร็ว
อย่างน้อยก็ให้มีความปลอกภัย หรือให้รถไฟวิ่งเบาทางลงให้เหลือ 20 ก.ม.ต่อชั่วโมง เพราะการชะลอความเร็วลงความเสี่ยงก็น้อยลง
ส่วนการซ่อมทางก็ให้รีบเร่งทำให้เร็วที่สุด
ในส่วนการเปลี่ยนหมอนเป็นคอนกรีตอย่างน้องก็ต้องใช้เวลาประมาณ 2
เดือนจึงจะแล้วเสร็จ จากนั้นก็น่าจะปลอดภัย
รมว.คมนาคม กล่าวอีกว่า
อีกแนวทางหนึ่งที่คิดไว้คือการเปลี่ยนหมอนและรางฯเราอาจจะมีการปิดทางชั่วคราวประมาณ
10-15 วันต่อครั้ง แต่ก็ต้องดูก่อนว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน
เพราะต้องให้วิศวกรใหญ่ทั้งฝ่ายซ่อม ฝ่ายเครื่องกล และฝ่ายเดินรถมาคุยกันก่อน
โดยเฉพาะในอุโมงค์ที่มีอยู่หลายหลายแห่งก็ต้องเร่งซ่อมแซม
เพราะในเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงไฮซีซั่น จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันมาก