วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

ทิ้งทวน 'ธวัชชัย' ฝันลำปางศูนย์เหนือ ผู้ว่าฯธานินท์สานต่อ



สั่งลาผู้ว่าฯ”ธวัชชัย” มั่นใจ ลำปางกลับมาเป็นศูนย์กลางภาคเหนือได้เช่นในอดีต ฝากคนลำปางเปิดใจให้กว้างรับการเปลี่ยนแปลง เดินหน้ามิวเซียมลำปาง สร้างศูนย์สิรินธร ปรับภูมิทัศน์พระอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร แก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ

หลังจากที่นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 27 เม.ย.55  ได้สร้างผลงานจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การผลักดันให้ จ.ลำปาง จัดตั้งศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติของภาคเหนือ  ผลักดันให้มีการก่อสร้างสนามกีฬากลางจังหวัดลำปางแห่งใหม่ ดำเนินงานโครงการมิวเซียมลำปาง  รวมทั้งผลักดันให้ จ.ลำปางเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์ทางบกของภาคเหนือ  เป็นต้น   ซึ่งในวันที่ 30 ก.ย.56 นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย  จะเกษียณอายุราชการ โดยมีนายธานินท์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เข้ามารับตำแหน่งแทน ในวันที่ 1 ต.ค.56 

ลานนาโพสต์จึงได้สอบถามถึงผลงานที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางภาคภูมิใจ นายธวัชชัย  เปิดเผยว่า  ระยะเวลา 1 ปี 5 เดือนที่ได้ทำงานเพื่อคนลำปางจนบรรลุผลสำเร็จ รวมทั้งมีภารกิจที่ยังไม่แล้วเสร็จที่คนลำปางเองจะต้องสานต่อให้สำเร็จ  ในหลายเรื่องที่ได้ดำเนินการไว้ คือ การผลักดันให้ใช้พื้นที่ราชพัสดุ ในพื้นที่ ต.ศาลา อ.เกาะคา กว่า 26 ไร่ เพื่อใช้ก่อสร้างศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพการแพทย์แห่งชาติจังหวัดลำปาง  งบประมาณ 360 ล้านบาท ให้คนพิการและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  รวมทั้งการก่อสร้งสนามกีฬาจังหวัดลำปาง งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท บริเวณด้านหลัง อบจ.ลำปาง สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่เพิ่มเติมรวมกว่า 200 ไร่  โดยจะเริ่มทำสัญญาในปลายปี 2556  นอกจากนั้นยังมีการผลักดันให้จังหวัดลำปางเป็นศูนย์กลางระบบการขนส่งทางบกของภาคเหนือ หรือโลจิสติกส์  โดยมีพื้นที่ราชพัสดุรองรับไว้ 440 ไร่ ในเขต อ.เกาะคา และอีกกว่า 340 ไร่ ในพื้นที่ บ้านป่าเหียง ต.ลำปางหลวง เพื่อรองรับการทำ Container Yard  และได้เสนอให้ ปตท.จัดตั้งสถานีบริการน้ำมันและก๊าซแบบครบวงจร และใหญ่ที่สุดในภาคเหนือเนื้อที่ 40 ไร่ สนับสนุนภาคพลังงานในพื้นที่  รวมทั้งได้วางระบบน้ำประปา และระบบขนส่งไว้แล้ว  ซึ่งขณะนี้จังหวัดลำปาง ได้ประกาศศักยภาพแล้วว่าพร้อมที่จะเป็นจุดศูนย์กลางกระจายสินค้า การลงทุน ได้อนาคต  ในส่วนของโครงการมิวเซียมลำปาง สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้  ได้รับเป็นเจ้าภาพหลักโดยใช้งบกว่า 100 ล้านบาท โดยมอบให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประสานงานอย่างใกล้ชิด

นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่ได้ปูทางไว้อีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร อ.เกาะคา  การแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรราคาตกต่ำ แก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในปี 2556  ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะการใช้ภาษาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว  ซึ่งงานต่างๆที่ได้ทำมาเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจที่ได้ทำให้กับจังหวัดลำปาง  ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าว

เมื่อสอบถามว่าเป็นห่วงเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า “ คงไม่ห่วงอะไร  ผมได้ทำตามหน้าที่ของผมหมดแล้ว สิ่งที่ทำไปต่างๆก็มีการตั้งงบประมาณไว้แล้ว  ส่วนสิ่งที่จะทำต่อไปในอนาคตก็คงต้องให้ผู้ว่าราชการคนใหม่เข้ามาดำเนินการ  ต้องแล้วแต่ท่านจะพิจารณาเอง  งานทุกอย่างที่ตั้งไว้ก็จะเดินไปได้อย่างอัตโนมัติ เช่นเรื่องศาลหลักเมือง ทางนายกเทศมนตรีนครลำปางก็เป็นผู้ดูแลอยู่  เรื่องโลจิสติกส์ หากระบบโลจิสติกส์ไปได้ดีแล้ว Container Yard ที่รองรับระบบรถไฟก็จะตามมา คนลำปางก็ต้องคอยติดตามดูว่าเรื่องต่างๆมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง เพื่อกระตุ้นให้งานเดินหน้าต่อไป   นอกจากนั้นผมได้ทำหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดท่านใหม่แล้วว่า สิ่งที่ผมได้ดำเนินการไปมีอะไรบ้าง และสิ่งที่อยากจะทำในอนาคตคืออะไร  แต่คงจะไประบุให้ท่านทำคงไม่ได้ แล้วแต่การพิจารณาของแต่ละคน เพราะมีมุมมองไม่เหมือนกัน”

ท่านคิดว่าลบคำสบประมาทที่ว่าผู้ว่าฯมารอเกษียณได้หรือไม่   นายธวัชชัย กล่าวว่า มาลำปางสิ่งที่เขาไม่ชอบอยู่ 2 คำ คือ 5 ปี 8 ผู้ว่าฯ  และเอาผู้ว่าฯรอเกษียณมาทำไม เมื่อได้ฟังก็รู้สึกช้ำใจเช่นกันเพราะไม่สามารถเลือกได้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน  

“ประวัติชีวิตการทำงานของผม อยู่ที่ไหนก็เป็นคนทำงาน เติบโตมาด้วยการทำงาน ไม่ได้เติบโตมาด้วยการเข้าหาผู้ใหญ่  มาลำปางยังเสียดายที่ทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีเวลาน้อย และต้องใช้เวลาศึกษาในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน  เพราะใน 6 เดือนแรกต้องศึกษาข้อมูลก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าลำปางเป็นอย่างไรบ้าง จากนั้นจึงจัดระบบการทำงานก่อนว่าบ้านเมืองลำปางต้องปรับอย่างไรบ้าง เมื่อรู้ข้อมูลก็จะกำหนดทิศทางไปได้  และตอนนี้เรามาถูกทาง สามารถเดินไปในทางที่เป็นตัวเราเองได้ ถึงผมจะเกษียณแต่ก็ทำงานได้มากกว่าคนอื่น และมีผลงานให้เห็นชัดเจน”

ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวและว่า  คนลำปางต้องพัฒนาความคิด คนลำปางมีความรู้เยอะ ชอบคิดและที่สำคัญคือคิดแล้วต้องทำและทำร่วมกัน  การที่จะพัฒนาเมืองต้องไม่โลภ จะมีคนบางประเภทเมื่อรู้ว่าบ้านเมืองจะขยายไปที่ไหนก็จะไปซื้อที่ดินไว้ขายเก็งกำไร ทำให้คนที่มาลงทุนก็ไม่กล้าเข้ามา การที่จะพัฒนาจังหวัดต้องเปิดกว้าง ลำปางสามารถเป็นศูนย์กลางภาคเหนือได้ แต่ไม่ต้องคิดว่าเราจะเป็นเหมือนเชียงใหม่  เพราะจุดเด่นแต่ละแห่งนั้นไม่เหมือนกัน  ควรคิดว่าอะไรที่ตัวเราสามารถเป็นไปได้ เช่น การเป็นศูนย์กลางในเรื่องของการคมนาคม การเป็นศูนย์กลางพลังงาน และอุตสาหกรรมสะอาด  เมื่อทำได้ใน 3 สิ่งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเข้ามาเองโดยอัตโนมัติ  ผมเชื่อว่าลำปางสามารถกลับคืนมาเป็นจุดเด่นได้เหมือนในอดีต   และฝากถึงคนลำปางด้วยว่าให้คนลำปางรักกัน ช่วยกันสนับสนุนคนดี บ้านเมืองจะพัฒนาก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง คนลำปางจะต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆด้วย


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 945 วันที่ 27 กันยากัน - 3 ตุลตาคม 2556)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์