วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

ยอดหญิงตัวจริง


ในเวลาไม่ห่างกันมากนัก สังคมก็ได้มีโอกาสชื่นชม ยินดีกับความสำเร็จของผู้หญิงไทย อย่างน้อย 1 คน และ 1 กลุ่มใหญ่ ลดทอนบรรยากาศความตึงเครียดของบ้านเมือง ยุคแบ่งขั้ว ฆ่ามัน ลงไปบ้าง ล่าสุดคือชัยชนะของทีมวอลเลย์บอล ที่ตบเอาชนะญี่ปุ่นไปได้ ด้วยชัยชนะขาวสะอาด คว้าแชมป์วอลเลย์บอลหญิงเอเชีย 2013 หลังจากน้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ โค่นมือวางอันดับ 1 หลี ซัง ฮุย ขึ้นแท่นแชมป์แบดมินตันโลก ไปได้อย่างสมศักดิ์ศรี ปลุกพลังรักชาติของคนไทยขึ้นมาอีกครั้ง

ต้องยอมรับว่า ทั้งกีฬาแบดมินตัน และวอลเลย์บอล ไม่ใช่กีฬายอดนิยมที่คนส่วนใหญ่สนใจ ติดตาม โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกีฬาชกมวย ฟุตบอล เทนนิส ความยินดีและโอกาสในการเข้าถึงเรื่องราวของกีฬาเหล่านี้มักจะมาพร้อมกับชัยชนะหนึ่งครั้ง ความพ่ายแพ้นับสิบ นับร้อยครั้งกว่าที่เธอเหล่านั้น จะฝ่าฟันมาได้ ไม่มีใครพูดถึง และเมื่อมองไปในอนาคต ไม่นานกระแสนี้ก็จะตกไป กลุ่มคนที่ยังได้ประโยชน์คือสปอนเซอร์หลักสิงห์ ในกรณีของน้องเมย์ และช้างในกรณีของสาวทีมวอลเลย์ ก็ยังได้ทำมาหากิน คืนทุนจากการสนับสนุนไปอีกในระยะยาว

นอกจากรายการกีฬา บันเทิงทางทีวี หนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ ที่จะฉกฉวยความสำเร็จนี้ไปใช้หล่อเลี้ยงชีวิต จนกว่ากระแสจะค่อยๆตกไป

น้อยที่สุด ที่คนจะมองไปข้างหลัง เพื่ออธิบายปัจจุบัน หรือเพื่อเป็นบทเรียนในปัจจุบันว่า ความสำเร็จทั้งหลายนี้ไม่ได้มาอย่างง่ายดายเลย และนี่ก็เป็นบทเรียนของคนอื่นๆด้วย ที่ปรารถนาความสำเร็จของชีวิต แต่ปิดตาไม่ยอมรับรู้ว่าจำเป็นต้องเหนื่อยยาก ยาวนาน กว่าจะแลกความสำเร็จเพียงวันเดียว

กรณีน้องเมย์ เธอตีแบดมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ อดทนฝึกฝนมายาวนาน ถ้าเธอไม่ชนะ ก็คงไม่มีใครรู้จักโรงเรียนกีฬาแบดมินตันบ้านทองหยอด สถานที่บ่มเพาะสาวน้อย จากคนที่ไม่มีใครรู้จัก มาเป็นสาวน้อยที่ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เช่นเดียวกับ วรรณา บัวแก้ว ปิยะนุช แป้นน้อย ทัดดาว นึกแจ้ง ปลื้มจิตร์ ถินขาว อรอุมา สิทธิรักษ์ วิลาวัลย์ อภิญญาพงศ์ อำพร หญ้าผา ฐาปไพพรรณ ไชยศรี นุศรา ต้อมคำ มลิกา กันทอง พรพรรณ เกิดปราชญ์ และอัจฉราพร คงยศ ซึ่งประกอบขึ้นเป็นทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย พวกเธอล้วนเป็นลูกชาวบ้านมาจากต่างจังหวัด ไม่เคยปรากฎชื่อเสียงเรียงนามในสังคมมาก่อน

ประการสำคัญ ทุกคนต่อสู้ ฝึกฝน อดทน เพื่อให้ได้มาในวันที่คนไทยทั้งประเทศยิ้มหัวด้วยความสุขนานเฉลี่ยอย่างน้อยเป็นสิบปี

กีฬาสอนคนให้รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และรู้จักให้อภัย ความพ่ายแพ้จะบอกให้เรารู้ว่า เรายังฝึกฝนไม่เพียงพอ เรายังแกร่งไม่พอ ฉะนั้นจึงต้องฝึกปรือฝีมือด้วยความมุ่งมั่นไม่ท้อถอย ทั้งกีฬาแบดมินตัน และวอลเลย์บอล คล้ายกับเป็นสิ่งที่งอกออกมาจากคนสายพันธุ์ผิวขาว ตระกูลหมวย เพราะแข่งคราวใดทีมเหล่านี้ยืนแป้นรอชัยชนะอยู่ทุกคราว แต่ชัยชนะสองครั้งของสาวไทย กำลังทำให้ทัศนคตินี้เปลี่ยนไป แต่ในทางตรงกันข้าม ชัยชนะก็ไม่ควรทำให้เราฮึกเหิม ลำพองใจ หากยังต้องฝึกปรือฝีมือ ฝึกฝนความอดทนต่อไป เพราะการรักษาแชมป์นั้นย่อมยากกว่าการชิงชัยหลายเท่า

ร่วมยินดีในชัยชนะของสาวไทย แต่อย่ายึดติดในชัยชนะ จนลืมไปว่าทุกชีวิตย่อมมีวันที่พ่ายแพ้   



 (คม-คิด แร็คลานนา ฉบับที่ 944 วันที่ 20-26 กันยากัน 2556)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์