วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

มังกรสิ้นลาย


ถึงแม้นายบรรหาร ศิลปอาชา จะพยายามแสดงราคา กาวใจเชื่อมประสานรอยร้าวของทุกฝ่ายเพื่อเดินหน้าไปสู่กระบวนการปฎิรูปการเมือง แต่ดูเหมือนว่าทุกสิ่งอย่าง จะกลายเป็นปราสาททราย เมื่อเขาบากหน้าไปบ้านไหนก็ล้วนแต่ถูกเบือนหน้า นับจาก สนธิ ลิ้มทองกุล ที่บ้านพระอาทิตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประชาธิปัตย์ ที่ไล่ให้กลับไปยกเลิก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเสียก่อน เพราะทองไม่แท้แบบบรรหาร ศิลปอาชานั้น ผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมือง ไม่ดูหน้ายังรู้ใจ

หาก พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ยังอยู่ นายบรรหาร อาจจะแย่งซีนนี้ไม่ง่ายนัก เพราะภาพ พล.ต.สนั่น ดูจะเนียนกว่า และมุ่งมั่นมากกว่าในการเล่นบทบาทนี้

ตรงกันข้ามกับบรรหาร ศิลปอาชา ภาพของนักฉกฉวยโอกาสทางการเมือง และถ้อยคำประวัติศาสตร์ นับจากยุคพรรคชาติไทย

“..เป็นพรรคฝ่ายค้าน  อดหยากปากแห้ง
ยังไม่มีใครลืมเลือน

พรรคชาติไทย เป็นพรรคการเมืองเดียวที่เจ็บช้ำที่สุด จากปฏิบัติการตุลาการภิวัฒน์วันนี้  เนื่องเพราะผลคำวินิจฉัยยุบพรรค และตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ทำให้ ส.ส.เขตที่เป็นกรรมการบริหารพรรค สิ้นสภาพไปในทันที รวมทั้งนายบรรหาร ศิลปอาชา 19 คน คงเหลือ ส.ส.เพียง 15 คน นาทีนี้ก็ใกล้จะพ้นโทษแล้ว ซึ่งอาจจะมีการปรับขบวนทัพรัฐบาลปูอีกวาระหนึ่ง

หากย้อนดูเส้นทางการเมืองของมังกรแห่งลุ่มน้ำสุพรรณ คนนี้ นับว่าน่าสนใจ
บรรหาร กับพรรคชาติไทย กอดคอร่วมตายกันมานับจากที่บุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ ชักนำเขาเข้าสู่วงการ หลังการประกาศใช้ พ.ร.บ.พรรคการเมือง2517

กลุ่มนักการเมืองซอยราชครู ร่วมกับกลุ่มทุนอุตสาหกรรม ทุนท้องถิ่น ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มชาติไทย ซึ่งต่อมาได้จดทะเบียนเป็นพรรคชาติไทย และส่ง ส.ส.ลงเลือกตั้งในนามพรรคครั้งแรกเมื่อปี 2518 ได้รับเลือกตั้ง 28 คน จากนั้นก็เข้าเป็นรัฐบาลผสมในนามสหพรรค โดยมี พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี

นายบรรหาร เป็นเลขาธิการพรรคคนแรก และเป็นมายาวนาน ในขณะที่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเปลี่ยนไปถึง 3 คน คือ พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ รวมทั้ง พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ จนกระทั่งกลุ่มราชครูอ่อนแอ แตกกระสานซ่านเซ็นไปคนละทิศละทาง บรรหาร ก็เข้ายึดพรรคชาติไทยไว้ได้ ในเวลาที่พรรคชาติไทยได้รับการเลือกตั้งเป็นเสียงข้างมากในสภา แล้วเขาก็ใช้จังหวะชาติไทยขาขึ้น ก้าวกระโดดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเหลือเชื่อ

จากวันนั้นเป็นต้นมา บรรหาร ศิลปอาชา ก็พาพรรคชาติไทย โลดแล่นอยู่ในสถานะพรรครัฐบาลมาเกือบตลอดจนกระทั่งวันนี้ หากแต่ราคาความเชื่อถือในตัวเขาไม่ได้ผันแปรไปตามห้วงระยะเวลาที่อยู่บนถนนการเมือง

บรรหาร ศิลปอาชา เคยไต่บันไดฝันไปถึงจุดสูงสุดแล้ว และดูเหมือนเขาจะพยายามตะกายไปสู่จุดที่ทุกคนกล่าวขวัญถึงอีกครั้ง ด้วยการเสนอบทบาทผู้นำในการผลักดันขบวนการปฎิรูปการเมือง

แต่เรื่องที่คนกล่าวขวัญถึงกลับเป็น ข่าวคราวเมื่อผู้คนในโลกออนไลน์ต่างวิจารณ์ภาพถ่ายของ บรรหาร ศิลปอาชา  ถ่ายภาพโอบกอดหญิงสาวปริศนา หน้าตาน่ารักคนหนึ่ง จนถูกเต้าข่าวลือว่าเป็นเมียน้อยของบรรหาร แต่ภายหลังพบว่า หญิงสาวคนดังกล่าวคือ มะนาว ศรศิลป์ ดาราสังกัดช่อง 7 สี

มะนาว  ศรศิลป์ ออกมาโพสต์ชี้แจงลงในอินสตาแกรม ในเวลาต่อมา โดยระบุข้อความว่า หนูรู้จักกับคุณบรรหาร ศิลปอาชา มานานแล้ว เนื่องจากเป็นคนสุพรรณเหมือนกัน และหนูก็เคยช่วยงานของจังหวัด และได้ถ่ายรูปกะท่านไว้ ซึ่งตัวหนูเองก็ไม่ได้มีความคิดจะไปทำครอบครัวใครแตกแยก หรือทำเหมือนสิ่งที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เพราะมันมีผลกระทบต่อชื่อเสียง ครอบครัว การเรียน และงานของหนู หนูจึงขอชี้แจง

มะนาว ศรศิลป์ มณีวรรณ์ เป็นดารานักแสดงสังกัดช่อง 7 สี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี เข้าวงการบันเทิงจากการคว้าตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2008

บรรหารไม่เกิด กับบทบาทผู้นำในการสมานฉันท์ แต่กลับโด่งดังเรื่องมะนาว ที่ไร้สาระอย่างยิ่ง

 (ม้าสีหมอก ฉบับที่ 944 วันที่ 20-26 กันยากัน 2556)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์