ศาลอุทธรณ์ภาค
5 รับคดี กกต.ฟ้อง ส.อบจ.เขต 2 และ 4
สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ขณะที่ “ถาวร”ยันคะแนนไม่มีผลต่อลำดับของตนแต่ถูกพ่วงด้วย ข้องใจ
กกต.ไม่ฟ้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ทำงานผิดพลาด แต่กลับฟ้อง
ส.อบจ.ที่ไม่รู้เรื่องด้วย ขณะที่ กกต.ลำปางอ้างเป็นอำนาจ กกต.กลางในการพิจารณาทุกขั้นตอน
เมื่อวันที่
2 ต.ค.56 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่
รับคดีระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นร้อง นายอำนวย วรญาณกุล ส.อบจ.เขต 2 อ.เมืองลำปาง
และนายถาวร บุปผาเจริญ ส.อบจ.เขต 4 อ.เมืองลำปาง เข้าพิจารณา มีผลให้ทั้ง 2
คนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
-สจ.ติ
ร้อง กกต.อบจ.
คดีนี้
เกิดขึ้นหลังจากที่นายสุภาพ วงษ์ศา
ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง เขต 2 และอดีต ส.อบจ.ลำปาง
ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อวันที่
8 ก.ย.55 ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางได้กระทำอันเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คือ
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางได้ให้ประชาชนที่มีสิทธิในการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่
2 ให้ไปใช้สิทธิในเขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน479 ราย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน
และตนในฐานะผู้สมัครรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเขตเลือกตั้งที่
2 โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ค.56 คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาการร้องคัดค้านการเลือกตั้ง
ส.อบจ.ลำปาง เขต 2 โดยระบุว่า กกต.ได้พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด
และมีมติสั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ.ลำปาง อ.เมืองลำปาง เขต 2 และเขต 4 ใหม่ และ
กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อวินิจฉัยในกรณีดังกล่าวต่อไป
จึงมีการยื่นคำร้องกับ ส.อบจ.ทั้ง 2 เขตดังกล่าว
-สั่ง
2 สจ.ยุติหน้าที่
ทั้งนี้ สรุปตามคำฟ้องได้ว่า
จากสำนวนการสืบสวนสอบสวนเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.อบจ.เขต 2 และ
ส.อบจ.เขต 4 มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม มีผลทำให้นายอำนวย วรญาณกุล
และนายถาวร บุปผาเจริญ ได้รับการเลือกตั้ง
เมื่อสอบสวนตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2555 แล้ว พบข้อเท็จจริงว่า
ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรื่องการแบ่งเขตการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ลงวันที่ 18
ก.ค.55 กำหนดให้พื้นที่ ต.เวียงเหนือ ในเขตเทศบาลนครลำปาง เฉพาะหน่วยเลือกตั้งฝั่งตะวันออกของถนนรัษฎา อยู่ในเขตเลือกตั้งของ ส.อบจ.เขต 2 และพื้นที่ ต.วังเหนือ ในเขตเทศบาล
ฝั่งตะวันตกของถนนรัษฎา อยู่ในเขตเลือกตั้งของ ส.อบจ.เขต 4 จาการตรวจสอบประกาศ ผอ.กกต.
เรื่องบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด
เฉพาะหน่วยเลือกตั้งที่ 32 ต.เวียงเหนือ
อ.เมืองลำปาง มีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 479 คน
ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่งจากการสอบสวนพยาน 10 คน
ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกันว่าไม่ทราบว่าตนเองมีสิทธิเลือกตั้งในเขตใด
ก่อนเลือกตั้งได้รับหนังสือ สถ.10 แจ้งว่าให้ไปเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 32 ณ
ศูนย์บริการสาธารณสุข ชั้น 2
บ้านปงสนุก
หน้าหน่วยเลือกตั้งก็พบว่าไม่ใช่รายชื่อของผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 2
และไม่รู้ว่าเป็นผู้สมัครเขตใด
-อ้าง
คณะกกต.อบจ.แบ่งเขตผิดไม่เจตนา
ด้านการสอบสวนคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ
อบจ.ลำปาง ผอ.กกต.ประจำ อบจ.ลำปาง คณะอนุ
กกต.ประจำอำเภอเมืองลำปาง และนายทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครลำปาง ให้การว่า
เกิดจากนายทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครลำปาง นำหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง
ในการเลือกตั้งนายก และสท.มาใช้เป็นต้นร่างในการกำหนดหน่วยเลือกตั้ง และคณะ
กกต.ได้ตรวจสอบร่างกำหนดเขตด้วยความรวดเร็ว
เนื่องจากมีระยะเวลาที่กำหนดจึงเกิดความผิดพลาดขึ้น
ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครรายใด
ได้ดำเนินการตามขั้นตอนในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด กระทำการโดยเปิดเผย
โดยไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า คณะ กกต.ประจำ อบจ.ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการกระทำใดๆอันเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัคร
หรือจงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ หรือกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่
เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร
แต่การกำหนดเขตเลือกตั้งและที่เลือกตั้งดังกล่าว ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ส.อบจ.เขต 2 จำนวน 479 คน ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตที่ตนมีสิทธิได้ การที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เขต 2
ไปใช้สิทธิในเขต 4 อาจมีผลกระทบต่อคะแนนรวมของผู้สมัครที่ได้รับเลือกตั้ง
อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลำดับของผู้สมัครที่ได้รับเลือกตั้ง อันเป็นผลให้การเลือกตั้งทั้งสองเขตมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม จึงเห็นควรให้มีคำสั่งเลือกตั้ง ส.อบจ.ในเขต 2
และเขต 4 ใหม่ ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 976/2556 วันที่ 4
ก.ย.56
-ยัน
479 คะแนนไม่กระทบลำดับ เขต 4
ด้านนายถาวร
บุปผาเจริญ ส.อบจ.เขต 4 ผู้ที่ถูกกล่าวหา
เปิดเผยว่า กกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง
ซึ่งการร้องเรียนทุกวันนี้คือพบว่าเจ้าหน้าที่ กกต.ทำงานไม่ถูกต้อง
กลับไม่มีการเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิด แต่กลับโยนมาให้ ส.อบจ.เป็นแพะรับบาป
ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความผิดของผู้สมัคร ส.อบจ.เลยแม้แต่นิดเดียว
และอีกประการหนึ่ง กกต.ได้วินิจฉัยให้เลือกตั้งใหม่ในเขต 4 โดยให้เหตุผลว่า
การที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขต 2 จำนวน 479 คน ไปใช้สิทธิในเขต 4
อาจมีผลกระทบต่อคะแนนรวม
และเกิดการเปลี่ยนแปลงในลำดับของผู้ได้รับเลือกตั้งนั้น ในเขต 4 ไม่ได้รับผลกระทบส่วนนี้แน่นอน
เนื่องจากตนเองได้คะแนนห่างจากลำดับที่สองถึง 808 คะแนน หากจะยกคะแนน 479
คะแนนไปให้ผู้สมัครอันดับสองก็ยังได้น้อยกว่าคะแนนของตนอยู่ดี ส่วนในเขต 2 แน่นอนว่าได้รับผลกระทบอยู่แล้ว
เพราะคะแนนลำดับที่หนึ่งและลำดับที่สองห่างกัน 100 กว่าคะแนน แต่ที่ติดใจคือ กกต.กลับไม่มีการชี้มูลความผิดให้เจ้าหน้าที่เลย ซึ่งไม่เป็นธรรมกับเรา
หากมีการเอาผิดเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่มิชอบทำให้เกิดผลเสียหาย
จึงขอเพิกถอนการเลือกตั้งแล้วนำมาสู่การเลือกตั้งใหม่ ตนจะไม่ขัดข้องใดๆ
แต่เรื่องนี้เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่แต่ กกต.กลับมายื่นคำฟ้องตนที่ไม่มีความผิด
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
อาจเป็นกรณีแรกของประเทศไทยที่มีการสั่งเลือกตั้งใหม่ในลักษณะนี้
นายถาวร
กล่าวอีกว่า การดำเนินการต่อไปนี้คงต้องรอให้ศาลพิจารณาตามกระบวนการไปก่อน เพื่อรอดูว่าการตัดสินของศาลไปในทิศทางใด หากผลออกมาทำให้ตนเองเสียประโยชน์ ก็จะมีการฟ้องตามขั้นตอนของกฎหมาย
-ประชาชนเสียโอกาสใช้งบประมาณ
การหยุดปฏิบัติหน้าที่
ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการได้รับการช่วยเหลือด้านงบประมาณต่างๆ เพราะตอนนี้
อบจ.กำลังจะเข้าสู่การทำเรื่องงบประมาณปี 57
ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้เสนอโครงการเข้าไปหลายโครงการ เช่น
การจัดสร้างศาลาเอนกประสงค์ 2-3 แห่ง
การสร้างโรงยิมเล่นกีฬาสำหรับเด็กและเยาวชน งบประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งทำให้อำนาจการต่อรองน้อยลง
ตนไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปอภิปรายในสภาได้
ส.อบจ.เขต 4 กล่าว
-อำนวยแบ่งรับแบ่งสู้
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง
นายอำนวย วรญาณกุล ส.อบจ.เขต 2 ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า
ยังไม่สะดวกในการให้ข้อมูล เมื่อถามว่าจะลงสมัครอีกหรือไม่ นายอำนวย กล่าวว่า
ยังสองจิตสองใจอยู่
-ผอ.กกต.คาดรู้ผล
90 วัน
ขณะที่
นายสุคนธ์ เรือนสอน ผอ.กกต.ลำปาง กล่าวว่า
ในเรื่องนี้ต้องรอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิจารณา คาดว่าไม่เกิน 3 เดือนจึงจะรู้ผล
หากคำวินิจฉัยของศาลเป็นไปในทิศทางเดียวกับ กกต.คือสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เขต 2
และเขต 4 ทาง กกต.จังหวัดก็ได้มีการเตรียมพร้อมเลือกตั้งไว้หมดแล้ว
เพียงแต่ยังไม่ได้กำหนดวันเท่านั้น
-เหตุไม่เอาผิด
จนท. โยน กกต.กลาง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นที่เจ้าหน้าที่ทำผิดพลาดแต่
กกต.ไม่มีการเอาผิด ผอ.กกต.ลำปาง
กล่าวว่า
การสอบสวนต่างๆอยู่ที่พยานหลักฐาน ซึ่งดูเจตนาว่าเกิดความเสียหาย
และจงใจกระทำผิดการเลือกตั้งหรือไม่
โดยความผิดพลาดเกิดขึ้นที่ระบบทะเบียนตั้งแต่ต้น ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อ 4
ปีก่อน แต่ตอนนั้นไม่มีคนทักท้วง
ซึ่งการพิจารณาต่างๆนั้นอยู่ในดุลยพินิจและอำนาจของ กกต.กลาง
ตอนนี้คดียังไม่ถึงที่สุด ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถร้องคัดค้านได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 947 วันที่ 11 - 17 ตุลาคม 2556)