วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กกต.ลอยตัว แบ่งเขตผิด! ศาลสั่งหยุดหน้าที่ 2 ส.อบจ อำนวย-ถาวร


ศาลอุทธรณ์ภาค 5 รับคดี กกต.ฟ้อง ส.อบจ.เขต 2 และ 4  สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ขณะที่ ถาวรยันคะแนนไม่มีผลต่อลำดับของตนแต่ถูกพ่วงด้วย ข้องใจ กกต.ไม่ฟ้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ทำงานผิดพลาด แต่กลับฟ้อง ส.อบจ.ที่ไม่รู้เรื่องด้วย ขณะที่ กกต.ลำปางอ้างเป็นอำนาจ กกต.กลางในการพิจารณาทุกขั้นตอน

เมื่อวันที่ 2 ต.ค.56 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ รับคดีระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นร้อง นายอำนวย วรญาณกุล ส.อบจ.เขต 2  อ.เมืองลำปาง  และนายถาวร บุปผาเจริญ ส.อบจ.เขต 4 อ.เมืองลำปาง เข้าพิจารณา มีผลให้ทั้ง 2 คนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที

-สจ.ติ ร้อง กกต.อบจ.

คดีนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่นายสุภาพ  วงษ์ศา ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง เขต 2 และอดีต ส.อบจ.ลำปาง ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อวันที่ 8 ก.ย.55  ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางได้กระทำอันเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางได้ให้ประชาชนที่มีสิทธิในการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 2 ให้ไปใช้สิทธิในเขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน479 ราย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และตนในฐานะผู้สมัครรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเขตเลือกตั้งที่ 2    โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ค.56  คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาการร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.อบจ.ลำปาง เขต 2 โดยระบุว่า กกต.ได้พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด และมีมติสั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.อบจ.ลำปาง อ.เมืองลำปาง เขต 2 และเขต 4 ใหม่ และ กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อวินิจฉัยในกรณีดังกล่าวต่อไป จึงมีการยื่นคำร้องกับ ส.อบจ.ทั้ง 2 เขตดังกล่าว

-สั่ง 2 สจ.ยุติหน้าที่

ทั้งนี้  สรุปตามคำฟ้องได้ว่า  จากสำนวนการสืบสวนสอบสวนเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.อบจ.เขต 2 และ ส.อบจ.เขต 4 มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม มีผลทำให้นายอำนวย วรญาณกุล และนายถาวร บุปผาเจริญ ได้รับการเลือกตั้ง เมื่อสอบสวนตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยชี้ขาด  พ.ศ.2555 แล้ว พบข้อเท็จจริงว่า ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องการแบ่งเขตการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ลงวันที่ 18 ก.ค.55 กำหนดให้พื้นที่ ต.เวียงเหนือ ในเขตเทศบาลนครลำปาง เฉพาะหน่วยเลือกตั้งฝั่งตะวันออกของถนนรัษฎา  อยู่ในเขตเลือกตั้งของ ส.อบจ.เขต 2   และพื้นที่ ต.วังเหนือ ในเขตเทศบาล ฝั่งตะวันตกของถนนรัษฎา อยู่ในเขตเลือกตั้งของ ส.อบจ.เขต 4  จาการตรวจสอบประกาศ ผอ.กกต. เรื่องบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เฉพาะหน่วยเลือกตั้งที่ 32  ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง มีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 479 คน ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่งจากการสอบสวนพยาน 10 คน ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกันว่าไม่ทราบว่าตนเองมีสิทธิเลือกตั้งในเขตใด ก่อนเลือกตั้งได้รับหนังสือ สถ.10 แจ้งว่าให้ไปเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ 32 ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข ชั้น 2  บ้านปงสนุก  หน้าหน่วยเลือกตั้งก็พบว่าไม่ใช่รายชื่อของผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 2 และไม่รู้ว่าเป็นผู้สมัครเขตใด

-อ้าง คณะกกต.อบจ.แบ่งเขตผิดไม่เจตนา

ด้านการสอบสวนคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ อบจ.ลำปาง  ผอ.กกต.ประจำ อบจ.ลำปาง คณะอนุ กกต.ประจำอำเภอเมืองลำปาง และนายทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครลำปาง ให้การว่า เกิดจากนายทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครลำปาง นำหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง ในการเลือกตั้งนายก และสท.มาใช้เป็นต้นร่างในการกำหนดหน่วยเลือกตั้ง และคณะ กกต.ได้ตรวจสอบร่างกำหนดเขตด้วยความรวดเร็ว เนื่องจากมีระยะเวลาที่กำหนดจึงเกิดความผิดพลาดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครรายใด  ได้ดำเนินการตามขั้นตอนในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด กระทำการโดยเปิดเผย โดยไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า คณะ กกต.ประจำ อบจ.ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการกระทำใดๆอันเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัคร หรือจงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ หรือกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร  แต่การกำหนดเขตเลือกตั้งและที่เลือกตั้งดังกล่าว ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.อบจ.เขต 2 จำนวน 479 คน ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตที่ตนมีสิทธิได้  การที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เขต 2 ไปใช้สิทธิในเขต 4 อาจมีผลกระทบต่อคะแนนรวมของผู้สมัครที่ได้รับเลือกตั้ง อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลำดับของผู้สมัครที่ได้รับเลือกตั้ง  อันเป็นผลให้การเลือกตั้งทั้งสองเขตมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม  จึงเห็นควรให้มีคำสั่งเลือกตั้ง ส.อบจ.ในเขต 2 และเขต 4 ใหม่ ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 976/2556 วันที่ 4 ก.ย.56

-ยัน 479 คะแนนไม่กระทบลำดับ เขต 4

ด้านนายถาวร บุปผาเจริญ  ส.อบจ.เขต 4 ผู้ที่ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า  กกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ซึ่งการร้องเรียนทุกวันนี้คือพบว่าเจ้าหน้าที่ กกต.ทำงานไม่ถูกต้อง กลับไม่มีการเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิด แต่กลับโยนมาให้ ส.อบจ.เป็นแพะรับบาป ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความผิดของผู้สมัคร ส.อบจ.เลยแม้แต่นิดเดียว และอีกประการหนึ่ง กกต.ได้วินิจฉัยให้เลือกตั้งใหม่ในเขต 4 โดยให้เหตุผลว่า การที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขต 2 จำนวน 479 คน ไปใช้สิทธิในเขต 4 อาจมีผลกระทบต่อคะแนนรวม และเกิดการเปลี่ยนแปลงในลำดับของผู้ได้รับเลือกตั้งนั้น  ในเขต 4 ไม่ได้รับผลกระทบส่วนนี้แน่นอน เนื่องจากตนเองได้คะแนนห่างจากลำดับที่สองถึง 808 คะแนน หากจะยกคะแนน 479 คะแนนไปให้ผู้สมัครอันดับสองก็ยังได้น้อยกว่าคะแนนของตนอยู่ดี   ส่วนในเขต 2 แน่นอนว่าได้รับผลกระทบอยู่แล้ว เพราะคะแนนลำดับที่หนึ่งและลำดับที่สองห่างกัน 100 กว่าคะแนน   แต่ที่ติดใจคือ กกต.กลับไม่มีการชี้มูลความผิดให้เจ้าหน้าที่เลย  ซึ่งไม่เป็นธรรมกับเรา หากมีการเอาผิดเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่มิชอบทำให้เกิดผลเสียหาย จึงขอเพิกถอนการเลือกตั้งแล้วนำมาสู่การเลือกตั้งใหม่ ตนจะไม่ขัดข้องใดๆ แต่เรื่องนี้เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่แต่ กกต.กลับมายื่นคำฟ้องตนที่ไม่มีความผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อาจเป็นกรณีแรกของประเทศไทยที่มีการสั่งเลือกตั้งใหม่ในลักษณะนี้

นายถาวร กล่าวอีกว่า การดำเนินการต่อไปนี้คงต้องรอให้ศาลพิจารณาตามกระบวนการไปก่อน  เพื่อรอดูว่าการตัดสินของศาลไปในทิศทางใด  หากผลออกมาทำให้ตนเองเสียประโยชน์ ก็จะมีการฟ้องตามขั้นตอนของกฎหมาย  

-ประชาชนเสียโอกาสใช้งบประมาณ 

การหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการได้รับการช่วยเหลือด้านงบประมาณต่างๆ เพราะตอนนี้ อบจ.กำลังจะเข้าสู่การทำเรื่องงบประมาณปี 57 ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้เสนอโครงการเข้าไปหลายโครงการ เช่น การจัดสร้างศาลาเอนกประสงค์ 2-3 แห่ง  การสร้างโรงยิมเล่นกีฬาสำหรับเด็กและเยาวชน งบประมาณ 5 ล้านบาท  ซึ่งทำให้อำนาจการต่อรองน้อยลง ตนไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปอภิปรายในสภาได้   ส.อบจ.เขต 4 กล่าว

-อำนวยแบ่งรับแบ่งสู้

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายอำนวย วรญาณกุล  ส.อบจ.เขต 2  ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า ยังไม่สะดวกในการให้ข้อมูล เมื่อถามว่าจะลงสมัครอีกหรือไม่ นายอำนวย กล่าวว่า ยังสองจิตสองใจอยู่

-ผอ.กกต.คาดรู้ผล 90 วัน

ขณะที่ นายสุคนธ์ เรือนสอน ผอ.กกต.ลำปาง  กล่าวว่า ในเรื่องนี้ต้องรอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิจารณา คาดว่าไม่เกิน 3 เดือนจึงจะรู้ผล หากคำวินิจฉัยของศาลเป็นไปในทิศทางเดียวกับ กกต.คือสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เขต 2 และเขต 4 ทาง กกต.จังหวัดก็ได้มีการเตรียมพร้อมเลือกตั้งไว้หมดแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้กำหนดวันเท่านั้น

-เหตุไม่เอาผิด จนท. โยน กกต.กลาง

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นที่เจ้าหน้าที่ทำผิดพลาดแต่ กกต.ไม่มีการเอาผิด  ผอ.กกต.ลำปาง กล่าวว่า  การสอบสวนต่างๆอยู่ที่พยานหลักฐาน ซึ่งดูเจตนาว่าเกิดความเสียหาย และจงใจกระทำผิดการเลือกตั้งหรือไม่ โดยความผิดพลาดเกิดขึ้นที่ระบบทะเบียนตั้งแต่ต้น ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน แต่ตอนนั้นไม่มีคนทักท้วง  ซึ่งการพิจารณาต่างๆนั้นอยู่ในดุลยพินิจและอำนาจของ กกต.กลาง ตอนนี้คดียังไม่ถึงที่สุด ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถร้องคัดค้านได้


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 947 วันที่ 11 - 17 ตุลาคม 2556)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์