ชลประทานยัน 2 เขื่อนใหญ่ยังรับไหว แม่น้ำวังยังอยู่ในระดับปกติ แจงเหตุคลองส่งน้ำแม่วังฝั่งซ้ายเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในเขต อ.เมือง และน้ำจากดอยพระบาทยังส่งผลกระทบไหลเอ่อเข้าท่วมถนนและโรงเรียน โชคดีเป็นช่วงเปิดเรียนวันสุดท้ายก่อนปิดเทอม ผู้ปกครองจึงมารับลูกหลานกลับบ้าน นอกจากนั้นน้ำระบายไม่ทันยังเอ่อท่วมถนนกลางเมืองหลายสาย
ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดลำปางอย่างต่อเนื่อง
เนื่องมาจากอิทธิพลของพายุ “หวู่ติ๊บ” ที่พาดผ่านทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยทางจังหวัดลำปางได้ออกประกาศแจ้งเตือนเมื่อรับมือกับปัญหาวาตภัย
อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งจากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง เมื่อวันที่
2 ต.ค.56 เวลา 21.00 น.ส่งผลให้น้ำป่าจากดอยพระบาทไหลเข้าท่วมถนนสายลำปาง-แม่ทะ หน้าทางเข้าโครงการหมู่บ้านจิตอารีย์วิลล์ 1 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร สูงประมาณ 20 ซ.ม. รถเล็กต้องสัญจรผ่านไปมาด้วยความระมัดระวัง โดยเจ้าหน้าที่จาก
เทศบาลเมืองเขลางค์นครได้เร่งเปิดฝาท่อระบายน้ำที่อยู่ด้านหน้าอาคารพานิช
เพื่อเร่งระรายน้ำที่ทะลักเอ่อเข้าท่วมถนนสายดังกล่าว พร้อมกับประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำตำบลพระบาท
อาสาสมัครตำรวจบ้าน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลเมืองเขลางค์นครได้เข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรทางถนนช่วงที่น้ำทะลักเข้าท่วม นอกจากนี้มวลน้ำดังกล่าวยังได้เอ่อเข้าท่วมชุมชนบ้านหนองห้าตะวันออก
และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตอารีย์ฯ ต.พระบาท อีกด้วย
ขณะเดียวกันในเขตตัวเมืองลำปางก็ได้เกิดน้ำท่วมขังในถนนสายสำคัญต่างๆ
ที่เคยท่วมประจำ เช่นย่านการค้าต.สบตุ๋ย สี่แยกไฟแดงดอนปานหน้าคลังน้ำมันเชลล์ก่อนถึงทางข้ามรถไฟ
ต.สบตุ๋ย , บริเวณข้าง
โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
ต.สวนดอก , บริเวณทาง แยกป่าขาม ต.พระบาท อ.เมืองจ.ลำปาง และอื่นๆอีกหลายจุด
ในเขตเมืองลำปาง ทำการสัญจรทางถนนช่วงดังกล่าวเกิดติดขัดอย่างมาก
และรถจักรยานยนต์ก็ขับขี่ด้วยความยากลำบาก ขณะที่ชาวบ้าน
ตลอดจนผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ริมถนนต่างต้องใช้ถุงทรายและแผ่นพลาสติกมากันหน้าบ้าน
เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าในตัวอาคารบ้านเรือนของตนเพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้น
และในช่วงเช้าของวันที่
3 ต.ค. 56
น้ำยังคงเอ่อท่วมเข้าไปด้านในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตอารีย์ นักเรียนและผู้ปกครองต่างต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมขังโรงเรียนสูงประมาณ
10 เซนติเมตร เพื่อที่จะออกมาจากโรงเรียนและขึ้นรถกลับบ้าน หลังจากที่โรงเรียนได้ปิดภาคเรียนเทอมแรกนานถึง
1 เดือน ทำให้บรรยากาศทั่วไปของโรงเรียนคึกคัก เพราะผู้ปกครองพากันมารับบุตรหลานกว่า
1,000 คน เพื่อเดินทางกลับบ้านในช่วงปิดเทอม สำหรับโรงเรียนแห่งนี้ได้ประสบปัญหาน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ
แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอนมากนัก
เพราะระดับน้ำก็ยังไม่สูงมาก และไม่ได้เอ่อเข้าท่วมอาคารเรียนแต่อย่างใด
เนื่องจากมีความสูงจะท่วมเพียงถนนและสนามทั่วไปของโรงเรียนเท่านั้น
นอกจากนั้นลานนาโพสต์ยังได้สอบถามไปยัง
สำนักชลประทานที่ 2 ลำปาง ซึ่งรับผิดชอบในส่วนของเขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา โดยนายแหลมทอง พงษ์สุทธิยากร
ผู้อำนวยการส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนว่า ในวันที่ 3 ต.ค.56 ปริมาณน้ำในเขื่อนกิ่วลมมีความจุอยู่ที่ 82.456 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 77.63%
ซึ่งมีน้ำจากภายนอกไหลเข้าอ่าง 2.727 ล้าน ลบ.ม.
และเปิดช่องระบายน้ำ 1 ช่องลงสู่แม่น้ำวังในปริมาณ 0.764 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที
ซึ่งถือว่าเป็นระดับน้ำที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ปริมาณน้ำฝนในอยู่ที่ 16.5
มิลลิเมตร ในช่วงนี้เขื่อนได้มีการเก็บกักน้ำไว้เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร
เนื่องจากที่ผ่านมาน้ำในเขื่อนมีน้อยมากเพราะฝนขาดช่วงไปนาน
ในส่วนของเขื่อนกิ่วคอหมาปัจจุบันมีความจุอยู่ที่ 140.434 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 87.47% มีน้ำเข้าอ่าง 1.353 ล้าน ลบ.ม.ปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ 6 มิลลิเมตร
เพราะในพื้นที่มีฝนตกไม่มากนัก สำหรับปริมาณน้ำที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำวังอยู่ที่ 0.236 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที ทั้งนี้
สองเขื่อนใหญ่ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 30 กว่าล้าน ลบ.ม.
ในกรณีที่เห็นว่าปริมาณน้ำแม่วังมีปริมาณเพิ่มขึ้นนั้น
สาเหตุหลักมาจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เมืองลำปาง ทำให้น้ำจากดอยพระบาทไหลลงสู่คลองส่งน้ำฝั่งซ้ายและลงสู่แม่น้ำวังไม่ได้เกิดจากการระบายน้ำจากเขื่อนแต่อย่างใด
ซึ่งปริมาณแม่น้ำวังในเขตเทศบาลก็ยังคงอยู่ในระดับปกติ และหากมีการระบายน้ำในปริมาณมากทางเราได้มีการแจ้งประสานงานไปยังเทศบาลนครลำปางเพื่อแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าทุกครั้ง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 946 วันที่ 4 - 10 ตุลาคม 2556)