แค่ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ดารานักแสดงหนุ่มไป
Featuring กับสาวปริศนาที่เกาหลี
ก็เป็นเรื่องเป็นราว ปานฟ้าจะถล่ม ดินจะทลาย ด้านหนึ่ง ก็จะพยายามเข้าใจว่า บอย
เป็นดารา เป็นลูกกตัญญู และเป็นคนมีเมตตา ใจกว้างอย่างแม่น้ำ ฉะนั้นเขาย่อมเป็น “สมบัติ” ที่ประชาชนหวงแหน และไม่อยากให้แปดเปื้อนราคีคาว จนอาจจะลดทอนความเชื่อถือ
ภาพลักษณ์ของดาราหนุ่มหล่อ นิสัยดีคนนี้ แต่บอยเป็นผู้ชาย
บอยเป็นมนุษย์การที่บอยจะไปป้ำปั๊มสาวไหน โดยที่สาวยินยอมพร้อมใจด้วย มันผิดตรงไหน
และหากนี่เป็นความผิด ผู้ชายเกือบทั้งโลกคงผิดด้วย
เรื่องดาราระดับพระเอก มีข่าวคาว ฟิตเจอริ่งสาวๆ ทั้งในและนอกวงการ
ว่าไปก็มีมาตั้งแต่ยุคพระเอกรุ่นพ่อแล้ว ตั้งแต่ดาราหนุ่มใหญ่ อักษรย่อ
ย.กับดาวโป๊ หนังไทยยุคก่อน เล่นเกินบทไปฟิตเจอริ่งกันต่อนอกจอ
ดาราหนุ่มพระเอกขวัญใจตลอดกาล ชื่อย่อ ส.ก็มีข่าวกับดาราตลกหญิงชื่อ อ.
ถัดมารุ่นกลาง ก็มีทั้งข่าวทั้งคลิปยืนยันหลักฐานกันจะแจ้ง หรือแม้แต่เมื่อ 5
ปีก่อนที่เกิดข่าวฉาวดังเมื่อมีคลิปหลุดของพระเอก ส. (ชื่อเล่น อ.)
ที่ซี๊ดซ๊าดจนต้องแถลงข่าวทั้งน้ำตายอมรับเช่นเดียวกัน
แฟนคลับดาราบางคนก็ยอมรับ บางคนก็ปล่อยให้ขาเมาท์ เมาท์มอยกันไป
เพราะเขาเห็นว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์
เรื่องธรรมชาติที่ไม่ได้ทำให้สังคมเดือดร้อน
และที่สำคัญไม่มีใครเห็นเป็นเรื่องสลัก สำคัญ สื่อก็ไม่ได้รุกไล่ดาราเหมือนไปทำผิด
คิดชั่วร้ายแรง จนต้องออกมาขอโทษแฟนๆละคร
น้ำจะท่วมฟ้า
ปลาจะกินดาว หรืออย่างไร โลกและชีวิตที่ดำเนินไปตามปกติแสนธรรมดาเรื่องหนึ่ง
กลายเป็นเรื่องใหญ่ราวโลกจะถล่มทลาย
มีคำอธิบายว่า เพราะ บอย ปกรณ์ เป็นดารา ความเป็นดารา เป็น 'บุคคลสาธารณะ' หรือ Public Figure
ความเป็นส่วนตัวของเขา อาจต้องน้อยกว่าคนอื่นๆ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่า
สื่อมวลชนสามารถรุกล้ำเข้าไปในเรื่องส่วนตัวของเขาได้ทุกกรณี ในขณะเดียวกัน
ความเป็นดารา ก็ไม่ได้หมายถึงเรื่องอันเป็นปกติวิสัยของมนุษย์
เป็นเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจจนถึงต้องออกมาขอโทษขอโพยสังคม คล้าย Featuring คราวนั้นผิดแปลกกว่าครั้งก่อนๆที่น่าเชื่อว่า
บอย ปกรณ์ ก็คงผ่านมาแล้วไม่น้อย แต่บังเอิญไม่มีข่าวออกมา
ว่าไป เรื่องสิทธิส่วนบุคคล (Right to Privacy)
นับเป็นปัญหาใหญ่เหมือนกัน เพราะสื่อก็สำคัญผิดว่า ดารา หรือบุคคลสาธารณะ
เป็นเรื่องที่สามารถพูดถึงเรื่องส่วนตัวของเขาได้โดยไม่มีข้อจำกัด หรือคิดว่า นี่เป็นข่าวที่คนสนใจ
(Human Interest) อันนับเป็นคุณค่าข่าวชนิดหนึ่ง
แต่ในความเป็นจริงบุคคลเหล่านี้ก็ยังได้รับความคุ้มครองในการใช้ชีวิตส่วนตัว
ซึ่งสื่อต้องแยกให้ออกระหว่างขอบเขตสิทธิส่วนบุคคล กับสิทธิในการรับรู้ของประชาชน
กรณี บอย ปกรณ์ อาจมีนัยสำคัญที่แตกต่างจากกรณี แอนนี่
และฟิล์ม ที่แอนนี่อาจจงใจให้สื่อรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลของเธอ เพราะนั่นหมายถึง
การทำให้ชื่อแอนนี่เป็นแบรนด์ดังเพียงข้ามคืน
และแบรนด์แอนนี่ก็ขายได้จริงๆในห้วงเวลานั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป
ชื่อแอนนี่ก็เริ่มเลือนหายไป โดยยังทิ้งปริศนาให้คิดต่อไปว่า
ใครคือพ่อเด็กที่แท้จริง แต่ในเรื่องราวของแอนนี่ก็มีแง่คิดว่า ข่าวประเภทชู้สาว
คาวสวาท หรือเรื่องส่วนตัวนี้ จัดอยู่ในประเภทข่าวบันเทิงที่เข้าใจกันหรือไม่
เรื่องของบอย
ปกรณ์ ก็เป็นเรื่องชีวิตส่วนตัว ที่ไม่เกี่ยวกับบทบาทการแสดง
แปลว่านั่นไม่ใช่ข่าวบันเทิง แต่จัดอยู่ในประเภทข่าวเร้าอารมณ์ เป็นข่าวอาชญากรรม
หรือข่าวอะไรก็สุดแท้แต่จะตีความ แต่บทจบของเรื่องนี้
ก็ยังคงต้องย้อนถามคำถามเดิมว่า แค่พี่ไป ฟิตเจอริ่งแล้วสื่อจับได้
เป็นความผิดร้ายแรง ถึงกับต้องขอโทษเชียวหรือ
(แร็คลานนา คม - คิด ฉบับที่ 951 วันที่ 8 - 14 พฤศจิกายน 2556)
