ผู้ว่าฯลำปาง
เตรียมพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ บ่อน้ำพุร้อนแห่งที่ 3 ของ
จ.ลำปาง ที่บ้านโป่งน้ำร้อน อ.เสริมงาม ให้เป็นที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆหลายแห่งเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศแบบธรรมชาติ
นายธานินทร์
สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยคณะของ ผู้บริหารของ ททท.ลำปาง
และอีกหลายภาคส่วนที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่บริเวณเชิงสะพาน บ้านโป่งน้ำร้อน
หมู่ที่ 1 ต.เสริมกลาง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อน
ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และพบเป็นแห่งที่ 3 ของ จ.ลำปาง โดยมีหัวหน้าหน่วยจัดการน้ำแม่เสริม
ผู้บริหารและผู้นำท้องถิ่น ในตำบลเสริมกลาง และกลุ่มชาวบ้าน บ้านโป่งน้ำร้อน ได้ให้การต้อนรับ
นายธานินทร์
สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ได้เรียก ททท.ลำปาง
หน่วยงานจัดสรรงบประมาณในจังหวัดลำปาง
เข้ามาพุดคุยเพื่อเตรียมเสนอเรื่องและงบประมาณมาพัฒนา โป่งน้ำร้อนแห่งนี้เป็น
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งโป่งน้ำร้อน
หมู่ที่ 1
ต.เสริมกลาง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง
ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งน้ำพุร้อนแห่งที่ 3 ที่พบในขณะนี้
ลักษณะของโป่งน้ำร้อนที่พบ จะอยู่เชิงสะพานข้ามลำน้ำแม่เสริมจุดเดียวเท่านั้น โดยจะมีน้ำพุร้อนผุดออกมาตลอดริมตลิ่ง
และเมื่อขุดลงไปก็จะพบเรื่อยๆ นอกจากนี้ลำห้วยแม่เสริมซึ่งจะไหลผ่านตลอดทั้งปี
กระแสน้ำพุร้อนและน้ำในลำห้วยไหลบรรจบกันก็จะเป็นกระแสน้ำอุ่น
ซึ่งเหมาะแก่การแช่น้ำแร่เป็นอย่างดี และจากข้อมูลที่รับทราบเบื้องต้น
บ่อน้ำแร่ที่บ้านโป่งร้อนแห่งนี้ ใช้เวลาต้มไข่เพียง 15 นาที
ขณะที่บ่อน้ำแร่แจ้ซ้อนใช้เวลา 17 นาที แต่ติดปัญหาที่มีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว
แต่ยังไม่มีสิ่งสาธารณูปโภคที่คอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวได้ เนื่องจากว่า โป่งน้ำร้อนแห่งนี้
อยู่ในลำห้วยและเมื่อเข้าสู่ฤดูในเกิดน้ำหลากก็จะถูกกระแสน้ำพัด
ทำให้บ่อน้ำแร่ที่ปรับปรุงเสียหาย อีกทั้ง
โป่งน้ำร้อนแห่งนี้แม้จะมีมานานแล้วแต่ขาดการพัฒนาและประสานงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือในการปรับปรุงในเรื่องต่างๆอย่างจริงจัง
ไม่ว่าจะเป็น เรื่องห้องอาบน้ำแร่ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
กล่าวว่า ในเรื่องนี้ จะให้หน่วยงานทางด้านธรณีวิทยาเข้ามาศึกษาสายแร่
และความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนและของจังหวัดลำปาง
ร่วมกับหน่วยงานกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อาจจะขอใช้งบประมาณจากกองทุนโรงไฟฟ้า กฟผ.แม่เมาะ งบจากหน่วยงาน
และงบประมาณท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป ส่วนในขณะนี้หากนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนสามารถเข้าไปแวะเที่ยวชมได้ทุกวัน
สำหรับบ่อน้ำพุร้อน
2 แห่งที่พบที่ จ.ลำปางก่อนหน้านี้คือ
บ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่สุดภายในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
แห่งที่สอง คือที่ โป่งน้ำร้อน ที่บ้านโป่งน้ำร้อน หมู่ที่ 1 ต.ใหม่พัฒนา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งทั้ง 2 แห่ง
เป็นน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และได้พัฒนาปรับปรุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดจนถึงทุกวันนี้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 957 27 ธันวาคม - 2 มกราคม 2556)