ไม่มีปาฎิหาริย์ใดๆ ที่บ้านเมืองจะกลับมาสู่ความสงบในทันที ที่วันเลือกตั้งเดินทางมาถึง หรือ กปปส.จะเดินเครื่องเต็มสูบ ปิดกรุงเทพทวงคืนอำนาจจากยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเฉพาะเมื่อเกิดสงครามกลางเมืองย่อยๆ ที่ดินแดง
ปรากฎการณ์ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย – ญี่ปุ่น ดินแดง สถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตลอดวันที่ ๒๖ ธันวาคมที่ผ่านมา อธิบายภาพความจริงได้ชัดเจนว่า สังคมไทยจะยังคงตกอยู่ในหล่มโคลนแห่งความขัดแย้ง รุนแรงมากขึ้น
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะมีมากขึ้น และจะนำบ้านเมืองไทยเข้าสู่จุดอับ ที่ไม่ว่าฝ่ายใดก็จะเดินต่อไปไม่ได้ นอกจากหันหน้ามาประหัต ประหารกันเอง และมุ่งสู่ชัยชนะ ด้วยการปักธงบนซากปรักหักพัง และร่างที่เกรอะกรังไปด้วยเลือดของคนไทยด้วยกันเอง
เนื่องเพราะนาทีนี้ทางออกของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสภาปฎิรูปประเทศของรัฐบาลรักษาการนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือสภาประชาชน ของ กปปส.โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ล้วนเป็นข้อเสนอในเชิงอุดมการณ์ ที่ยังไม่สามารถแปรผลเป็นการปฎิบัติอย่างจริงจังได้ในขณะนี้
ในท่ามกลางความขัดแย้ง ที่บรรดาข้อเสนอทางออกประเทศไทย ของทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย คล้ายฟองอากาศในมหาสมุทร ไม่มีใครฟังใครด้วยเหตุผลและความเป็นจริง แม้จะมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง ร่วมกันแสวงหาแนวทางเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย แต่ก็ไม่มีพลังเพียงพอที่จะขับเคลื่อนสังคมนี้ไปในทิศทางที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับคู่ขัดแย้งในสังคมได้
แน่นอนว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจดีว่า เสียงข้างมากมิได้สะท้อนความต้องการอันแท้จริงของประชาชน โดยเฉพาะเสียงข้างมากที่ได้มาจากการจัดการ การประกอบสร้าง การสั่งสมความคิดและทัศนคติที่ผิดๆมาอย่างยาวนาน แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่เข้าใจว่าการเลือกตั้ง คือสัญลักษณ์ประการเดียว ของความเป็นประชาธิปไตย
แม้จะมิใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่ ณ เวลานี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือแสงสว่างเพียงประกายเดียวในความมืดมนอนธกาลของสังคม เจตจำนงของ กกต.ที่เรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้ง โดยมิได้รับการตอบสนอง เจตนาของ กกต.ที่แสดงออกว่า หากยังไม่มีการคลี่คลายสถานการณ์ในทางที่ดีขึ้น กกต.จะพิจารณาใช้สิทธิและอำนาจหน้าที่ของกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะกรรมการการเลือกตั้งรายบุคคล เพื่อตัดสินใจคลี่คลายสถานการณ์ตามวิจารณญาณที่เหมาะสม
เหล่านี้ ล้วนเป็นท่าทีที่สมควรแสดงความกล้าหาญ ด้วยการประกาศชัดเจนตรงไปตรงมาว่า จะลาออกทั้งคณะ หรือบางบุคคล เพื่อไม่ให้สามารถจัดการเลือกตั้งได้ตามกฎหมาย อย่างน้อยเพื่อให้ทุกฝ่ายได้พักรบและมีทางลง แม้เพียงชั่วคราวก็ตาม
“ม้าสีหมอก” เห็นว่า กกต. ยังมิได้ทำหน้าที่อันสำคัญยิ่ง คือการจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง
แต่หน้าที่อันสำคัญยิ่งกว่านั้น คือความรับผิดชอบไม่ให้การเลือกตั้งนำพาไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น นำไปสู่ความสูญเสียชีวิต เลือดเนื้อของคนไทยมากขึ้น หนทางเดียว คือลาออก โดยเฉพาะนายสมชัย ศรีสุทธิยากร และนายประวิช รัตนเพียร ที่แสดงจุดยืนชัดเจนว่า วันเลือกตั้งควรเลื่อนออกไป
นั่นคือความสง่างาม คือเกียรติยศแห่งชีวิตที่รุ่นลูก รุ่นหลาน จะจดจำไว้ตลอดไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 959 3 - 9 มกราคม 2557)