ตามที่สำนักแผนงาน กรมทางหลวง
ได้มีการว่าจ้างให้บริษัทที่ปรึกษา ได้แก่ บริษัท โชติจินดา มูเซล คอนซัลแตนท์
จำกัด และ บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด เข้ามาดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ
วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่มีต่อโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองลำปาง
โดยได้การรวบรวมข้อมูลทำการศึกษา คัดเลือกกำหนดแนวเส้นทางที่เหมาะสม
เพื่อจะเชื่อมต่อเส้นทางระหว่าง ทางหลวงหมายเลข 11 บริเวณสามแยกศาลากลางจังหวัด
ช่วงประมาณ กม.ที่ 452+546 เข้ากับทางหลวง และแขวงการทางลำปาง สำนักทางหลวงที่ 1
จัดการประชุมสัมมนา ครั้งที่ 2 มีสรุปผลการหลวงหมายเลข 1 ช่วงประมาณ กม.ที่ 8+522
ในพื้นที่ตำบลพิชัย อำเภอเมืองทั้งนี้ เสนอแนวทางก่อสร้างเส้นทางใน 3 ทางเลือก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557
สำนักแผนงาน กรมทางหลวง ได้คัดเลือกรูปแบบที่เหมาะสมว่าประชาชนชาวลำปางส่วนใหญ่
เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองลำปาง
และเห็นสมควรให้มีการก่อสร้างเส้นทาง ตามแนวเส้นทางสาย B ซึ่งจะมีระยะทางทางเลือกยาวรวมประมาณ 9.9 กิโลเมตร โดยแนวเส้นทางส่วนมากจะมีการตัดผ่าน
ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ อาทิ ชุมชนบ้านไร่ศิลาทอง ชุมชนบ้านทุ่งกู่ ชุมชนบ้านท่าเดื่อ
และตัดผ่านพื้นที่ป่า รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมบ้างบางส่วน
การก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองลำปางดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ด้านการคมนาคม
เพราะนอกจากจะประหยัดเวลาในการเดินทาง
เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าแล้วยังเป็นเส้นทางที่รองรับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ
และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอนาคต
รวมถึงรองรับการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในจังหวัดลำปาง
และพื้นที่ใกล้เคียงให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาและการขยายตัวของพื้นที่จังหวัดลำปาง
ตลอดจนสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด บนทางหลวงหมายเลข 11 และหมายเลข 1
ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักที่ผ่านตัวเมืองลำปาง
อย่างไรก็ตามสำนักแผนงาน กรมทางหลวง
จะได้มีการจัดทำสรุปผลการศึกษาดังกล่าวแจ้งหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ทราบอีกครั้ง เพื่อจะได้เร่งดำเนินการตามแผนงานก่อสร้างโครงการฯ ต่อไป
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า
ในพื้นที่เขตติดถนนสายลำปาง-งาว ขณะนี้ เจ้าของที่ดินบางโซนมีการปรับพื้นแปลงใหญ่
เพื่อรองรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ และ บางส่วน
มีการปรับราคาซื้อขายที่ดินสูงขึ้นหลายแปลงแล้ว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 979 ประจำวันที่ 23 - 29 พฤษภาคม 2557)