วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ตะลึงยอดจับไม้ลำปาง เพียง 3 เดือนมีไม้หวงห้ามถูกตัดและแปรรูปกว่า 8,000 แผ่น พื้นที่ อ.งาวจับกุมบ่อยที่สุด ในขณะที่ไม่สามารถสาวถึงตัวการใหญ่


ตะลึงยอดจับไม้ลำปาง เพียง 3 เดือนมีไม้หวงห้ามถูกตัดและแปรรูปกว่า 8,000 แผ่น  พื้นที่ อ.งาวจับกุมบ่อยที่สุด ในขณะที่ไม่สามารถสาวถึงตัวการใหญ่ได้เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วนผู้ที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่พ้นโทษก็ออกมาทำอีก เนื่องจากมีโทษไม่หนัก

สถานการณ์การตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ จ.ลำปาง ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมามีการนำเสนอข่าวผ่านทางสื่อต่างๆเกือบทุกเดือน ในขณะที่ไม่สามารถจับกุมตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการทำลายป่าได้แม้แต่ครั้งเดียว  ลานนาโพสต์ได้รวมรวบข้อมูลการจับกุมคดีการลักลอบตัดไม้จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ลำปาง  ซึ่งเป็นที่น่าตกใจเมื่อพบว่าเพียง 3 เดือนมีการลักลอบตัดไม้จำนวนมากกว่า 8,000 ท่อน/แผ่นเหลี่ยม  เมื่อเทียบกับช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในรอบ 1 ปี มีการตัดไม้ทำลายป่า 18,926 ท่อน/แผ่นเหลี่ยม  

จากการสรุปผลการตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ในส่วนรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดลำปาง 

เดือนมกราคม  2557  จำนวน 65 คดี  จับกุมผู้ต้องหา 13  คน  เป็นคดีตรวจยึด ไม้/สัตว์ป่า  54 คดี  ได้ของกลาง ไม้สักท่อน  135 ท่อน   ไม้สักแปรรูป  280  แผ่น ไม้กระยาเลยท่อน  129  ท่อน  ไม้กระยาเลยแปรรูป  322  แผ่น  รถยนต์กระบะ 4 คัน รถ จยย.2 0 คัน เลื่อยโซ่ยนต์ 8 เครื่อง  และอุปกรณ์อื่นๆ  และคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ   จำนวน  11   คดี   พื้นที่  111  ไร่  1 งาน  87  ตารางวา  โดยที่จับกุมได้มากที่สุดที่ อ.งาว 19  คดี  เถิน 14 คดี แจ้ห่ม 14 คดี เมืองปาน  6 คดี  เมืองลำปาง 4  คดี  แม่เมาะ  3  คดี  วังเหนือ 2 คดี ห้างฉัตร 1 คดี  เกาะคา 1 คดี และแม่พริก 1 คดี

เดือนกุมภาพันธ์  2557  จำนวน 40  คดี ผู้ต้องหา  5  คน เป็นคดีตรวจยึดไม้/สัตว์ป่า  31 คดี   ไม้สักท่อน  247  ท่อน   ไม้สักแปรรูป  35  แผ่น  ไม้กระยาเลยท่อน 55  ท่อน    ไม้กระยาเลยแปรรูป  157  แผ่น   ไม้กฤษณาสด  151 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ 6 คัน รถ จยย. 8 คัน เครื่องยนต์ 1 เครื่อง เลื่อยโซ่ยนต์ 8 เครื่อง มอเตอร์ไฟฟ้า 4 เครื่อง และอุปกรณ์อื่นๆจำนวนมาก  โทรศัพท์ มือถือ 4 เครื่อง เงินสด 131,965 บาท  ส่วนคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ   จำนวน  9  คดี   พื้นที่ป่าถูกบุกรุกแผ้วถาง 125 ไร่ 1  งาน  28  ตารางวา  ซึ่งที่ อ.งาวยังคงจับกุมได้มาที่สุด 17 คดี รองลงมาคือ แจ้ห่ม 9 คดี เถิน 4 คดี วังเหนือ 3 คดี เมืองลำปาง 2 คดี แม่เมาะ 2 คดี        เมืองปาน 1 คดี เสริมงาม  1 คดี  และแม่พริก 1 คดี       
เดือน มีนาคม  2557 จำนวน   53  ผู้ต้องหา 2  คน  คดีตรวจยึดไม้ 40 คดี ไม้สักท่อน 736 ท่อน  ไม้สักแปรรูป 5
 ,759 แผ่น/เหลี่ยม  ไม้กระยาเลยท่อน 110 ท่อน  ไม้กระยาเลยแปรรูป 227 แผ่น/เหลี่ยมรถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน รถยนต์ 5 คัน รถ จยย.12 คัน เครื่องยนต์  ต้นกำลัง 3 เครื่อง เลื่อยโซ่ยนต์ 9 เครื่อง เรือหางยาว 7 ลำ  มูลเลย์พร้อมเพลา 4 ชุด ใบเลื่อยวงเดือน 4 ใบ สายพาน 4 เส้น สลิงพร้อมโซ่ 1 เส้น  ล้อเข็น 1 คัน และอื่น 1 3 รายการ   สำหรับคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ   จำนวน  13  คดี   พื้นที่ป่าถูกบุกรุกแผ้วถาง 145 ไร่ 2 งาน  25  ตารางวา  และจับได้มากสุดที่ อ.งาว  13 คดี          เมืองลำปาง 9 คดี แจ้ห่ม  7 คดี เมืองปาน 7 คดี เถิน 6 คดี เสริมงาม 5      คดี แม่เมาะ 4 คดี วังเหนือ 1 คดี  และสบปราบ 1 คดี 

สังเกตได้ว่าเพียงไตรมาสแรกในปี 2557 สามารถตรวจยึดไม้เถื่อน ทั้งไม้สัก ไม้กระยาเลย ที่ยังไม่ได้แปรรูป 1,412 ท่อน และแปรรูปแล้ว  6,780 แผ่น    รวมทั้งหมด 8,192 ท่อน/แผ่นเหลี่ยม  ส่วนผู้ที่ถูกจับกุมตัวได้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนเข้ามาตัดไม้ในเขตป่าสงวนและตั้งโรงงานแปรรูป เพื่อลำเลียงส่งออกไปนอกพื้นที่ โดยที่ไม่เคยจับกุมถึงคนบงการได้แม้แต่ครั้งเดียว  

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การจะสาวถึงตัวคนบงการนั้นจะต้องมีหลักฐานแน่นหนาและชัดเจน แต่เนื่องจากทุกวันนี้ ไม่สามารถหาหลักฐานที่ชี้ไปถึงตัวการใหญ่ได้ จริงอยู่ที่ชาวบ้านบอกว่ารับงานมาจากใคร แต่เราไม่มีหลักฐานที่จะไปจับกุมได้ เพราะการว่าจ้างชาวบ้านนั้นเป็นการบอกด้วยวาจา ไม่ได้มีการทำเป็นลายลักษณ์อักษร ทุกวันนี้จึงทำได้เพียงตรวจยึดของกลาง และจับกุมตัวผู้ที่ลักลอบตัดได้เท่านั้น ซึ่งโทษก็ไม่หนักมากนักเพียง 2 ถึง 5 ปีเท่านั้น  

ทั้งนี้ จากการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำปาง ครั้งที่ 5/2557  เมื่อวันที่ 29 พ.ค.57 ที่ผ่านมา ได้มีการสรุปสถานการณ์ปัจจุบันการลักลอบกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายป่าไม้ที่ 13 สาขาลำปาง   มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทำกันเป็นขบวนการ และสรุปผลการตรวจปราบปรามการ  กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทและนอกเขต   อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท  โดยที่ผ่านมาได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่  13 สาขาลำปางดำเนินการตามแผนสนธิกำลังฯ  ระหว่างวันที่ 9-27 เมษายน  2557 ดำเนินคดีจำนวน 17 คดี ผู้ต้องหา 4 คน ยึดของกลางไม้กระยาเลยท่อน   (ชิงชัน ประดู่ เต็ง)  จำนวน 71 ท่อน ประมาตร 12.40 ลบ.ม. ไม้กระยาเลย  แปรรูป (ชิงชัน ประดู่ รัง มะค่าโมง) 465 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 28.04 ลบ.ม.  รถยนต์ 9 คัน  

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้กล่าวในที่ประชุมว่า  การกระทำความผิดกฎหมายป่าไม้ ช่วงนี้เพิ่มมากขึ้น กำชับทุกหน่วยให้มีการบูรณาการแผนการปฏิบัติร่วมกัน ทั้งด้านการป้องกัน  การตรวจจับดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด และการเฝ้าระวังพื้นที่ที่เหลืออยู่ ไม่ให้มีการบุกรุกแผ้วถางได้อีก  เช่น ป่าไม้ที่มีมูลค่าสูง ป่าไม้หวงห้าม  (ไม้สัก ไม้ชิงชัน ฯลฯ)  โดยนำระบบ GIS  มาใช้และทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.57  พ.ต.อ.จาตุรงค์ แพโต ผกก.สภ.แม่ทะ พร้อมกำลังตำรวจ สภ.แม่ทะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.แม่ทะ เจ้าหน้าที่ป่าไม้  ได้เข้าตรวจสอบบริเวณถนนสายลำปาง-แพร่ เขต บ้านนาฟาน หมู่ 5 ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง  หลังจากได้รับแจ้งจากกำลังเจ้าหน้าที่ นทล.มทบ.32  หรือ หน่วยทหารขนาดเล็ก มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี นำโดย ร.ต.ปรีชา ปัญญา หน.ชุด ชป.นทล.มทบ.32  ว่าได้นำกำลังควบคุมรถยนต์กระบะโตโยต้า ที่คาดว่าติดป้ายทะเบียนปลอม เลขทะเบียน บร-2248 พิษณุโลก บริเวณด้านหลังกระบะท้ายต่อโครงเหล็กและคุมผ้าใบมิดชิด แต่จากการตรวจสอบพบไม้เถื่อน เป็นไม้สักท่อนขนาดความยาวประมาณ 1 เมตร มากกว่า 87 ท่อนอัดซ้อนกันอยู่เต็มคันรถ  ส่วนผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัยรุ่นสองคน ที่มากับรถได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทางหลายไปทันที แม้ทางเจ้าหน้าที่จะวิ่งติดตามแต่ก็ไม่ทัน 

เมื่อเจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบใบขับขี่ของหนึ่งในสองคนที่หลบหนีตกในที่เกิดเหตุ และภาพถ่ายที่ทางทหารได้ถ่ายไว้ขณะขอความร่วมมือชายทั้งสองให้เปิดผ้าใบรถ แต่พอทหารเผลอทั้งสองก็วิ่งหลบหนีเข้าป่าไปทันที นอกจากนี้ยังมีป้ายทะเบียนปลอมอีกหลายป้ายวางอยู่บนเบาะที่นั่งคนขับ  คาดว่ากลุ่มนี้ใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ในการขนย้ายไม้เถื่อน  และทราบว่านายทุนที่สั่งไม้ดังกล่าวเป็นผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่แห่งหนึ่งที่ จ.แพร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป

ส่วนการจับกุมไม้เถื่อนได้ในครั้งนี้ จากการข่าวของ มทบ.32 ทราบว่าจะมีขบวนการขนไม้เถื่อนลักลอบขนไม้ออกจากพื้นที่ จ.ลำปาง ไป ยังจังหวัดแพร่ โดยใช้เส้นทาง ถ.สายลำปาง-แพร่ ทาง ดังนั้น พลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 32 สั่งการให้ พ.อ.กวิน ยาวิชัย หก.ฝขว.กกล.รส.มทบ.32 หัวหน้าฝ่ายข่าวกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.32 สั่งให้กำลังทหาร งานด้านการข่าวลงพื้นที่หาข่าว และให้หน่วยทหารขนาดเล็ก มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ซุ่มอยู่ป่าข้างทาง ถนนสายดังกล่าว จนกระทั่ง พบรถต้องสงสัย ที่บรรทุกสิ่งของมิดชิดขับผ่านมา  กำลังทหารงานด้านการข่าวจึงขับรถติดตามและให้สัญญาณเพื่อขอตรวจสอบ เมื่อคนขับรถจอดและลงจากรถมาโดยมีชายวันรุ่นสองคน แสดงตัวทางเจ้าหน้าที่จึง ขอความร่วมมือในการตรวจสอบสิ่งของท้ายรถโดยให้ทั้งสองเปิดผากระบะท้ายรถ และทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพไว้ด้วยแต่ระหว่างนั้น ชายวัยรุ่นทั้งสองคนที่เห็นเจ้าหน้าที่เผลอได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทางไปทันทีแม้ทางเจ้าหน้าที่จะวิ่งไล่ติดตาม แต่ก็ไม่ทัน จึงได้เรียกและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ และยึดของกลางทั้งหมดเพื่อสืบหากลุ่มขบวนการนี้ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นขบวนการค้าไม้เถื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนืออีกด้วย

หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 981 ประจำวันที่  6 - 12 มิถุนายน 2557)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์