คล้ายวางยาสลบ
แต่ดูเหมือนยาแรงไปจนอาจไม่ฟื้นขึ้นมาอีก สำหรับการปิดวิทยุชุมชน
ในนามของการคืนความสุขให้ชาติ ที่กำลังกลายเป็นความเศร้าของคนตัวเล็กตัวน้อยที่ทำมาหากินสุจริตในสังคมนี้จำนวนไม่น้อย
จากวันที่
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศฉบับที่ 32/2557 เรื่อง ระงับการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชน
ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย และสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ
ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2557 ซึ่งหมายความว่า
สถานีวิทยุท้องถิ่นทั้งหมดทั้งที่มีใบอนุญาตทดลองออกอากาศ และไม่มีใบอนุญาตทดลองต่างต้องหยุดการออกอากาศทันที
ผ่านไป 3 สัปดาห์
เหล่านักจัดรายการวิทยุ ร่วมไปถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนรายการประจำก็เริ่มพูดคุยกันด้วยความวิตกกังวล
เพราะการหยุดออกอากาศเริ่มส่งกระทบต่อธุรกิจ แต่ในความวิตกกังวลนั้นก็ยังพอมีความหวัง
เมื่อกองทัพภาค และ กสทช.เขตต่างๆเริ่มส่งสัญญาณและเงื่อนไข “ที่จะต้องทำ” เพื่อให้สถานีวิทยุได้ออกอากาศ
นั่นคือ ต้องเตรียมยื่นเอกสารต่างๆไม่ว่าจะเป็น ใบอนุญาตทดลองออกอากาศ (ใบครุฑแดง)
ที่ได้รับจาก กสทช. เอกสารจดแจ้งนิติบุคคล กลุ่มบุคคลหรืออะไรก็ตามตามเงื่อนไขที่ได้ยื่นเพื่อขอรับใบอนุญาตทดลองออกอากาศไว้แล้ว
โดยประเภทกิจการบริการธุรกิจ
ให้ออกอากาศวิทยุกระจายเสียงไม่เกิน 1 นิติบุคคล ต่อ 1 สถานีเท่านั้น
และผู้ถือหุ้นใหญ่ของนิติบุคคลจะต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่การให้บริการตลอดระยะเวลาการออกอากาศ
ประเภทกิจการบริการสาธารณะ ให้ออกอากาศวิทยุกระจายเสียงไม่เกิน 1 นิติบุคคล ต่อ 1 สถานี ต่อ 1 จังหวัด
เท่านั้น
โดยจะต้องมีการจัดตั้งสาขาของนิติบุคคลในแต่ละจังหวัดที่เป็นเขตพื้นที่การให้บริการ
ประเภทกิจการบริการชุมชน ให้ออกอากาศวิทยุกระจายเสียงไม่เกิน 1 สถานี ต่อ 1 จังหวัด
ในขั้นตอนการดำเนินการกลั่นกรอง
จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง กองทัพภาคและสำนักงาน กสทช.เขต นอกจากนี้ต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตมี-ใช้เครื่องส่งและตั้งสถานี
หากไม่มี ก็ต้องผ่านการตรวจมาตรฐานเครื่องและมีเวลาให้ดำเนินการจนเป็นผู้ได้รับอนุญาตภายใน
60 วัน สำหรับผู้ที่ตรวจเครื่องแล้วก่อนหน้า
และ 90 วัน สำหรับผู้ที่ยังไม่ดำเนินการตรวจเครื่อง
ต้องไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ระหว่างนี้หากผู้ที่อยู่ในแวดวงวิทยุชุมชน ติดตามข่าวสาร
จะเห็นได้ว่ามีการเข้าตรวจค้นและยึดวิทยุชุมชนที่ลักลอบออกอากาศอยู่ในหลายจังหวัด
นั่นแสดงให้เห็นว่ายังมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวภายใต้คลื่นวิทยุ
แต่หากมาดูในแง่สถิติข้อมูลจาก กสทช.
มีสถานีวิทยุชุมชนที่ได้รับใบอนุญาตทดลองออกอากาศจาก กสทช. มีทั้งสิ้นราว 4,700 สถานี ในจำนวนดังกล่าว
หากตัดในส่วนของสถานีวิทยุที่มีชื่อนิติบุคคลผู้ประกอบการซ้ำกันจะเหลือราว 3,500
สถานี
ส่วนจำนวนสถานีวิทยุที่ลักลอบออกอากาศแบบผิดกฎหมายโดยไม่มีใบอนุญาตจาก กสทช.
มีทั้งสิ้นราว 2,000 - 3,000 สถานี หรือจากตัวเลขนี้เป็นเหตุผลให้ กสทช.
ถือโอกาสทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูหน้าปัทม์วิทยุจากคลื่นวิทยุที่ไม่เข้าร่องเข้ารอย
ที่ไม่ทำตามกฎกติกา
ถ้าเหตุผลเป็นเช่นนี้จริงทุกสถานีวิทยุที่ดำเนินตามกฎกติกามารยาทพร้อมที่จะเข้าใจ
แต่กาลเวลาไม่คอยท่า ไฟแนนซ์หนี้สินไม่คอยใคร ดอกเบี้ยไม่มีวันหยุด
นักจัดรายการหลายคนทำหน้าที่ให้ความสุขผ่านเสียงเพลงกับผู้ฟังทางบ้านมาจากใจรักทั้งสิ้น
รักที่จะมอบเสียงเพลงเพราะๆ นำข่าวสารข้อมูลของภาครัฐเผยแพร่ไปยังผู้ฟัง
เป็นช่องทางหนึ่งที่เข้าถึงชุมชนท้องถิ่นได้อย่างใกล้ชิด
และยังเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่แม้จะไม่มากจนสร้างฐานะร่ำรวยได้แต่ก็เพียงพอที่จะดูแลคนใกล้ชิด
แต่ที่แน่ๆตอนนี้สถานีวิทยุที่อยู่ในกรอบกติกาที่ต้องการจะออกอากาศ
เรื่องแรกที่ต้องดำเนินคงไม่พ้น การตรวจสอบมาตรฐานเครื่องส่ง มีประมาณ 16 แห่งทั่วประเทศ แล้วหากสถานี ทั้ง 3,500
แห่ง ต้องการนำเครื่องเข้าตรวจมาตรฐานพร้อมๆกัน
อย่างน้อยก็ร่นระยะเวลาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะโกลาหลกันขนาดไหน
จนล่าสุดมีข่าวแว่วมาว่ามีกลุ่มคนฉวยโอกาสหลอกว่าจ่ายเงินครึ่งแสนรับประกันผ่านการตรวจแน่นอน
.คนก็กำลังเดือดร้อน ยังมาซ้ำเติมหลอกกันได้....แบบนี้มันน่าให้พี่ทหารจับมาลงโทษเสียให้เข็ด
จะว่าไปแล้ว
แร็ค ลานนา ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะขาดเสียงเพลงในที่ทำงาน
ส่วนเรื่องผลกระทบไม่ต้องพูดถึง
นาทีนี้ก็ได้แต่วิงวอนให้เดินหน้าเรื่องเอกสารเพื่อเหล่าคลื่นวิทยุชุมชนทั้งหลาย
จะได้กลับมา “คืนความสุข” ผ่านเสียงเพลงได้เหมือนที่ผ่านมา
เพราะหากทิ้งเวลาไปนานกว่านี้ แร็ค ลานนา อาจจะต้องประกาศ Sale ตัวเองพร้อมหนี้สิน ใครสนใจติดต่อด่วน
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 982 ประจำวันที่ 13 - 19 มิถุนายน 2557)