วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ลำปาง อยู่ในป่าไม่เห็นต้นไม้



ข่าวการจับขบวนการโค่นไม้ หลายระลอกต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้คนลำปางได้รู้ว่า บ้านของเขา เป็นแหล่งที่อุดมด้วยป่าไม้ธรรมชาติถึง 70 % เป็น 1 ใน 5 จังหวัดของประเทศไทย นี่คือป่าที่เป็นชีวิตของคนลำปาง

ป่าไม้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่า เป็นสมบัติของชาติ เป็นแหล่งรวมปัจจัย 4 ที่สำคัญ ตามคำที่ว่า “มีป่า มีชีวิต” การตัดไม้ทำลายป่าจึงไม่ต่างอะไรกับการตัดชีวิต

จังหวัดลำปาง มีข่าวการลักลอบตัวไม้มาตลอด คนลำปางจะรู้หรือไม่ว่า เกือบ 80% ของพื้นที่ลำปางเป็นพื้นที่ป่าไม้ คนลำปางรู้หรือไม่ว่าเรามีอุทยานแห่งชาติในจังหวัดลำปางถึง 6 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล  ( อยู่ในเขต อ.แม่ทา จ.ลำพูน และ อ.ห้างฉัตร อ.เมือง จ.ลำปาง)  อุทยานแห่งชาติดอยจง (ตั้งอยู่ในท้องที่ของ อ.เถิน อ.สบปราบ อ.แม่พริก จ.ลำปาง และ อ.ลี้ จ.ลำพูน) อุทยานแห่งชาติแม่วะ (อ.เถิน จ.ลำปาง) อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย  (อยู่ในเขต อ.ลอง อ.วังชิ้น จ.แพร่และ อ.เถิน อ.สบปราบ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง) อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทย (อ.แจ้ห่ม อ.งาว จ.ลำปาง)  และอุทยานแห่งชาติแม่ยม (อ.งาว จ.ลำปาง และ อ.สอง จ.แพร่) 

ล่าสุด มูลนิธิสืบนาคะเสถียร มูลนิธิที่เกิดมาจากการอุทิศชีวิตของคนรักษ์ป่าและธรรมชาติ ได้เปิดเผยข้อมูล เนื้อที่ป่าไม้จากการสำรวจปีล่าสุดถึงปี 2552 เหลือเพียง 33.44 %  ลดลงจากข้อมูลในปี 2504 ซึ่งมีเนื้อที่ป่า 53%  ในช่วงเวลา 50 ปีที่ผ่านมา จังหวัดที่เคยมีเนื้อที่ป่าไม้ปกคลุมมากกว่า 70% ของพื้นที่ ได้แก่ จ.กำแพงเพชร  เชียงใหม่  ตาก  น่าน  เพชรบูรณ์  แม่ฮ่องสอน  ลำปาง  ลำพูน  อุตรดิตถ์  อุทัยธานี  สกลนคร, กาญจนบุรี  เพชรบุรี  ประจวบคีรีขันธ์  ชุมพร  พังงา  ระนอง และสตูล 

แต่ปัจจุบัน มีจังหวัดที่เหลือป่าปกคลุมมากกว่า 70%  คือ  เชียงใหม่  ตาก  น่าน แม่ฮ่องสอน และ ลำปาง
เหลือเพียง 5 จังหวัด เท่านั้น!!!  

และมีเพียง 4 จังหวัดที่มีพื้นที่ป่ามากขึ้น ได้แก่ จังหวัด  ลำปาง ภูเก็ต ลพบุรี และพังงา
 
จะเห็นได้ว่า ภาคเหนือ ยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์ ที่มีสภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง มีไม้สัก ประดู่ มะค่าโมง ชิงชัน และสารพัดพันธุ์ไม้ เรียกได้ว่าเป็นไข่ทองคำของกลุ่มมิจฉาชีพที่ลักลอบขายสมบัติของชาติแปรสภาพเป็นเงินเข้ากระเป๋านายทุน 

ข่าวการจับมอดไม้ วายร้ายเห็นแก่ตัวที่ลักลอบตัดไม้มีให้เห็นตลอดเวลาแทบจะทุกเดือนก็ว่า แต่ละครั้งที่ตับได้ก็ได้ของของเป็นไม้แผ่นเหลี่ยม หลายพันแผ่น บ้างที่เป็นไม้ท่อนหลายพันท่อน มูลค่าหลักล้านบาททั้งนั้น แต่ในแต่ละครั้งที่มีการจับได้ มักจะเหลือเพียงซากอุปกรณ์ไว้ให้ดูต่างหน้า ไม่ว่าจะเป็นเลื่อยยนต์ อุปกรณ์แปรรูป แผ่นไม้ และเศษซากไม้ ตอไม้ ทิ้งไว้ให้ช้ำใจ โดยที่ผ่านมาไม่เคยจับตัวผู้กระทำผิดได้เลย ฉะนั้นการสาวถึงตัวการใหญ่แทบจะเป็นไปไม่ได้

แต่คำถามอยู่ที่ ทำไมวายร้ายเหล่านั้นจึงหนีไปได้ทุกที?! 

และมักจะเป็นการ “หนี” ก่อนที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเข้าไปถึงที่ได้แทบทุกครั้งไป  จนตั้งข้อสังเกตได้ว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ คนในพื้นที่ ร่วมมือการเป็นกระบวนการ เพราะต้นไม้ไม่ใช่ปุยนุ่นจะได้ลักลอบตัดกันอย่างเบาๆเงียบๆ ฉะนั้นหากไม่มีเวทมนต์สีเทาปิดปาก “คนใน” ที่เกี่ยวข้องในเวลาเพียงครึ่งศตวรรษ พื้นที่ป่าไม้จะหดหายไปถึงครึ่งได้อย่างไร

ตามหลักวิทยาศาสตร์ สสารไม่มีวันสูญหาย แต่อาจเปลี่ยนสถานะรูปร่างได้ ฉันใดก็ฉันนั้น 

ผลประโยชน์จากการตัดไม้ทำลายป่าก็แปรสภาพจาก “ต้นไม้” ไปเป็น “เงิน” ย่อมต้องมีเส้นทางการเดินทางของ “เงินที่ได้มามิชอบ” จะไปเข้ากระเป๋าใครบ้าง ก็ต้องตรวจสอบเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษเสียให้เข็ด หากจะว่าไปแล้วคนในพื้นที่ ต่่างก็รู้กันดีว่าใครเป็นตัวการบ้าง แต่ไม่กล้าลงดาบเอาผิด

นาทีนี้คงต้องพึ่ง คณะรักษาความสงบของชาติ (คสช.) ที่ขอให้นำตัวนายทุน กลุ่มคนมีสีที่ร่วมมือกันทำลายสมบัติของชาติ มารับกรรมรับผิด ก่อนที่ป่าจะหมดไปจากประเทศไทย

กว่าธรรมชาติจะใช้เวลาโอบอุ้มดูแลต้นไม้เหล่านี้ให้เติบใหญ่สูงชัน ทำหน้าที่เป็นแหล่งผลิตอากาศให้เราหายใจ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร  เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ รวมถึงที่อยู่อาศัยของคนทุกชนชั้น เป็นคลังยาสมุนไพร เป็นแหล่งอาหาร แต่ใช้เวลาหักโค่นเพียงนาทีเดียว

ป่าคือชีวิต เป็นชีวิตของคนลำปางทั้งระบบ เราคงไม่ปล่อยให้คนต่างถิ่นเข้ามาทำลายป่า ฆ่าคนถึงในบ้าน
           


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 983 ประจำวันที่  20 - 26 มิถุนายน 2557)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์