ข้อถกเถียงสำคัญ ในปรากฎการณ์เจนี่
เทียนโพธิ์สุวรรณ คือ สื่อรุกล้ำเข้าไปในเรื่องส่วนตัวของเธอ หรือไม่ หรือเธอยอมให้สื่อรุกล้ำ
ด้วยวิธีที่ชาญฉลาดยิ่ง คือไม่ให้สัมภาษณ์หรือเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
แต่ปล่อยของทีละนิด ทีละหน่อย ให้สื่อติดตาม ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์
โดยมีแรงส่งจากไลน์ต่างๆของคนที่เกี่ยวข้อง
สำคัญอย่างยิ่งคือเธอรู้ว่าความเป็นบุคคลสาธารณะ หรือ Public Figure ของเธอเป็นเรื่องที่ขายได้ และยิ่งเธอปิดบ้าง เปิดบ้าง
ยิ่งกระตุ้นความกระหายใคร่รู้ของสื่อมวลชน และทำให้เธอสามารถยึดครองพื้นที่สื่อไปอีกยาวนาน
การยึดครองพื้นที่สื่อมากที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาคงไม่พ้น
เรื่องเตียงหัก รักล่ม ของ มาดามปากน้ำ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ที่ตอนนี้กลายเป็น “อดีตมาดาม” ไปแล้ว
กระแสรักเร็วเลิกเร็วของดารา
ที่เรียกได้ว่าเป็นคนของประชาชน เป็นบุคคลสาธารณะ มีแฟนคลับมากมาย ยิ่งเป็นนางเอกระดับแถวหน้าของเมืองไทย
ย่อมต้องได้รับความสนใจในทุกย่างก้าว โดยเฉพาะ “เรื่องส่วนตัว”
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ
จดทะเบียนสมรส กับ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม
ปีที่แล้ว
ก่อนหน้าที่จะมีการจดทะเบียนและแถลงข่าวอย่างสายฟ้าแลบนั้นได้มีกระแสในโลก
โซเชียลมีเดียเกี่ยวกับรูปที่เจนี่ทำภาษามือที่แปลว่ารัก
รวมถึงมีนักสืบไซเบอร์เชื่อมโยงรูปในอินสตาแกรมที่ติดแท็ก #MBHJA สังเกตแม้กระทั่งภาพที่เจนี่นอนหนุนตักใครบางคนที่เชื่อว่าเป็นผู้ชาย
โดยสังเกตเห็นขนแขนในลักษณะผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด !!!
อุเหม่...เล็งกันทุกรูขุมขน
จนในที่สุดกระแสข่าวถึงความสัมพันธ์ลึกลับระหว่าง
เจนี่-เอ๋ ที่ก่อนหน้านี้เจนี่ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่ แต่นักข่าวก็ติดตามทุกย่างก้าวจนได้ข้อมูลตรงกันทุกสำนัก
ในที่สุดได้มีการเปิดบ้านอัศวเหมแถลงข่าว ก่อนหน้าที่จะแถลงข่าวไม่กี่ชั่วโมงจำได้ว่าเช้าวันนั้นก็มีภาพหลุดว่า
เจนี่-เอ๋ ได้จดทะเบียนสมรสและโชว์แหวนแต่งงานหลังจากดูใจกันมา 5 เดือน พร้อมโชว์ผลการตรวจว่าไม่ได้แต่งงานเพราะท้อง ท่ามกลางแสงแฟลชของนักข่าวที่กดชัตเตอร์กันรัวๆ
เรียกได้ว่าข่าวยึดพื้นที่ข่าวทุกสำนัก แม้กระทั่งข่าวการเมืองร้อน ที่กำลังพิจารณา
ก.ม.นิรโทษกรรมการเมืองใช้ช่วงเวลาเดียวกัน
จากวันที่นางเอกสาวสร้างเซอร์ไพรส์มาจนถึงวันนี้
ผ่านไป 11 เดือน
ก็ได้เกิดกระแสคลื่นใต้น้ำมาเรื่อยๆ และที่ทำให้กระแสเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
และปิดเกมเร็วคงไม่พ้น ภาพสาวหน้าคล้ายเจนี่
ในสภาพร่างกายที่บอบช้ำทั้งเรือนร่าง
ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการทำรายผู้หญิงที่ไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะปกป้องตัวเอง
แม้การตบหน้าฉาดเดียวก็ถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก
ซึ่งก่อนหน้าที่ภาพสาวคล้ายเจนี่ในสภาพร่างกายบอบช้ำจะหลุดมาในโลกไซเบอร์
นั้น
ได้มีกระแสเรื่องกิ๊กหน้าในคนใหม่ของสามีเจนี่
ที่นักสืบไซเบอร์สืบค้นหาข้อมูลหลักฐานกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
จนแทบจะฟันธงได้ว่าเป็นเรื่องจริง แต่จนแล้วจนรอดเรื่องก็เริ่มเงียบๆซาๆไป
จนนักข่าวก็ตามไปสืบเซาะเกาะติดจนรายงานกันว่าเจนี่งอนเอ๋มาได้
4 เดือน แล้ว โดยที่เอ๋ก็ไม่ได้ตามง้อเสียด้วย
หากไม่มีภาพหลุดเรื่องก็คงจะเงียบไปตามกระแสคลื่นข่าวกระทบฝั่งที่มักจะแตก
ฟองสลายหายไปในไม่ช้า
แต่ภาพหลุดทั้งสาวร่างช้ำทั้งร่าง
บทสนทนาทางไลน์จากกลุ่มแก๊งค์นางฟ้าเพื่อนเจนี่ ที่มีเพื่อนในกลุ่มถึง 30 คน ที่มีบทสนทนาวิจารณ์เมาท์มอยตามสไตล์เพื่อนฝูงแต่เมื่อออกสื่อมันดูไม่งามจน
สามีของเพื่อนเซเลบคนดังตั้งออกมาขอโทษผ่านสื่อกับพฤติกรรมการเมาท์สตรีเพศแม่ จนในที่สุดนักข่าวทุกสำนัก
ผู้เสพข่าวทุกคนไม่ต้องคาดเดาเมื่อนางเอกสาวเจนี่แจ้งว่าจะแถลงข่าวและหลังจากนั้นจะเดินทางไปพักผ่อนที่อเมริกาซักเดือน
จนแล้วจนรอด เจนี่ก็สับขาหลอกไม่มีการแถลงข่าวในวันที่
29 ก.ค.ที่ผ่านมา ในวันนั้นมีแต่การเดินทางไปดำเนินการหย่าขาด
กับ เอ๋ ชนสวัสดิ์ ผู้ชายที่เจนี่เคยพูดว่าเป็นผู้ชายที่อบอุ่น ใจเย็น
โดยเป็นการเซ็นใบหย่าโดยไม่เจอหน้ากัน ซึ่ง เอ๋ ชนสวัสดิ์
ก็ได้มีการทำบุญศาลพระภูมิเจ้าที่ที่บ้านเพื่อปัดรังควาน ดูจะเป็นการตบโต้เชิงสัญลักษณ์กันในที
และปิดข่าวปิดตำนานรัก “J&A 355 วัน” ด้วยภาพเจนี่โชว์ใบหย่าที่มีการแชร์ผ่านทุกช่องทางสื่อ
ดูเหมือน แร็ค ลานนา
จะติดตามข่าวแซ่บนี้ซะละเอียดเสียเหลือเกิน
ก็อยากจะบอกว่า ถึงจะไม่ได้โปรดปรานข่าววงการบันเทิงเป็นอาหารหลัก
แต่เรื่อง เจนี่-เอ๋ ดูจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยากเสียเหลือเกิน เพราะข่าวนี้กินพื้นที่ในโลกออนไลน์ที่ข่าวสารอยู่ในอุ้งมือ
ทั้งเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม เว็บบอร์ดยอดฮิตอย่างพันทิพ สนุกดอทดอม
ข่าวนี้ไม่จบแค่ในโลกออนไลน์ บนหน้าหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่หลายสำนัก ก็พาดหัวข่าวใหญ่ชนิดไม่ต้องใส่แว่นตาก็ยังมองเห็น
รวมไปถึงรายการข่าวเช้ายอดฮิตที่เทพื้นที่ให้อย่างเต็มใจและที่สำคัญเรียกเรตติ้งได้เยอะเสียด้วย
แต่อีกมุมของเรื่องนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามแม้สองคนนี้จะเป็นคนของประชาชน
แต่เรื่องอกหักรักคุดตุ๊ดเมิน ถือเป็นเรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัว ซึ่งในบางครั้ง
ดาราก็ฉกฉวยสถานการณ์นี้
เปิดเรื่องส่วนตัวกันอย่างจะแจ้งเพื่อรักษาพื้นที่หน้าหลักไว้
โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 989 ประจำวันที่ 1 - 7 สิงหาคม 2557)