วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

โศกนาฎกรรมเกาะเต่า

              
                    

ฮานน่า วิทเธอร์ริดจ์ และเดวิด มิลเลอร์ หนุ่มสาวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ คงไม่คาดคิดว่าเธอและเขาจะต้องเดินทางกลับบ้านในร่างที่ห่อด้วยผ้าสีฟ้า หลังปาร์ตี้ลืมตายที่เกาะเต่า 

แต่ฉับพลันที่คนทั้งสองสิ้นลมหายใจ คำเตือนของรัฐบาลอังกฤษไปยังพลเมืองของตนให้ระมัดระวัง ทั้งที่เกาะเต่า สุราษฎร์ธานี เกาะภูเก็ตพัทยา ไปจนเชียงใหม่และหลายจังหวัดในภาคเหนือ ก็ส่งผลสะเทือนอย่างสำคัญต่อการท่องเที่ยว ที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของคนท้องถิ่น แม้ว่าในที่สุดฆาตกรที่ลงมือสังหารเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างโหดเหี้ยมจะเป็นคนสัญชาติเดียวกันก็ตาม

น่าสนใจว่า หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น หลายฝ่ายต่างพุ่งเป้าไปที่คนงานต่างด้าว ที่เป็นแรงงานหลักบนพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเลในภาคใต้ ด้วยคิดว่าคนเหล่านั้นไม่มีอารยธรรม เป็นคนที่ไม่มีสำนึกผิดถูก หนังสือพิมพ์กระแสหลักหลายฉบับ ฟันธงอย่างไม่ลังเลว่า เป็นฝีมือของคนต่างด้าว ทั้งที่คนตะวันตกที่มาจากชาติศิวิไลซ์นั่นเอง ที่เป็นต้นแบบของความเลวทุกชนิด ปาร์ตี้ฟูลมูนที่เกาะพงันอันเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก ก็มีภาพการมั่วสุมทางเพศที่ไม่อาจปฎิเสธได้

ก่อนที่สำนวน คดีพิศวาสฆาตกรรมจะชัดเจนว่า ใครคืออาชาญกรตัวจริง นักวิพากษ์วิจารณ์สังคมทั้งหลายก็ตั้งข้อสังเกตุในท่วงทำนองเดียวกับในทุก ครั้งที่เกิดเหตุ โดยโยนความผิดให้การรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยลืมไปว่าในหลายเหตุการณ์ ผู้ประสบชะตากรรมนั่นเองที่มีส่วนทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับชีวิตตัวเอง เช่น การมั่วสุมรื่นเริงจนเกินควร เกินเวลาปกติที่มนุษย์ทั่วไปจะรื่นเริง การไปยังสถานที่เกิดเหตุที่เปลี่ยว และลับตาคน ซึ่งเป็นเรื่องพ้นวิสัยที่จะดูแลป้องกันได้ ถึงกระนั้น เมื่อเกิดความสูญเสียขึ้น ก็เป็นเรื่องที่สื่อจะต้องระมัดระวังไม่ไปซ้ำเติมพวกเขาอีก 

เช่น คราวเกิดสึนามิที่ฝั่งทะเลอันดามัน หนังสือพิมพ์หลายฉบับ สื่อโทรทัศน์หลายช่องต่างเลือกที่จะใช้ภาพผู้เสียชีวิตในสภาพที่อุจาด และเปลือยเปล่า ซึ่งไม่ต่างไปจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ภาพร่างของสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ในสภาพที่น่าอเนจอนาถ  บริเวณริมหาดทราย เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะสภาพศพในสภาพเปลือยกายของฝ่ายหญิง ที่ถูกเผยแพร่ออกไปโดยไม่มีการเซ็นเซอร์อย่างแพร่หลายในสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์  ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและภาพพจน์ของประเทศไทยอย่างใหญ่หลวงเท่านั้น  หากยังเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ประสบเคราะห์กรรมไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติ ภาษาไหน และเป็นการซ้ำเติมความทุกข์หรือโศกนาฎกรรมของญาติผู้สูญเสียโดยขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบอย่างรุนแรงด้วย

ด้วยเป้าหมายในเชิงธุรกิจ ที่ต้องการขายข่าว ขายภาพ เพียงเพื่อตอบสนองสัญชาติญาณความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ทั้งกรณีนี้  และกรณีหญิงที่กระโดดลงไปฆ่าตัวตายในบ่อเลี้ยงจระเข้  ภายในฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ เป็นเรื่องที่ต้องใช้จิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ อันต้องตระหนักรู้ถึงความเศร้าโศกเสียใจ  ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการเสนอข่าว และภาพซ้ำๆ 

ซึ่งในทางตรงกันข้าม หากความสูญเสียนั้น เกิดขึ้นกับเรา เราจะรู้สึกอย่างไร ในขณะเดียวกัน การแชร์ภาพในสื่อสังคมออนไลน์ ที่อาจทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเหตุผลใดก็ตาม ควรต้องหยุดกระทำเช่นนั้นในทันที เพื่อบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น

เราไม่อาจแยกแบ่งสื่อมวลชนที่ทำงานโดยอาชีพ และผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ออกจากกันได้ เพราะเมื่อคนทั้งสองกลุ่มมีอำนาจการสื่อสาร ที่จะส่งข่าวและภาพออกไปสู่สาธารณชนในวงกว้าง ก็ย่อมทำให้เกิดความเสียหายได้ไม่แตกต่างกัน ในหลายครั้งที่สื่ออาชีพใช้ฐานข้อมูล ใช้ภาพและเรื่องราวในสื่อสังคมออนไลน์ไปขยายความต่อ ถ้าสารตั้งต้นในสื่อสังคมออนไลน์ ถูกผลิตออกมาด้วยความไม่รับผิดชอบ

โรคร้ายของความไม่รับผิดชอบนั้นก็จะระบาดไปทั่ว นี่เป็นประเด็นที่น่าคิดว่า สื่อสังคมออนไลน์ ที่ผู้ใช้เป็นประชาชนทั่วไป ควรต้องมีความรับผิดชอบหรือไม่ อย่างไร

แนวปฎิบัติเรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พ.ศ.๒๕๕๓ กำหนดว่าผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ต้องระวังการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และต้องยึดหลักปฎิบัติตามข้อบังคับจริยธรรมแห่งวิชาชีพอย่างเคร่งครัด ความข้อนี้ ก็ควรเป็นหลักปฎิบัติของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์โดยทั่วไปด้วย เพราะเรื่องของจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อบุคคลอื่นและสังคมนั้น ไม่ใช่เรื่องของผู้ประกอบอาชีพสื่อมวลชน หรือประชาชนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ หากแต่เป็นเรื่องของมนุษย์ที่พึงกระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน

ในขณะที่สื่อเรียกร้อง ความถูกต้องดีงามให้เกิดขึ้นในสังคมนี้ แต่ในหลายกรณีสื่อนั่นเองเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดความเลวร้ายมากขึ้น



(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 996 ประจำวันที่ 19 - 25 กันยายน 2557)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์