อ ยู่ในบรรยากาศวันลอยกระทง
หรือที่เชื่อกันว่าเป็นวัน “เสียสาว” ของทั้งสาวใหญ่ สาวน้อย
คงต้องพูดกันถึงเรื่องรัก เรื่องใคร่ หรือครึ่งรักครึ่งใคร่ ที่หลายครั้งแยกไม่ออก
และแม้เรียกว่าเป็นความรักแต่ก็ไม่ได้ยั่งยืน ความรัก ความยาวนานในการคบหา ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะยั่งยืนไปตลอดกาล
วันเพ็ญ
เดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริงวันลอยกระทง.....
ฉบับนี้แร็ค ลานนา มาแบบฉิ่งฉับ รับประเพณีเผาเทียนเล่นไฟวันลอยกระทง
ที่ปีนี้ได้ยินเสียงจุดประทัด โป้งป้าง วี๊ดบึ้ม น้อยกว่าทุกปี
คงจะเป็นเพราะมาตรการห้ามเล่นเหมือนทุกปีที่ผ่านมา
แต่ปีนี้ยังอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก
ทหารยังอยู่ในหน้าที่ของการดูแลความสงบของบ้านเมือง
สัปดาห์ก่อนมีเรื่องขยี้ใจ
แร็ค ลานนา เป็นอย่างมา
เพราะข่าวเลิกกันอย่างคู่กันมาราธอนที่วางแผนจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ปีหน้า อย่าง
คู่รัก เต๋อ ฉันทวิชช์ –
พีค ภัทรศยา ที่รักกันมานานถึง 7 ปี
เอ๊ะ...หรือจะเป็นอาถรรพ์ 7 ปี
อย่างที่เขาว่ากันซึ่งเรื่องนี้ แร็ค ลานนา ก็ไม่มีประสบการณ์เสียด้วย
เป็นเรื่องธรรมดาของคู่รักคนดัง
ที่ไม่ว่าจะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอะไรก็เป็นข่าวเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง อกหัก
รักร้าง เลิกรา หรือท้องไม่ท้อง
ของเซเลปคนดังล้วนแล้วแต่กระตุ้นต่อมติดตามสถานการณ์ของนักข่าวสายบันเทิง
และเรียกเรทติ้งข่าวจากแฟนคลับไปอย่างดีเยี่ยม
โดยเฉพาะในยุคที่ข่าวสารอยู่ในอุ้งมือตลอดเวลาอย่างทุกวันนี้
เสพข่าวกันนาทีต่อนาที
การที่คู่รักคู่นี้เลิกกัน
เป็นข่าวใหญ่ยึดครองพื้นที่แทบทุกสื่อ
เพราะคู่นี้แทบไม่มีข่าวทะเลาะแบะแว้งหรือมีปัญหาอะไร จะมีก็แต่รูปถ่ายรูป
ที่ปรากฏในการถ่ายแฟชั่นทั่วไป รูปในอินสตาแกรม (แอ๊ปสุดฮิตของเหล่าดารา) โดยเหตุที่คู่นี้ต้องออกมายุติความสัมพันธ์
เพราะเหตุผลที่ว่าความคิดบางอย่างไม่ลงรอยกัน และสะสมมานาน
จนไม่สามารถประคับประครองความสัมพันธ์ในสถานะเดิมต่อไปได้
แน่นอนว่าข่าวนี้แฟนคลับย่อมตกใจ
และต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก อีกทั้งยังมีกระแสข่าวมีพีค มีคนใหม่เข้ามาเป็นมือที่สาม
เป็นทายาทตึกใบหยก และแน่นอนว่าเมื่อมีกระแสข่าว นักข่าวก็ทั้งขุดทั้งคุ้ย
จับแพะมาชนแกะ จนเต๋อต้องเป็นพระเอกผู้อกหักขี่ม้าขาวมาแจ้งว่าชายที่ปรากฏในรูปกับอดีตแฟนนั้นเป็นรุ่นน้องในกลุ่มไปกินข้าวด้วยกัน
และไม่ใช่ทายาทตึกใบหยกอย่างที่เป็นข่าวอยู่แน่นอน
มีรักมีเลิกเป็นเรื่องสัจธรรม
เพราะไม่มีอะไรที่แน่นอนในโลกใบนี้
แต่ที่ดูและแน่นอนและมีแนวโน้มจะแย่ลงเรื่อยๆคือเรื่องการทำหน้าที่หาข่าวของนักข่าว
ที่หลายครั้งดูจะเป็นการจับแพะมาชนแกะ ให้ออกมาเป็นกระแสข่าว
และรอคนที่ตกเป็นข่าวมาแก้ข่าวซึ่งนั่นก็คือการได้มาอีกข่าว
ทั้งที่จริงไม่จริงไม่รู้จะออกข่าวและพาดพิงไว้ก่อน วนๆเป็นวงลูปแบบนี้
เหมือนตอนที่มีกระแสข่าวคลิปสยิวหน้าคล้ายนักเล่าข่าวชื่อดัง
สรยุทธ สุทัศนจินดา จนต้องออกมาชี้แจงปฏิเสธ จนสุดท้ายกระแสข่าวนั้นก็โอ้..ละพ่อ
เป็นคลิปเกาหลี ยังไม่จบแค่นั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นาน
ก็มีคลิปยิ่งกว่าสยิวของดาราคู่หนึ่งคลิปหลุดนี้ไม่เห็นหน้าใดๆ มีเสียงแค่เสียง
และรูปร่างที่บรรจงถอดชุด แต่ก็เป็นกระแสข่าวเปรี้ยงภายในข้ามคืน และที่สำคัญ
มีการคาดเดาอย่างไร้แก่นข้อสันนิษฐานใดๆทั้งสิ้นว่าเป็นดาราชายคนนั้นดาราหญิงคนนี้
จนนักข่าวต้องตระเวนออกหาข่าว ซึ่งแน่นอนไม่มีใครยอมรับ
และในที่สุดกระแสก็เงียบ
เรื่องรักเรื่องใคร่
มันก็เป็นเช่นนี้เอง มีรัก มีเลิก มีสุข มีเศร้า
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1003 ประจำวันที่ 7 - 13พฤศจิกายน 2557)